งานเฉลิมพระเกียรติ ๗๐ พรรษา

Breaking News

วช. ส่งมอบนวัตกรรมเท้าเทียมไดนามิกส์ sPace เสริมขวัญกำลังใจทหารชายแดน พร้อมบริจาคช่วยโรงพยาบาลหาดใหญ่–สตูล บรรเทาอุทกภัยภาคใต้

วช. มอบกำลังใจและความห่วงใย ส่งมอบนวัตกรรมเท้าเทียมไดนามิกส์เอสเพส (sPace) เพื่อช่วยเหลือกำลังพลทหารบริเวณชายแดน พร้อมมอบเงินบริจาคแก่โรงพยาบาลหาดใหญ่และโรงพยาบาลสตูล เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยภาคใต้

     สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม แสดงพลังความห่วงใยและกำลังใจต่อกำลังพลและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบและอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยจัดพิธีส่งมอบ นวัตกรรมเท้าเทียมไดนามิกส์เอสเพส (sPace) เพื่อช่วยเหลือและฟื้นฟูสมรรถภาพกำลังพลทหารบริเวณชายแดน พร้อมมอบเงินบริจาคให้แก่โรงพยาบาลในพื้นที่ประสบอุทกภัย

      พิธีดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2568 ณ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ โดยได้รับเกียรติจาก ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย แพทย์หญิงจิตติมา ปรีชา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทหารผ่านศึก คณะผู้บริหาร วช. และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมในพิธี

     ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง กล่าวว่า วช. ให้ความสำคัญกับการนำองค์ความรู้ งานวิจัย และนวัตกรรมของประเทศไปใช้ประโยชน์เชิงสังคม โดยเฉพาะในยามที่ประเทศเผชิญสถานการณ์วิกฤต ทั้งด้านความมั่นคงและภัยพิบัติทางธรรมชาติ นวัตกรรม เท้าเทียมไดนามิกส์เอสเพส (sPace) ซึ่งเป็นผลงานวิจัยของนักวิจัยไทย ได้รับการพัฒนาให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล สามารถช่วยเสริมสมรรถภาพและคุณภาพชีวิตของกำลังพลทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนได้อย่างเป็นรูปธรรม

     นอกจากนี้ วช. ยังได้มอบเงินบริจาคเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อสนับสนุนการดูแลรักษาผู้ป่วย และเสริมความพร้อมของระบบสาธารณสุขในพื้นที่ประสบภัย

สำหรับการสนับสนุนในครั้งนี้ ประกอบด้วย

  • นวัตกรรมเท้าเทียมไดนามิกส์เอสเพส (sPace) พัฒนาโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มอบให้แก่ โรงพยาบาลทหารผ่านศึก
  • เงินบริจาคจำนวน 100,000 บาท มอบให้แก่ โรงพยาบาลหาดใหญ่
  • เงินบริจาคจำนวน 100,000 บาท มอบให้แก่ โรงพยาบาลสตูล

     วช. มุ่งหวังว่างานวิจัยและนวัตกรรมของไทยจะเป็นกลไกสำคัญในการเยียวยาความสูญเสีย เสริมสร้างขวัญกำลังใจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ต่าง ๆ พร้อมทั้งสะท้อนบทบาทของวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน