คอมแพ็ค ไดนามิกส์ ในเครือแชฟฟ์เลอร์ ได้รับเลือกให้เป็นผู้จัดหาระบบไฮบริด P3-topology ในงาน FIA World Rally Championship (WRC) ปี 2565 – 2567
บริษัท คอมแพ็ค ไดนามิกส์ เป็นบริษัทในเครือแชฟฟ์เลอร์ ผู้จำหน่ายสินค้าด้านยานยนต์และอุตสาหกรรมชั้นนำระดับโลก ประกาศได้การรับแต่งตั้งจากสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ (FIA World Motor Sport Council) ให้เป็นผู้จัดหาระบบไฮบริดแต่เพียงผู้เดียว โดยใช้เทคโนโลยีไฮบริด P3-topology ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่จะถูกนำมาใช้ในหมวดยานยนต์ใหม่ของ Rally 1 ในงาน FIA World Rally Championship (WRC) ระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่การแข่งขันในฤดูกาล 2565-2567
ดร. โจเชน ชโรเดอร์ ประธานด้านธุรกิจการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า (E-Mobility) ของแชฟฟ์เลอร์ กล่าวว่า “พวกเรามีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่บริษัท คอมแพ็ค ไดนามิกส์ ได้รับเลือกให้เป็นผู้จัดหาระบบไฮบริดแต่เพียงผู้เดียวจากสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ (FIA) ในครั้งนี้ คอมแพ็ค ไดนามิกส์ ทำงานร่วมกับแชฟฟ์เลอร์มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 เพื่อพัฒนารถแข่งไฟฟ้าที่ใช้กับส่วนประกอบอื่น ๆ ของแชฟฟ์เลอร์ในระบบที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ที่เราจัดหาให้สำหรับยานยนต์ฟอร์มูล่า อี (Formula E) ของสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ (FIA) ด้วยความรู้และความเชี่ยวชาญที่เราได้รับจากการมีส่วนร่วมในกีฬาแข่งรถ ส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้แก่ เพลาไฟฟ้า ระบบส่งกำลังไฮบริด และมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า และการมีส่วนร่วมของเราในการแข่งขัน FIA World Rally Championship จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาของพวกเราต่อไป”
นายโอลิเวอร์ แบลมเบอร์เกอร์ กรรมการผู้จัดการของบริษัท คอมแพ็ค ไดนามิกส์ กล่าวเสริมว่า “พวกเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนา และผู้จัดหานวัตกรรมด้านระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่เป็นจุดแข็งที่สำคัญของการขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพสูง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาสิ่งนี้ทำให้พวกเราเริ่มเข้ามามีส่วนร่วมและสร้างผลงานในซีรีย์การแข่งรถต่างๆ ได้แก่ งานฟอร์มูล่า วัน (Formula 1) และฟอร์มูล่า อี (Formula E) ที่จัดขึ้นโดยสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ (FIA), LeMans Prototype Class 1 และอีกก้าวของความสำเร็จที่พวกเราได้รับ คือ การได้รับเลือกจาก FIA World Motor Sport Council ในครั้งนี้ พวกเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง และนี่เป็นอีกโอกาสที่จะพิสูจน์ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ของพวกเราในการแข่งรถแรลลี่ระดับสูงสุด”
บริษัท คอมแพ็ค ไดนามิกส์ (Compact Dynamics) ตั้งอยู่ที่เมืองชตาร์นแบร์ค ประเทศเยอรมนี เป็นบริษัทในเครือแชฟฟ์เลอร์ ผู้จำหน่ายสินค้าด้านยานยนต์และอุตสาหกรรมชั้นนำระดับโลก และได้รับความไว้วางใจจากสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ เนื่องจากบริษัทฯ มีระบบไฮบริด P3-topology ที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถรองรับหน่วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้ามอเตอร์ ชุดควบคุม และแบตเตอรี่ในซองขนาดกะทัดรัดเป็นพิเศษ จึงให้ความหนาแน่นของพลังงานสูงสุดตามข้อกำหนดของสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ (FIA) แบตเตอรี่ที่ใช้ใน
ระบบไฮบริดนั้นมาจากบริษัท ครีเซิล อิเล็กทริก (Kreisel Electric) ตั้งอยู่ที่เมืองไรห์นบาค ประเทศเยอรมนี และเป็นพันธมิตรของบริษัท คอมแพ็ค ไดนามิกส์ โดยร่วมกันพัฒนาระบบไฮบริด และแผนการทดสอบยานยนต์เบื้องต้นจะมีขึ้นในปี พ.ศ. 2564
เกี่ยวกับแชฟฟ์เลอร์
กลุ่มแชฟฟ์เลอร์เป็นผู้จำหน่ายสินค้าด้านยานยนต์และอุตสาหกรรมชั้นนำระดับโลก ด้วยการนำเสนอส่วนประกอบ และระบบที่มีความแม่นยำสูงในเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และตัวถัง รวมถึงโซลูชั่นตลับลูกปืนแบบเม็ดกลมและแบบธรรมดาสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมจำนวนมาก กลุ่มแชฟฟ์เลอร์ได้สร้างแนวคิด “การขับเคลื่อนเพื่ออนาคต” โดยมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีแบบยั่งยืนสำหรับการเคลื่อนที่ด้วยระบบไฟฟ้า ระบบดิจิตอล และอุตสาหกรรม 4.0 เทคโนโลยีของแชฟฟ์เลอร์สร้างยอดขายได้ประมาณ 14.4 พันล้านยูโรในปี 2562 แชฟฟ์เลอร์เป็นหนึ่งในบริษัทครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีจำนวนพนักงานประมาณ 89,000 คน และมีสำนักงานสาขากว่า 170 แห่งในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ทั้งที่เป็นโรงงาน ศูนย์วิจัยและพัฒนา และสำนักงานขาย ด้วยการลงทะเบียนสิทธิบัตรมากกว่า 2,400 รายการในปี พ.ศ. 2562 แชฟฟ์เลอร์เป็นบริษัทที่มีนวัตกรรมมากที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศเยอรมนีจากข้อมูลของสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าเยอรมัน (DPMA)
