ADS


Breaking News

วิษณุ ปธ.ณุศาศิริ ดัน "My ozone Green box" ต้นแบบท่องเที่ยวไร้โควิด ถึง รมว.ท่องเที่ยวฯ

วิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร(บมจ)ณุศาศิริ ร่างจดหมายเปิดผนึก ถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยว

ร่วมผลักดันสร้างจุดท่องเที่ยวปลอดภัย ใช้ My ozone Green box เป็นโมเดลต้นแบบนำร่องท่องเที่ยวไทยไร้โควิด

เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เข้ามาสร้างวิกฤติให้กับคนทั้งโลก จนหลายคนกล่าวกันว่าเป็นเสมือนสงครามโลกครั้งที่ 3 ที่คร่าชีวิตคนนับล้านคนทั่วโลก ความรุนแรงที่ทวีขึ้นทุกขณะ สร้างความหวาดหวั่นให้กับทุกๆคน  แต่เมื่อชีวิตต้องดำเนินต่อไป  และสุดท้ายนั้น เราก็ต้องอยู่กับโควิดให้ได้ ภาคส่วนเอกชนอย่าง ณุศาศิริฯ บริษัทอสังหาริมทรัพย์แถวหน้าของไทย  และยังเป็นหนึ่งในเสาหลักผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย จึงเกิดประกายแนวคิด พยายามแสวงหาแนวทางสร้างการท่องเที่ยววิถีใหม่ นำร่อง ผลักดัน และเป็นต้นแบบให้ท่องเที่ยววิถีใหม่ของไทยในยุคโควิด

คุณวิษณุ เทพเจริญ ประธานกรรมการบริหารบริษัทณุศาศิริ(มหาชน) ได้ร่างจดหมายเปิดผนึก ถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยว เพื่อเสนอแนวทางในการพลิกฟื้นภาคการท่องเที่ยวอีกครั้ง และขอนำ Movenpick My Ozone khaoyai เป็นโมเดลต้นแบบ เพื่อผลักดันเป็น Green box เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ปลอดภัยจากโควิด โดยส่วนหนึ่งในจดหมายกล่าวว่า


เรียน   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวผ่านท่านผู้ว่าการท่องเที่ยวและประธานสภาท่องเที่ยว


ผม นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร(บมจ.) ณุศาศิริ ในฐานะผู้ประกอบการภาคเอกชนขอชื่นชมอย่างยิ่งที่ท่านนายกตัดสินใจเปิดโครงการ “Phuket Sandbox” ซึ่งถือว่าเป็นการต่อลมหายใจและความหวังของภาคธุรกิจการท่องเที่ยวและการบริการ ที่เฝ้ารอคอยความหวังมาเป็นระยะเวลาเกือบสองปี 

ผมเข้าใจดีถึงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เราจำเป็นต้องมีมาตรการด้านสาธารณสุขขั้นสูงสุดเพื่อความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน  แต่อย่างไรก็ตามชีวิตเราจำเป็นต้องเดินต่อไป วงจรเศรษฐกิจของประเทศต้องขยับเดินหน้าเพื่อให้ประชาชนสามารถมีรายได้เพียงพอที่จะดูแลตนเองและครอบครัวได้ 

ดังที่ทราบแล้วนั้นว่ารัฐบาลของประเทศสิงคโปร์ประกาศนโยบายชัดเจนว่า เราต้องอยู่กับโควิดให้ได้ การแสวงหาแนวทางสร้างการท่องเที่ยววิถีใหม่ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาในแต่ละจุดนานขึ้น สร้างประสบการณ์ใหม่ในการท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงกับสภาพชุมชน วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของท้องถิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งจะว่าไปแล้วประเทศไทยนั้นมีความแตกต่างหลากหลายและความโดดเด่นของธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม สถานที่ท่องเที่ยว การพักผ่อน การบริการ Wellness &Spa ฯลฯ ซึ่งโด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกไม่แพ้ชาติใด 

แล้วในวันนี้นับว่าเป็นข่าวดีที่รัฐบาลโดยท่านรองนายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล ได้ออกประกาศ อนุญาตให้ใช้แอดติเจนได้ทำให้ผมมองเห็นโอกาสของการดำเนินธุรกิจไม่ใช่เฉพาะแต่ตัวของผมเองแต่ยังหมายถึงการเปิดโอกาสให้การต่ออายุของธุรกิจทุกด้านกลับคืนมาได้ 

อย่างไรก็ตามผมอยากเห็นโครงการเช่นเดียวกับ Phuket Sandbox เกิดขึ้นในภาคอื่นๆของประเทศไทยบ้าง อย่างน้อยจะทำให้โรงแรมที่อยู่ในต่างจังหวัดที่แบกภาระทั้งต้นทุน พนักงาน การบำรุงรักษา ฯลฯ มาเป็นระยะเวลาเกือบสองปีแล้ว ได้มีโอกาสที่จะเปิดบริการและจัดกิจกรรมต่างๆ ให้กับผู้เข้าพักโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้เข้าพักเป็นหลักตามมาตรฐาน SHA และเพื่อเป็นการยืนยันว่า 120 วันที่ท่านนายกกล่าวไว้นั้นเราสามารถทำได้จริง

ผมขอเริ่มจากโครงการ “มายโอโซนกรีนบล็อก” โดยสร้างมาตรฐานหลักเกณฑ์ของผู้เข้าพักเสมือนการรับแขกจากต่างประเทศเช่นเดียวกับจังหวัดภูเก็ต (และที่จะมีการขยายไปจังหวัดใกล้เคียงอื่น ๆ อาทิ กระบี่ พังงา หรือเกาะสมุย) โดยมีข้อกำหนดของบุคคลที่เข้าพักหรือเข้ามาใช้บริการของโครงการต้องได้รับวัคซีนหรือผ่านการสว๊อตเทสมาแล้ว แต่ถ้ายังไม่มีทั้งสองรายการเบื้องต้นทางโครงการมีเจ้าหน้าที่บริการตรวจสว๊อตก่อนเข้าพักในโครงการทุกราย และหากมีผลเป็นลบจึงจะอนุญาตให้เขาพักได้ และพนักงานที่ให้บริการมากกว่า 70% ได้รับวัคซีนแล้วทั้งสิ้น แต่ก็ยังไม่ได้นิ่งนอนใจ ทางโครงการจัดให้มีการตรวจสว๊อตทุก 7 วันเพื่อความสบายใจของผู้เข้าพักทุกท่าน ตามหลักการการท่องเที่ยวแนวใหม่ที่สร้างความไว้วางใจ (Trust Tourism) 

เป็นที่ทราบกันดีว่าทันทีที่ท่านนายกประกาศ 120 วันกลุ่มผู้จัดงานและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องรวมถึงธุรกิจการท่องเที่ยวและการบริการในจังหวัดต่าง ๆ ต่างได้วางแผนงานล่วงหน้าการจัดงานเพื่อสร้างรายได้กลับเข้ามาในชุมชนกันไว้อย่างมากมาย  

นอกจากนี้ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมายังเป็นหมุดหมายในการจัดประกวด Miss Universe Thailand 2021 จะมีการเก็บตัวสาวงาม 30 คนและทีมงานรวมแล้วนับร้อย ในช่วงเดือนกันยายนนี้ ซึ่งจะเป็นการเผยแพร่ความงดงาม อุดมสมบูรณ์ทางสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเป็นมรดกโลกให้ชาวโลกได้รับรู้และเกิดความภาคภูมิใจร่วมกัน นอกเหนือไปจากการสร้างเงินรายได้หมุนเวียนในท้องถิ่นที่เชื่อมโยงทั้งด้านเกษตรกรรม อาหาร การบริการ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ฯลฯ 

ผมมีความเชื่อมั่นว่าหากทางภาครัฐเห็นชอบ ธุรกิจการท่องเที่ยวเริ่มกลับมามีรายได้อีกครั้งพยุงให้เกิดการจ้างงานให้ประชาชนมีรายได้ ไม่เป็นภาระต่อส่วนกลาง และยังเป็นการลดความตึงเครียดให้แก่ผู้ใช้บริการชาวไทยอีกทางหนึ่ง ที่จะรู้สึกได้ถึงความปลอดภัย ในการใช้บริการ และร่วมกิจกรรมต่างๆได้อย่างสบายใจ  เพราะทุกคนที่เข้ามาในโครงการได้มีการคัดกรองเป็นอย่างดีแล้ว

ด้วยเหตุนี้ผมจึงใคร่ขอให้ท่านพิจารณาโครงการ “มายโอโซน เขาใหญ่ กรีนบ็อกซ์” ซึ่งทางบริษัทฯผมจะได้ทำงานร่วมกับสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา สมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ ชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารอำเภอปากช่องและภาคีเครือข่ายภาคประชาชนองค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติและการท่องเที่ยว เพื่อเป้าหมายในการสร้าง Model ให้กับการจัดงานขนาดใหญ่และการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยในชุมชนอย่างยั่งยืนอันเป็นเป้าหมายหลักของการพัฒนาประเทศด้วยความพอเพียงและทำให้เรารอดพ้นจากวิกฤติของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเราจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตต่อไปให้ได้

และโครงการ My ozone Green box นี้ มั่นใจว่าพร้อมนำร่องให้การท่องเที่ยวไทย พลิกกลับฟื้นสู่วิกฤติได้ในเร็ววันอย่างแน่นอน 
โดยในวันที่ 15 – 31 กรกฏาคม 2564  จะเปิดบริการด้านอาหารแบบ room service เท่านั้น และเปิดส่วน buffet หรือ  A LA CARTE ที่ห้องอาหาร จะเริ่ม 1 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป