“LUX by SACICT” ปี 2 ต่อยอดหัตถศิลป์ทรงคุณค่าสู่สินค้าไลฟ์สไตล์ร่วมสมัย
ไปอวดโฉมที่ปารีส-โคเปนเฮเกน
ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ ศ.ศ.ป. เดินหน้าผนึกกำลัง ดีไซเนอร์แถวหน้า และชุมชนช่างฝีมือร่วมพัฒนางานหัตถศิลป์ทรงคุณค่าจากภูมิปัญญาสู่ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ร่วมสมัยในโครงการ “LUX by SACICT 2015” เตรียมนำไปโชว์และรับคำสั่งซื้อที่ Maison et Objet 2015 งานแสดงสินค้ากลุ่มอินทีเรียดีไซน์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก ณ กรุงปารีส ก่อนไปร่วมฉลอง สายสัมพันธ์สองแผ่นดิน ณ กรุงโคเปนเฮเกนโดยความสนับสนุนของสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศเดนมาร์ก และ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด พร้อมจัดแสดงผลงานจากโครงการให้คนไทย ได้ชมก่อนใครและร่วมภูมิใจในงาน “TOUCH THAI” กาล่า พรีเมียร์ ณ บริเวณชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี ระหว่างวันที่ 2-5 กรกฎาคมนี้
นายการุณ กิตติสถาพร ประธานกรรมการบริหารศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน)(ศ.ศ.ป.)(ท่านกลาง), นางพิมพาพรรณ ชาญศิลป์ รักษาการผู้อำนวยการ ศ.ศ.ป. (ท่านที่ 3 จากซ้าย), นางสุพัตรา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักนโยบายองค์กรสัมพันธ์และภาพลักษณ์ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด (ท่านที่ 2 จากซ้าย), และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมสังสรรค์ในงานเลี้ยง
นายการุณ กิตติสถาพร ประธานกรรมการบริหารศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน)(ศ.ศ.ป.)(ท่านกลาง), นางพิมพาพรรณ ชาญศิลป์ รักษาการผู้อำนวยการ ศ.ศ.ป. (ท่านที่ 3 จากซ้าย), นางสุพัตรา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักนโยบายองค์กรสัมพันธ์และภาพลักษณ์ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด (ท่านที่ 2 จากซ้าย), และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมสังสรรค์ในงานเลี้ยง
งาน “TOUCH THAI” เริ่มขึ้นอย่างคึกคักในเย็นวันนี้ (2 กรกฎาคม 2558) โดยมี นายการุณ กิตติสถาพร ประธานกรรมการบริหารศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) เป็นประธานในพิธีร่วมกับ นายนรชิต สิงหเสนี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และ ฯพณฯ มิคเคล เหมนิธิ วินเทอร์ เอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำประเทศไทยที่มาพร้อมกับภริยา มาดาม รัตนาวดี โดยมีนางพิมพาพรรณ ชาญศิลป์ รักษาการผู้อำนวยการ ศ.ศ.ป. นางสุพัตรา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักนโยบายองค์กรสัมพันธ์และภาพลักษณ์ และนางสาวบุษบา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด พร้อมกับ นายสุวรรณ คงขุนเทียน ดีไซน์ไดเร็คเตอร์ โครงการ LUX by SACICT 2015 ร่วมกันให้การต้อนรับผู้บริหารระดับสูง นักธุรกิจ ผู้นำทางสังคม ทูตานุทูต สถาปนิก นักออกแบบ แขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชน ที่เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง
นายการุณ กล่าวว่า “นับเป็นโอกาสดีที่ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศได้จัดงานขึ้นในครั้งนี้ เพื่อเผยแพร่ผลงานหัตถกรรมอันทรงคุณค่าภายใต้โครงการ LUX by SACICT ซึ่งประกอบด้วยผลงานอนุรักษ์ชั้นครูที่คู่ควรแก่การสืบสาน และผลงานที่เกิดจากการรวมพลังสร้างสรรค์ของนักออกแบบไทยรุ่นใหม่กับช่างฝีมือและชุมชน ผมขอเชิญให้ทุกท่านมาชื่นชมผลงานหัตถศิลป์จากภูมิปัญญาและผลงานหัตถกรรมร่วมสมัยจากฝีมือคนไทย เพื่อร่วมภาคภูมิใจก่อนที่จะนำไปจัดแสดงให้ชาวต่างประเทศได้ชื่นชม”
นางพิมพาพรรณ เปิดเผยว่า “โครงการ LUX by SACICT ริเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2557 เพื่อส่งเสริมและผลักดัน ให้งานหัตถกรรมทรงคุณค่า ที่สร้างสรรค์ด้วยฝีมือคนไทย เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาของชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยในปีแรกได้ดำเนินกิจกรรม เผยแพร่และแนะนำผลิตภัณฑ์ฝีมือจากครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างหัตถศิลป์และทายาทครูช่างเข้าสู่ตลาดภายใต้แนวคิด ‘Touch of Gold’ โดยนำเสนองานหัตถศิลป์ที่ทำจากทองคำหรือได้รับแรงบันดาลใจและสะท้อนคุณค่าของทอง อันได้แก่ เครื่องทอง เครื่องถม ผ้ายกทอง ขันลงหิน หัวโขน งานลายรดน้ำ และเครื่องเบญจรงค์ สำหรับปีที่ 2 นี้ ศ.ศ.ป. ได้ร่วมมือกับนักออกแบบชั้นแนวหน้าของไทยในการสร้างสรรค์งานหัตถกรรมร่วมสมัย ได้แก่งานเครื่องเรือน ของตกแต่งบ้านและเครื่องประดับ ภายใต้แนวคิด ‘Touch of Nature’ ซึ่งเป็นการนำแรงบันดาลใจจากงานหัตถกรรมจากภูมิปัญญาของช่างไทย ผสานเสน่ห์ของวัสดุธรรมชาติออกมาเป็นชิ้นงานต้นแบบที่มีความเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งผลงานเหล่านี้ ศ.ศ.ป.จะนำไปจัดแสดงและทดสอบตลาดในต่างประเทศปลายปีนี้”
ในโอกาสนี้ นายสุวรรณ คงขุนเทียน ดีไซน์ไดเรคเตอร์ โครงการ LUX by SACICT 2015 ได้อธิบายว่า “ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ Touch of Nature เป็นผลมาจากการทำงานร่วมกันอย่างเข้มข้นระหว่างนักออกแบบกับช่างฝีมือและชุมชน ซึ่งกว่าจะออกมาเป็นชิ้นงานอย่างที่เห็นก็ต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน เป็นการทำงานที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและก่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่มากมาย จะเห็นได้ว่า ผลิตภัณฑ์ในคอลเล็กชั่นนี้ สามารถอนุรักษ์ภูมิปัญญาของชุมชนไว้ ในขณะที่มีการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้มีความร่วมสมัยจนตอบโจทย์ตลาดปัจจุบันได้ ซึ่งผมก็ขอขอบคุณเพื่อนนักออกแบบทุกคน รวมถึงช่างหัตถศิลป์และชุมชนที่ได้ร่วมงานกันจนเกิดเป็น Touch of Nature
ที่อยู่ต่อหน้าทุกท่านแล้ว”
ที่อยู่ต่อหน้าทุกท่านแล้ว”
ผลิตภัณฑ์หัตถกรรมร่วมสมัยจำนวนกว่า 80 ชิ้นที่นำมาจัดแสดงในงาน TOUCH THAI บ่งบอกถึงพัฒนาการและความสำเร็จของนักออกแบบไทยรุ่นใหม่ในกลุ่มเครื่องเรือน ของตกแต่งบ้าน และเครื่องประดับ ได้แก่ Yothaka, Korakot, Momoest, Bamboonique, Hat, Fonthip, Pilantha, Saprang, Todesire, Nimmind Studio, Plussense, Flow, PIN และ Art of T ซึ่งพร้อมแล้วสำหรับการไปเจาะตลาดยุโรปในเดือนกันยายนนี้ ในงาน Maison et Objet 2015 งานแสดงสินค้ากลุ่มอินทีเรียดีไซน์ที่ใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของโลกซึ่งจัดมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 20 จนกลายเป็นเวทีสำคัญ ของนักออกแบบระดับนานาชาติ ตามมาด้วยการจัดแสดงและจัดจำหน่าย ในเดือนตุลาคม ศกนี้ ณ ห้างสรรพสินค้า ILLUM กลางกรุงโคเปนเฮเกน สุดยอดห้างหรูอันดับต้นของเดนมาร์ก ที่มีต้นกำเนิดยาวนานนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2434 และนับเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของโลกธุรกิจการค้าปลีก
“ที่สำคัญ การไปจัดแสดงที่โคเปนเฮเกนในครั้งนี้จะเป็นการร่วมฉลองสายสัมพันธ์สองแผ่นดิน ในโอกาสครบรอบปีที่ 55 ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จเยือนเดนมาร์กอย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ. 2503” นางพิมพาพรรณกล่าวเสริม
ภายในงาน TOUCH THAI ยังมีการนำเสนอชิ้นงานจาก “Touch of Gold” ซึ่งเป็นการต่อยอดจากคอลเล็กชั่น LUX by SACICT ปีที่ผ่านมาของครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างหัตถศิลป์และทายาทครูช่างเครื่องทอง เครื่องถม งานลายรดน้ำ หัวโขน ผ้ายกทอง ขันลงหิน และเครื่องเบญจรงค์ รวมทั้งสะท้อนเรื่องราวของความงดงามและเอกลักษณ์ไทย ส่งผ่านความคิดสร้างสรรค์ เทคนิค และมุมมองใหม่ สู่ความร่วมสมัย ท่ามกลางบรรยากาศความเป็นสากลที่ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายของความเป็นไทย จากนาฏยกรรมร่วมสมัยโดย แซค-กัมปนาท เรืองกิติวิลาส นักแสดงและอดีตพิธีกรร่วมรายการสำแดงศิลป์ ของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส การแสดงดนตรีโดย อัจน์ Thailand´s Got Talent ป้อม ออโต้บาห์น” และบทเพลงจาก “ปุ้ย The Voice”
โครงการ LUX by SACICT ริเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2557 โดย ศ.ศ.ป. ดำเนินการพัฒนาผลิตภัณฑ์หัตถกรรมไทย เพื่อนำผลิตภัณฑ์จากโครงการฯ ไปจัดแสดงและจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ โดยรายได้จากการจำหน่ายจะกลับไปสู่ช่าง ชุมชน และนักออกแบบโดยตรง ซึ่งนอกจากจะทำให้ช่างหัตถกรรมไทยมีรายได้จากการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืนแล้ว ยังส่งผลให้ช่างหัตถกรรมไทยมีโอกาสแสดงผลงานให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมของโครงการ LUX by SACICT คลิกที่ www.SACICT.OR.TH หรือ https://www.facebook.com/sacict