WP โร้ดแม็พ “วันเดอร์ฟู้ด” ทุ่ม 50 ล้าน ดันไลน์ธุรกิจอาหารเต็มพิกัด หวังโตก้าวกระโดด ประเดิมเปิดตัวร้านผัดไทยไฟทะลุ สาขาเรือธง ที่สยามสแควร์
ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ เปิดโร้ดแม็พ “วันเดอร์ฟู้ด” เตรียมงบ 50 ล้านบาท ดันไลน์ธุรกิจอาหารเต็มพิกัด เสริมศักยภาพการเติบโตอย่างก้าวกระโดด
ประเดิมต้นปีด้วยการเปิดตัวร้านผัดไทยไฟทะลุ สาขาเรือธง ที่สยามสแควร์
บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) กลุ่มบริษัทพลังงานครบวงจร และผู้จัดจำหน่ายก๊าซแอลพีจีภายใต้แบรนด์เวิลด์แก๊ส เผยกลยุทธ์สร้างการเติบโตในธุรกิจอาหารแบบครบวงจร ไลน์ธุรกิจใหม่ภายใต้ความร่วมมือกับ “วันเดอร์ฟู้ด อินเตอร์เนชันแนล” ผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารแนวสตรีทฟู้ดระดับพรีเมียม ได้แก่ ผัดไทยไฟทะลุ, ข้าวซอย Hungry Rabbit, ร้านอาหาร Hyper Fine Dining ระดับมิชลินสตาร์ 1 ดาวในชื่อ Table 38 และ Pi Kun (ปีกุน) ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างเกินคาดในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา พร้อมติดเครื่องเดินหน้าขยายธุรกิจด้วยโร้ดแม็พปี 2564 เพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด ด้วยการเปิดสาขาใหม่ ๆ ประเดิมด้วยร้านผัดไทย ไฟทะลุ สาขาเรือธง สยามสแควร์ รวมทั้งการเปิดแฟรนไชส์ การผลิตและจำหน่ายเครื่องปรุงรส และอาหารกึ่งสำเร็จรูป และธุรกิจอื่น ๆ เกี่ยวกับอาหารในอนาคต เตรียมรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งหลังของปี 64
ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากการดำเนินยุทธศาสตร์ใหม่ของเราในการแตกไลน์สู่ธุรกิจอาหาร ด้วยการร่วมมือกับวันเดอร์ฟู้ด นับว่าได้รับผลตอบรับที่ดีมากจากผู้บริโภคในช่วงเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา เป็นสัญญาณที่ดีซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการต่อยอดจากธุรกิจก๊าซแอลพีจี ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซแอลพีจี มาสู่ธุรกิจอาหาร ถือเป็นแนวทางที่ถูกต้องและมีศักยภาพสูงในการสร้างรายได้จากช่องทางใหม่ ๆ และกระจายความเสี่ยงในการลงทุน ทำให้เรามั่นใจว่าการลงทุนในธุรกิจอาหารจะบรรลุเป้าหมายที่เราวางไว้ในการสร้างผลกำไรปีละกว่า 10% ของกำไรรวมของบริษัท และสร้างการเติบโตเป็น 20% ภายใน 5 ปีหรือภายในปี 2568
เราพร้อมเตรียมงบลงทุนไว้กว่า 50 ล้านบาทในการขยายธุรกิจอาหารให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยการเปิดแบรนด์ใหม่ และขยายสาขา รวมถึงบุกเบิกไปยังประเภทธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้อง”
ในส่วนของภาพรวมธุรกิจของดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ ในปี 2564 นี้จะครอบคลุมการดำเนินธุรกิจใน 3 ประเภท ประกอบด้วย 1) ธุรกิจก๊าซแอลพีจี ภายใต้แบรนด์เวิลด์แก๊ส ซึ่งเป็นรายได้หลัก โดยมุ่งเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพและศักยภาพภายในเพื่อสร้างกำไรเติบโตอย่างยั่งยืน 2) ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซแอลพีจี เรามีแผนการในการทำธุรกิจซ่อมและผลิตถังก๊าซของบริษัทในอนาคต ถือเป็นธุรกิจใหม่ที่สามารถลดความเสี่ยงด้านรายได้และสร้าง Synergy กับธุรกิจเดิมได้เป็นอย่างดี, 3) การเริ่มเข้าไปลงทุนในธุรกิจอื่นๆ โดยในปีนี้เราได้มีการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนเป็นครั้งแรก เริ่มจากโซล่ารูฟท็อป ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการเข้าสู่ยุคใหม่ของธุรกิจพลังงาน รวมถึงธุรกิจอาหาร ที่มีมีการร่วมลงทุนกับบริษัท วันเดอร์ฟู้ด อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เพื่อจัดตั้งบริษัทใหม่คือ วันเดอร์ฟู้ด โฮลดิ้ง ขึ้นในปีที่ผ่านมาซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีหลังจากเปิดดำเนินการ
นพวงศ์ โอมาธิกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงินและบริหารองค์กร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) เสริมว่า “การลงทุนในธุรกิจอาหารของเรา ไม่จำกัดอยู่เพียงร้านอาหารเท่านั้น แต่ครอบคลุมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหารอย่างครบวงจร ด้วยการดำเนินงานที่มีระบบและมาตรฐานในรูปแบบของอุตสาหกรรมผ่านการบริหารจัดการ Value Chain ที่มีประสิทธิภาพ โดยจะมีครัวกลาง พร้อมด้วยระบบโลจิสติกที่ครบวงจร เพื่อควบคุมคุณภาพและรสชาติของอาหารให้คงที่ สามารถบริหารต้นทุนและการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอย่างสูงสุด”
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจอาหารในปี 2564 จะขยายการเติบโตของแบรนด์ด้านอาหารจากเดิม 4 แบรนด์ เป็น 6 แบรนด์ ควบคู่กับการขยายขอบเขตและศักยภาพของแต่ละแบรนด์ เริ่มจากเปิดตัวร้าน ผัดไทยไฟทะลุ สาขาเรือธง ในทำเลสยามสแควร์ พื้นที่ศักยภาพที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาอย่างยาวนาน พร้อมเตรียมขยายสาขาร้านผัดไทยไฟทะลุในรูปแบบเอ็กซ์เพรส ภายใต้ความร่วมมือกับคิง เพาเวอร์ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงจากสาขาแรกที่ไทย เทสต์ ฮับ มหานคร คิวบ์ โดยเตรียมขยายสาขาไปที่ คิง เพาเวอร์ สาขาอื่นๆ รวมทั้งการจำหน่ายแฟรนไชส์เพื่อไปเปิดดำเนินการในต่างประเทศ และเตรียมออกผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปใหม่ ๆ อย่างไก่ย่าง และขนมครองแครง ส่วน ปีกุน ร้านอาหารอีสานสไตล์ฟิวชั่น เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้ โดยขยายการให้บริการช่วงกลางคืนในรูปแบบของทาปาซอาหารอิสาน และบาร์พร้อมเครื่องดื่ม เพื่อเป็นสถานที่แฮงเอ้าท์แห่งใหม่ที่สะท้อนเอกลักษณ์แบบไทย สำหรับ Table 38 ซึ่งเป็นภัตตาคารระดับไฟน์ไดนิ่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสตรีทฟู้ด จะมีการปรับรูปแบบให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น ด้วยเซตเมนูและรายการอาหารที่มีระดับราคาหลากหลายมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาเมนูอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชา
สำหรับ ข้าวซอย Hungry Rabbit ข้าวซอยรสชาติเข้มข้นใส่ใจสุขภาพ โดยเป็นส่วนหนึ่งของร้านผัดไทยไฟทะลุ สาขาเรือธง และ Table 38 Patisserie ครัวขนมอบและเบเกอรี่ที่เน้นการใช้วัตถุดิบและกรรมวิธีแบบพรีเมี่ยม เปิดตัวด้วยครัวซองต์ เมนูยอดฮิตที่ได้รับการตอบรับอย่างดีมากจากแฟน ๆ เบเกอรี่ชาวไทย โดยในช่วงแรกยังไม่มีหน้าร้านถาวร แต่เป็นรูปแบบของการตั้งบูธ ออกงานอีเวนต์ และนอกจากนี้เรายังจับมือร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่มีศักยภาพในการขยายสาขาได้อีกกว่า 40 สาขา เป็นอย่างน้อยในปีนี้
นอกจากนั้น ยังเตรียมแผนการต่อยอดธุรกิจไปยังธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาหาร อาทิ ธุรกิจการรับจัดเลี้ยงในงานอีเว้นต์ ปาร์ตี้ และงานแต่งงาน ธุรกิจการผลิตและส่งวัตถุดิบ รวมถึงอาหารสำเร็จรูปให้กับกลุ่มลูกค้าองค์กรเช่นโรงแรมและสายการบิน การเปิดแฟรนไชส์ของแบรนด์ร้านอาหารในเครือไปยังต่างจังหวัด และต่างประเทศ การผลิตและจำหน่ายเครื่องปรุงรสในการประกอบอาหาร หรือในรูปแบบอาหารกึ่งสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน รวมทั้งการสร้าง Cloud Kitchen เพื่อตอบรับการเติบโตของธุรกิจการรับส่งอาหารถึงที่บ้าน (Food Delivery)
เชฟแอนดี้ ยังเอกสกุล เชฟมิชลินสตาร์ ผู้ก่อตั้งวันเดอร์ฟู้ด อินเตอร์เนชันแนล กล่าวว่า “ร้านผัดไทยไฟทะลุ สาขาเรือธง สยามสแควร์ คือการรวบรวมคาราวานอาหารสตรีทฟู้ดในเครือไว้ในที่เดียว สร้างประสบการณ์ใหม่ในการเพลิดเพลินกับอาหารไทยที่มีรสชาติจัดจ้านทั้งรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส นำเสนอคุณค่าของวัตถุดิบ ความใส่ใจในรายละเอียดอันเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของอาหารไทย และอาศัยกรรมวิธีการผลิตที่สามารถรักษาสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพไว้อย่างครบถ้วน โดยชั้นล่างสุดของร้าน ออกแบบให้เป็นครัวแบบเปิด โชว์วิธีการประกอบอาหารสไตล์สตรีทฟู้ดดั้งเดิมแบบไทย ๆ เพื่อให้ลูกค้าเพลิดเพลินกับกลิ่นของอาหาร และความน่าตื่นตาตื่นใจในการทำอาหาร พร้อมบาร์เครื่องดื่มแบบไทย ๆ ชั้นที่ 2 เป็นส่วนของพื้นที่ทานอาหารที่ผสมผสานองค์ประกอบความเป็นไทย ทั้งการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ การจัดวางเค้าน์เตอร์ และการแต่งกายของพนักงาน และชั้นที่ 3 เป็นส่วนของร้านข้าวซอย Hungry Rabbit ที่ตกแต่งในสไตล์ร้านราเมงแบบญี่ปุ่น สร้างประสบการณ์ใหม่ในการทานข้าวซอยในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร
ผมเชื่อมั่นว่า ที่นี่จะมีส่วนในการส่งเสริมให้อาหารสตรีทฟู้ดของไทยเป็นที่รู้จักในฐานะแม่เหล็กที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาลิ้มลอง และคาดหวังว่าธุรกิจอาหารในเครือของเราจะเป็นหนึ่งในปัจจัยช่วยส่งเสริมและกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวไทย เมื่อเราพร้อมที่จะเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้งเร็ว ๆ นี้ หลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดมาอย่างยาวนาน”
About Wonder food, Where carnival is edible
วันเดอร์ฟู้ด คาราวานอาหารสตรีทฟู้ดฝีมือสร้างสรรค์ของเชฟมิชลินสตาร์สองภูมิภาค เชฟแอนดี้ ยังเอกสกุล
คาราวานอาหารสตรีทฟู้ดภายใต้แบรนด์ใหญ่ “วันเดอร์ฟู้ด” เกิดจากการร่วมมือกันระหว่างบริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) และ บริษัทวันเดอร์ฟู้ด อินเตอร์เนชันแนล จำกัด โดยเชฟมิชลินสตาร์ แอนดี้ ยังเอกสกุล หรือ ที่รู้จักกันในนาม “เชฟแอนดี้ ยัง” ด้วยความตั้งใจอย่างที่สุดในการออกแบบเมนูอาหารสตรีทฟู้ดที่ใส่ใจสุขภาพของไทย โดยเชฟคนไทย เพื่อคนไทยทุกคนได้ลิ้มลอง #เคียงข้างสร้างรอยยิ้มเพิ่มเติม
“เพราะอาหารมีชีวิต” ทุกการรังสรรค์อาหารของเชฟแอนดี้ ยังเน้นการสร้างสรรค์และใส่ใจทุกรายละเอียดเพราะทุกรายละเอียดคือองค์ประกอบสำคัญของอาหารที่มีชีวิต คาราวานอาหารสตรีทฟู้ดจากเชฟแอนดี้ จึงเป็นมากกว่าเมนูอาหาร หากแต่เป็นการสร้างประสบการณ์ในการรับประทานอาหารสตรีทฟู้ดในมุมมองที่แตกต่าง รวมถึงความพิถีพิถันทุกขั้นตอนการผลิตภายใต้แบรนด์วันเดอร์ฟู้ดซึ่งมุ่งเน้นที่ปณิธานเดียวคือ คุณจะได้รับประทานอาหารมาตรฐานระดับเชฟมิชลินสตาร์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับคนไทยทุกคน วันนี้ ทุกคนไม่ว่าจะเป็นอาชีพไหนก็สามารถรับประทานอาหารซึ่งยังคงคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน สะอาด ดีต่อสุขภาพและอร่อย ได้เท่าๆกัน
“อะไรที่เรียกว่าอาหารสตรีทฟู้ดที่ใส่ใจสุขภาพ”
ในทุกเมนูและทุกขั้นตอนการผลิตของคาราวานแบรนด์อาหารต่างๆจากวันเดอร์ฟู้ด ที่ทุกท่านจะได้ลิ้มลองกันในระยะเวลาอันใกล้นี้ เน้นการรังสรรค์อาหารที่มีรสชาติจัดจ้านและไม่ใส่ผงชูรส ซอสหลายสิบชนิดได้ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะจากกระบวนการผลิตแบบธรรมชาติ ไม่ใส่สารเคมี และเน้นความสะอาดโดยที่ เชฟแอนดี้ ยัง นำความทรงจำให้อดีตมาเล่าผ่านเรื่องราวและเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าในปัจจุบันมาใช้
รวมไปถึงมาตรฐานในการประกอบอาหารสตรีทฟู้ดต่างๆ ของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นเมนูผัดไทย จากผัดไทไฟทะลุและ ข้าวซอยกระต่ายหิว จากHungry Rabbit ฯลฯ ที่ได้ทยอยออกสู่สาธารชนให้ทุกท่านได้ลิ้มลอง เร็วๆ นี้
“ผัดไทยไฟทะลุ.... ก๋วยเตี๋ยวที่มีชีวิต”
ผัดไทยเหมือน มวยไทย กัดโดนไชโป๊วเหมือน โดนศอก เคี้ยวเนื้อเหมือนโดนเข่า กัดเจอเต้าหู้เยอะหน่อยเหมือน โดนต่อย ตักต่อๆ ไป ก็จะเจอตีนในรูปแบบของเส้น หรือแม้แต่ถั่วงอกที่เห็นนอนนิ่งๆ อยู่ในจานซึ่งคุณอาจไม่เคยสนใจ พอกัดเข้าไป "เฮ้ย! จระเข้ฟาดหาง!"
มันคือการนั่งกินศิลปะจานหนึ่งที่มาครบทุกมิติ พร้อมกลิ่นหอมเป็นตัวนำจากการผัดด้วยไฟแรงสูงตามด้วย sound effect ของท่วงท่าลีลาในการผัด ในความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคำกับรสชาติของตัวมันเองที่ไม่ต้องผ่านกระบวนการคลุกหรือเติมรสใดๆ กระทั่ง จนคุณเผลอรำพึงออกมาในทุกคำว่า "เย็ดเข้!"
