"สารวัตรแรมโบ้" ไม่หยุด "คดีตู้ ห่าว" ยื่นหนังสือต่อ รมว.ยุติธรรม ให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ
"สารวัตรแรมโบ้" เดินหน้าต่อเนื่อง "คดีตู้ ห่าว" ยื่นหนังสือถึง รมว.ยุติธรรม
ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) รับเป็นคดีพิเศษ
จากกรณีที่นายหาว เจ๋อ ตู้ หรือชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ กับพวกคนจีนที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลจับกุมที่ผับจินหลิง ในท้องที่ สน.ยานนาวา ถูกแจ้งข้อหา 1. สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 2. ร่วมกันค้ายาเสพติด 3. ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อยอดขยายผลบุกเข้าค้นบ้านหรู พร้อมยึดทรัพย์ ที่ดินจำนวนมาก พร้อมเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว ปรากฎว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ยานนาวา ปล่อยรถของกลางคนจีนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี รวมทั้งพบเจ้าหน้าตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจำนวนหนึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องให้ความสะดวกรู้เห็นกับกลุ่มคนจีนที่ทำผิดกฎหมาย จากการให้สัมภาษณ์ของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
จากเหตุผลสำคัญและความจำเป็นดังกล่าวข้างต้น พันตำรวจเอกสุรโชค เจษฎาเดช (สารวัตรแรมโบ้) มูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดในประเทศไทย จึงได้เดินทางมาที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กระทรวงยุติธรรม รับคดีนายหาว เจ๋อ ตู้ หรือชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ คนจีนที่แปลงสัญชาติไทยกับพวกที่เกี่ยวข้องทุกคนอยู่ในอำนาจการสอบสวนการดำเนินคดีเป็นคดีพิเศษ โดยมี ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้รับหนังสือ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา
พันตำรวจเอกสุรโชค เจษฎาเดช (สารวัตรแรมโบ้) มูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดในประเทศไทย กล่าวว่า ตนเองขอชื่นชมและต้องปรบมือให้กับการทำงานของกระทรวงยุติธรรมที่กล้าทำการยึดทรัพย์แก๊งค์คนจีนสีเทากว่าหมื่นล้านบาท และตนก็ได้ปรึกษากับคณะที่ปรึกษาประกอบด้วยข้าราชการทหารตำรวจ ผู้พิพากษา อัยการ นักกฎหมาย และทนายความ จนตกผลึก เห็นควรว่า "ควรอย่างยิ่งที่ให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กระทรวงยุติธรรม ให้รับคดีนายหาว เจ๋อ ตู้ หรือชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ คนจีนที่แปลงสัญชาติไทยกับพวกที่เกี่ยวข้องทุกคนอยู่ในอำนาจการสอบสวนการดำเนินคดีเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลทางการเงิน มีสมัครพรรคพวก มีกลุ่มข้าราชการบางส่วนและเจ้าหน้าที่ตำรวจบางหน่วยงานให้การสนับสนุนช่วยเหลือ อีกทั้งเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนทั้งประเทศในขณะนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย สร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนทั้งประเทศและนักลงทุนต่างประเทศทั่วโลกที่เดินทางเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยให้ผู้กระทำผิดทุกคนได้รับโทษสูงสุดตามกฎหมายบ้านเมืองตามพยานหลักฐาน โดยเฉพาะกรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่ในสายบังคับบัญชาของกระทรวงยุติธรรมที่มีหน่วยงานสำคัญประกอบด้วย สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ทำให้การสืบสวนและสอบสวนคดีนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ หาว เจ๋อ ตู้ กับพวกคนจีนที่เกี่ยวข้อง เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เกิดความรวดเร็วสามารถตอบความเคลือบแคลงสงสัยต่อสังคมได้ หากยังอยู่ในอำนาจการสืบสวนสอบสวนการรวบรวมพยานหลักฐานฝ่ายตำรวจแต่ฝ่ายเดียว
***พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช (สารวัตรแรมโบ้) ประธานมูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดในประเทศไทย ฉายา "ตำรวจมือปราบพระกาฬ" อดีตสารวัตรกองปราบ นครบาล และผู้กำกับสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งทำคดีดังๆ ระดับชาติและนานาชาติมาแล้วมากมาย เช่น .คดีจ้างวานฆ่าคนสนิทหลวงพ่อคูณ คดีฆ่าถ่วงน้ำตระกูลตั้งฮั้วคดีฆ่าเผา 5 ศพตระกูลหลิมบุญเจียมปี 2537 .จับนายจาง ยาไฉ ชาวจีน มือปืนรับจ้างนักฆ่าข้ามชาติ 100 ศพ นำคนร้ายส่งเมืองจีนด้วยตนเอง จับมือปืนรับจ้างนักฆ่าข้ามชาติชาวเยอรมัน 2 คน จับคนร้ายจำนวน 3 คนในคดีเรียกค่าไถ่นักศึกษาสาว จับกุมคนร้ายปล้นทรัพย์ เรียกค่าไถ่นักธุรกิจชาวจีนจำนวน 100 ล้านบาท เมื่อปี 2536 และยังมีคดีที่ปล้นชิงทรัพย์นักธุรกิจชาวจีนอีกหลายคดีที่พันตำรวจเอกสุรโชค เจษฎาเดช ได้ช่วยเหลือนักธุกิจชาวจีนที่ถูกปล้นทรัพย์ชิงทรัพย์หลายคดี รวมทั้งคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญระดับนานาชาติอีกจำนวนมาก