อว.เผย 22 ส.ค.ไทยฉีดวัคซีนโควิดแล้วรวม 26.83 ล้านโดส เข็มสามฉีดให้แก่กลุ่มบุคลากรการแพทย์/สาธารณสุขแล้ว 76.2%
"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 22 สิงหาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 26,832,179 โดส และทั่วโลกแล้ว 4,930 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 226.19 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 83.6%”
➡️(22 สิงหาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 4,930 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 35.9 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 362 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 170 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 226.19 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (76.6% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 88.94 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 22 สิงหาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 26,832,179 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 55.41%
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 4,930 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 22 สิงหาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 26,832,179 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 20,272,171 โดส (30.6% ของประชากร)
-เข็มสอง 6,017,820 โดส (9.1% ของประชากร)
-เข็มสาม 542,188 โดส (0.8% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 22 ส.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 26,832,179 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 404,078 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 486,080 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 9,355,052 โดส
- เข็มที่ 2 3,457,239 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 9,355,052 โดส
- เข็มที่ 2 1,756,231โดส
- เข็มที่ 3 202,632 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 1,758,409 โดส
- เข็มที่ 2 775,279 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 155,647 โดส
- เข็มที่ 2 29,071 โดส
- เข็มที่ 3 339,556 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 121.9% เข็มที่2 105.8% เข็มที่3 76.2%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 53.6% เข็มที่2 32.5% เข็มที่3 0%
- อสม เข็มที่1 60.4% เข็มที่2 28.1% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 35.9% เข็มที่1 6.8% เข็มที่3 0%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 39.2% เข็มที่2 12.1% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 39% เข็มที่2 4.3% เข็มที่3 0%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 4.3% เข็มที่2 0.3% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 40.5% เข็มที่2 12% เข็มที่3 1.1%
5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 เข็มที่ 2 และเข็มที่ 3 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 61.5% เข็มที่2 15% เข็มที่3 1.1% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 83.6% เข็มที่2 19.2% เข็มที่3 1.6%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 38.3% เข็มที่2 15.9% เข็มที่3 0.5%
- นนทบุรี เข็มที่1 38.6% เข็มที่2 13.5% เข็มที่3 0.7%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 42% เข็มที่2 8.8% เข็มที่3 0.5%
- ปทุมธานี เข็มที่1 37.6% เข็มที่2 8.5% เข็มที่3 0.4%
- นครปฐม เข็มที่1 24.9% เข็มที่2 6.3% เข็มที่3 0.7%
จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 19.5% เข็มที่2 6.6% เข็มที่3 0.7%
- ชลบุรี เข็มที่1 33.7% เข็มที่2 10.9% เข็มที่3 1%
- พระนครศรีอยุธยา เข็มที่1 22% เข็มที่2 6% เข็มที่3 0.4%
- สงขลา เข็มที่1 27.1% เข็มที่2 8.6% เข็มที่3 1.1%
- ยะลา เข็มที่1 29.5% เข็มที่2 9.2% เข็มที่3 0.7%
- ปัตตานี เข็มที่1 22.2% เข็มที่2 7% เข็มที่3 0.5%
- ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 44.7% เข็มที่2 7.1% เข็มที่3 0.6%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 226,198,249 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 88,941,175 โดส (20.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. มาเลเซีย จำนวน 30,840,093 โดส (55.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 29,127,240 โดส (14.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 26,832,179 โดส (30.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. กัมพูชา จำนวน 17,904,022 โดส (56.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
6. เวียดนาม จำนวน 16,306,199 โดส (15%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
7. สิงคโปร์ จำนวน 8,726,551 โดส (76.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
8. ลาว จำนวน 3,774,074 โดส (28.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
9. พม่า จำนวน 3,500,000 โดส (N/A* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
10. บรูไน จำนวน 246,716 โดส (41%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 67%
2. ยุโรป 13.12%
3. อเมริกาเหนือ 10.94%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.69%
5. แอฟริกา 1.83%
6. โอเชียเนีย 0.42%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 1,924,39 ล้านโดส (68.7% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 576.12 ล้านโดส (21.1%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 361.68 ล้านโดส (56.5%)
4. บราซิล จำนวน 176.62 ล้านโดส (43%)
5. ญี่ปุ่น จำนวน 115.74 ล้านโดส (45.9%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (87.9% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (82.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. บาห์เรน (82.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
4. สิงคโปร์ (76.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
5. กาตาร์ (75.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
6. อุรุกวัย (75.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. ชิลี (72.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
8. เดนมาร์ก (72%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech และ J&J)
9. อิสราเอล (70.1%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna และ Pfizer/BioNTech)
10. แคนาดา (69.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)