ขณะเดียวกันความกร้านของผัดไทยหนึ่งจานก็เหมือนชนกลุ่มน้อย ในวิถีของฮิปฮอปและหมอลำ มันคือจังหวะจะโคน คือประสบการณ์ตรงของการถูกกระทำ คือการเอาตัวรอดและการมีชีวิตอยู่
คุณว่ามันมหัศจรรย์ไหม? กับการที่ส่วนผสมของวัตถุดิบซึ่งกำลังเต้นอยู่บนเตาที่มีความร้อนระดับ 200,000 บีทียูและโดนไฟลุกท่วมได้เสียขนาดนั้นแต่รสชาติของมันกลับยังอยู่ แถมเกิดใหม่เป็นอาหารหนึ่งจานได้อีก
ข้าวซอยกระต่ายหิว…..Hungry Rabbit
ข้าวซอยที่กินไปแล้วนึกถึงแรงสั่นสะเทือนของไม้ตีระนาดตีระนาดไทยในจังหวะและบีทที่ทุกดีเจเปิดแผนต้องคาราวะทุกครั้งที่คิดว่ารสชาติจะหมดออกไปจากปาก แต่กลับกลายเป็นว่ายังไม่หมดต่อเนื่อง มีมิติ ลุ่มลึก และลึกลับ
ข้าวซอยกระต่ายหิวเอากระต่ายมาเป็นตัวแทนของคนที่ลิ้มรสชาติของข้าวซอย ต่อให้วิ่งเร็วและหาตัวจับยากอย่างไรรสชาติของข้าวซอยก็ทำให้คุณรุ้สึกเหมือนเข้าไปหลงใน Rabbit holes ไม่รู้ว่าเริ่มที่ไหนและจะจบลงตรงไหน เส้นที่ผสมจากแป้งข้างเหนียว ข้าวเจ้า และไข่เป็ดไร่ทุ่ง ผสมกันเป็นบะหมี่ไข่ พิเศษสุดกับการบ่มเครื่องแกงและกะทิจากอำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ด้วยคลื่นเสียง
คาราวานอาหารสตรีทฟู้ดภายใต้แบรนด์วันเดอร์ฟู้ด ไม่ได้หยุดอยู่เพียง เมนูซิกเนเจอร์ ของประเทศไทย “เมนูผัดไทย” จากผัดไทไฟทะลุ เรายังมีคาราวานสตรีทฟู้ดที่จะทยอยพร้อมเสิร์ฟให้กับทุกท่านได้ลิ้มลอง ... เร็วๆนี้
ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่
www.wonderfoodinternational.com
LINE : @padhaifaitalubkk
FB : www.facebook.com/wonderfoodbyandyyang
เชฟแอนดี้ ยังเอกสกุล
จากเด็กในครัวสู่เชฟมิชินลินสตาร์ 1 ดาว
เชฟที่ปรุงรสชาติสุดท้ายแห่งเอเชียแปซิฟิค
(A Chef who produced the last taste of Asia Pacific)
จากเด็กในครัวสู่เชฟมิชินลินสตาร์ 1 ดาวในปี 2010 ร้านโรงเตี๊ยม สหรัฐอเมริกา
ปัจจุบัน เชฟมิชินลินสตาร์ 1 ดาวในปี 2020 Fine Dining ร้าน Table 38
ร้านแนะนำ BIB Gourmand ในปี 2019 และ 2020 จากร้าน ผัดไทยไฟทะลุ อธิปแห่งผัดไทย (Master of Pad Thai quoted by Michelin Guide Official 2020)
ต้นกำเนิดมิชินลินสตาร์ดวงแรก กับร้าน “โรงเตี๊ยม”
เชฟแอนดี้ ยัง นับเป็นคนไทยคนแรก ที่ทำให้อาหารได้ดาวมิชลินด้วย “อาหารไทย” ตั้งแต่ปี 2010 ที่นิวยอร์ค ร้านอาหาร “โรงเตี๊ยม” ที่เชฟเป็นมากกว่านักเดินทางที่มาพักที่ “โรงเตี๊ยม” แต่เชฟทำหน้าที่เป็นคิวเรเตอร์อาหารเฉกเช่นเดียวกับการสร้างสรรค์งานศิลปะ เพื่อคัดสรรวัตถุดิบและเพื่อรังสรรค์เมนู
โรงเตี๊ยมในนิวยอร์กเริ่มต้นจากที่เชฟแอนดี้อยากทำอาหารไทยจากความทรงจำในวัยเด็กและด้วยการบริการที่ใส่ใจ รสชาติอาหารที่ถูกรังสรรค์มาอย่างมีมิติและตั้งใจ รวมถึงความสะอาดและความแตกต่างในรสชาติอาหารที่สัมผัส ทำให้โรงเตี๊ยมสาขาแรกขนถนน La Gourdia ได้รับรางวัลมิชินลินสตาร์ 1 ดาว ในช่วงปลายปี 2009 อย่างไม่ต้องสงสัย
หลังจากนั้นโรงเตี๊ยมขยายสาขา มาหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น Express, Food Truck, Food Cart Pad-Thai (ซึ่งได้รับการแนะนำโดย MSNBC ว่าเป็น The Best Pad Thai ในปี 2011) รวมถึงได้ขยายสาขาไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หลังจากนั้นในปี 2015 จึงได้เริ่มต้นวางแผนทำธุรกิจอาหารในประเทศไทย
Table 38 Chef’s Art Museum & Laboratorial
Table 38, The True Chef Table.
ร้านอาหาร Hyper Fine Dinning, Table 38 ได้ถูกสร้างขึ้นมาเป็นพื้นที่ในการรวมงานอาร์ทที่เสพย์ด้วยรสชาติ ที่มีมิติยิ่งไปกว่าการมองเห็นด้วยตา, Art of flavors and textures, โดยสื่อผ่าน สตรีทฟู้ดของไทย ด้วยเทคโนโลยีล้ำยุคด้วยคลื่นเสียงและความเร็ว ซึ่งคำนึงถึงตัวคุณค่าของอาหารที่เป็นเหมือนยาเป็นหลัก ผ่านนิยาม ของ Table 38 “Using today's knowledge to tell yesterday's story”
นอกจากนี้ Table 38 ยังเป็นเสมือน Lab ทดลองเพื่อสร้างสรรค์วิทยาการใหม่ๆให้กับอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหารให้สุกด้วยความเร็วและคลื่นเสียง (หมัก, บ่ม, แยก, รวม) , การทดลองปรุงอาหารรูปแบบต่างๆทั้งในปริมาณน้อยลักษณะ Fine Dinning หรือรูปแบบ Premium Mass Catering ก็สามารถออกแบบได้ จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเชฟแอนดี้ ยัง จึงเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มชั้นนำมากมาย ทั้งในและต่างประเทศ
ถ้าคุณได้ลองอาหารของ Table 38 คือที่สุดของโลก ที่ไม่สามารถหาทานได้ที่ไหน กับการสร้างประสบการณ์สุดล้ำในกาสรรค์สร้างอาหารไทยแบบบ้านๆผ่านการตีความตามแบบฉบับเชฟแอนดี้ ยัง
ในที่สุด Table 38 ก็คว้ารางวัลมิชินลินสตาร์ไปอย่างที่เขาได้เคยตั้งเป้าหมายไว้ในปี 2019
Table38 patisserie “ใช้องค์ความรู้ของวันนี้ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของวันวาน”