ดร. โจเชน ชโรเดอร์ ประธานด้านธุรกิจการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า (E-Mobility) ของแชฟฟ์เลอร์ กล่าวว่า “พวกเรามีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่บริษัท คอมแพ็ค ไดนามิกส์ ได้รับเลือกให้เป็นผู้จัดหาระบบไฮบริดแต่เพียงผู้เดียวจากสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ (FIA) ในครั้งนี้ คอมแพ็ค ไดนามิกส์ ทำงานร่วมกับแชฟฟ์เลอร์มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 เพื่อพัฒนารถแข่งไฟฟ้าที่ใช้กับส่วนประกอบอื่น ๆ ของแชฟฟ์เลอร์ในระบบที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ที่เราจัดหาให้สำหรับยานยนต์ฟอร์มูล่า อี (Formula E) ของสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ (FIA) ด้วยความรู้และความเชี่ยวชาญที่เราได้รับจากการมีส่วนร่วมในกีฬาแข่งรถ ส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้แก่ เพลาไฟฟ้า ระบบส่งกำลังไฮบริด และมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า และการมีส่วนร่วมของเราในการแข่งขัน FIA World Rally Championship จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาของพวกเราต่อไป”
นายโอลิเวอร์ แบลมเบอร์เกอร์ กรรมการผู้จัดการของบริษัท คอมแพ็ค ไดนามิกส์ กล่าวเสริมว่า “พวกเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนา และผู้จัดหานวัตกรรมด้านระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่เป็นจุดแข็งที่สำคัญของการขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพสูง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาสิ่งนี้ทำให้พวกเราเริ่มเข้ามามีส่วนร่วมและสร้างผลงานในซีรีย์การแข่งรถต่างๆ ได้แก่ งานฟอร์มูล่า วัน (Formula 1) และฟอร์มูล่า อี (Formula E) ที่จัดขึ้นโดยสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ (FIA), LeMans Prototype Class 1 และอีกก้าวของความสำเร็จที่พวกเราได้รับ คือ การได้รับเลือกจาก FIA World Motor Sport Council ในครั้งนี้ พวกเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง และนี่เป็นอีกโอกาสที่จะพิสูจน์ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ของพวกเราในการแข่งรถแรลลี่ระดับสูงสุด”
บริษัท คอมแพ็ค ไดนามิกส์ (Compact Dynamics) ตั้งอยู่ที่เมืองชตาร์นแบร์ค ประเทศเยอรมนี เป็นบริษัทในเครือแชฟฟ์เลอร์ ผู้จำหน่ายสินค้าด้านยานยนต์และอุตสาหกรรมชั้นนำระดับโลก และได้รับความไว้วางใจจากสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ เนื่องจากบริษัทฯ มีระบบไฮบริด P3-topology ที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถรองรับหน่วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้ามอเตอร์ ชุดควบคุม และแบตเตอรี่ในซองขนาดกะทัดรัดเป็นพิเศษ จึงให้ความหนาแน่นของพลังงานสูงสุดตามข้อกำหนดของสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ (FIA) แบตเตอรี่ที่ใช้ใน
ระบบไฮบริดนั้นมาจากบริษัท ครีเซิล อิเล็กทริก (Kreisel Electric) ตั้งอยู่ที่เมืองไรห์นบาค ประเทศเยอรมนี และเป็นพันธมิตรของบริษัท คอมแพ็ค ไดนามิกส์ โดยร่วมกันพัฒนาระบบไฮบริด และแผนการทดสอบยานยนต์เบื้องต้นจะมีขึ้นในปี พ.ศ. 2564
เกี่ยวกับแชฟฟ์เลอร์
กลุ่มแชฟฟ์เลอร์เป็นผู้จำหน่ายสินค้าด้านยานยนต์และอุตสาหกรรมชั้นนำระดับโลก ด้วยการนำเสนอส่วนประกอบ และระบบที่มีความแม่นยำสูงในเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และตัวถัง รวมถึงโซลูชั่นตลับลูกปืนแบบเม็ดกลมและแบบธรรมดาสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมจำนวนมาก กลุ่มแชฟฟ์เลอร์ได้สร้างแนวคิด “การขับเคลื่อนเพื่ออนาคต” โดยมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีแบบยั่งยืนสำหรับการเคลื่อนที่ด้วยระบบไฟฟ้า ระบบดิจิตอล และอุตสาหกรรม 4.0 เทคโนโลยีของแชฟฟ์เลอร์สร้างยอดขายได้ประมาณ 14.4 พันล้านยูโรในปี 2562 แชฟฟ์เลอร์เป็นหนึ่งในบริษัทครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีจำนวนพนักงานประมาณ 89,000 คน และมีสำนักงานสาขากว่า 170 แห่งในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ทั้งที่เป็นโรงงาน ศูนย์วิจัยและพัฒนา และสำนักงานขาย ด้วยการลงทะเบียนสิทธิบัตรมากกว่า 2,400 รายการในปี พ.ศ. 2562 แชฟฟ์เลอร์เป็นบริษัทที่มีนวัตกรรมมากที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศเยอรมนีจากข้อมูลของสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าเยอรมัน (DPMA)