Table38 patisserie ครัวขนมอบภายใต้บริษัทวันเดอร์ฟู้ด โฮลดิ้ง ที่มีความใส่ใจในทุกกรรมวิธีของการผลิต ครัวซองต์ ทำให้เกิดเป็นผลลัพธ์แห่งความอร่อยที่สุดแสนประณีตในรูปทรงพระจันทร์เสี้ยว (Crescent-Shaped Croissant) ที่มอบความกรอบอร่อยให้คุณเมื่อแรกสัมผัสในส่วนนอก ตามด้วยความนุ่มหนึบชุ่มฉ่ำอย่างน่าอัศจรรย์ภายใน อย่างที่คุณไม่เคยได้สัมผัสที่ไหนมาก่อน โดยนอกจากเมนูสุดคลาสสิกอย่างครัวซองต์ชิ้นใหญ่สุดพรีเมียมและ ดิ้ปปิ้งสุด เอ็กซ์คลูซีฟอย่างน้ำผึ้งป่าโพรง หินลาดใน ยังมีครัวซอง สำหรับคนรุ่นใหม่ใส่ดีเทลทุก Texture ในขนาดย่อมเยาว์ ออริจินัลที่มีหน้ามาให้เลือกสรรทั้งแบบ Hokkaido, Cacao Garnach , Auntie Helen’s salted egg , Rainbow jam และ Rainbow Jam พร้อมพิเศษสุดกับครัวซองต์ที่นำเสน่ห์ของวัฒนธรรมอาหารทั้ง 4 ภาคของไทยมารังสรรค์รสชาติด้วยไส้สไตล์ไทยๆ อาทิ ครัวซองต์ไส้คั่วกลิ้งหมูทิศทักษิณ, ครัวซองต์ไส้ทุเรียนเมืองนนท์, ครัวซองต์ข้าวซอยหมู หรือ “ครัวปั๊บ”และครัวซองต์ไส้แยมลูกหว้าจากแดนอิสาน
การเดินทางบทต่อไปของ “ผัดไทย” สตรีทฟู้ดประวัติศาสตร์บนถนนดินสอ
ผัดไทยเป็นอาหารที่เรียกได้ว่าทำให้ลงตัวได้ยากที่สุด ผัดไทยจานนั้นๆจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อตักคำแรกเข้าปาก แล้วรสชาติของส่วนผสมไม่ว่าจะเป็นเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด ที่ซ่อนอยู่จะต้องระเบิดในปากคุณ “ผัดไทยไฟทะลุ” คือตัวอย่างของ Thai comfort street food ที่จะทำให้เห็นว่าความมหัศจรรย์ในอาหารหนึ่งจานได้ถูกผสมผสานไว้ด้วยศาสตร์แห่งศิลปะ มันไม่ใช่แค่กินแล้วอิ่มแต่มันคือความรื่นรมย์ละเมียดละไมในการใช้ชีวิตที่รับรู้ได้ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส
ด้วยความตั้งใจในการนำเสนอ 5 จิตวิญญาณของผัดไทย ทำให้ผัดไทยไฟทะลุ ได้รับความนิยม และได้รับการแนะนำใน Michelin BIB gourmand ถึง 2 ปีซ้อน ในปี 2019 และ 2020
ก้าวต่อไปของเชฟแอนดี้ ยัง
ก้าวต่อไปจึงต้องการสร้าง ผัดไทย Express เพื่อเป็นโมเดลในฝั่งเอเชีย เฉกเช่นเดียวกับที่เขาทำสำเร็จมาแล้วในสหรัฐอเมริกา และการสร้างแบรนด์อาหารไทยแบรนด์ใหม่จากเมนูยอดนิยมอย่างด้วย เมนู “ข้าวซอย” ทั้งหมดจึงเป็นการต่อยอดธุรกิจอาหารจากความสามารถที่สั่งสมมาตลอดช่วงชีวิตของเขาเกือบ 30 ปี ....
ถ้ามีคนถามเชฟแอนดี้ ยัง ว่า แผนอนาคตของเขาคืออะไร เขาจะตอบด้วยน้ำเสียงเรียบง่ายว่า “ผมอยากให้คนไทยได้เห็นคุณค่าของวัตถุดิบและความเป็นไทย เสน่ห์ของไทยคือการใส่ใจในรายละเอียด มันคือการเรียนรู้เพื่อทำความเข้าใจในธรรมชาติของวัตถุดิบอย่างแท้จริง”
และเส้นทางที่ยาวนานจากประสบการณ์และความสำเร็จที่สั่งสมมาตลอดชีวิตในเส้นทางอาหาร ของเชฟแอนดี้ ยัง ...... คือต้นกำเนิดของแบรนด์ Wonder Food , Where carnival is edible
