BDE เผยผล Thailand Digital Outlook 2568 ชี้ดิจิทัลไทยก้าวหน้ารอบด้าน AI ธุรกิจโต ทักษะแรงงานเพิ่ม ความเหลื่อมล้ำลดลง
BDE เผยผล Thailand Digital Outlook 2568 ชี้ดิจิทัลไทยก้าวหน้ารอบด้าน AI ธุรกิจโต ทักษะแรงงานเพิ่ม ความเหลื่อมล้ำลดลง
สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (BDE) จัดสัมมนาเพื่อเผยแพร่ผลการศึกษา โครงการ Thailand Digital Outlook ประจำปี พ.ศ. 2568 เพื่อสะท้อนภาพรวมการพัฒนาดิจิทัลของประเทศไทยอย่างเป็นระบบ และใช้เป็นฐานข้อมูลสำคัญในการกำหนดทิศทางนโยบายดิจิทัลของประเทศในระยะต่อไป
การสัมมนาจัดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม 2568 เวลา 08.30–16.30 น. ณ ห้องพระพรหม ชั้น 3 โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร โดยมี นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นประธานเปิดงาน และบรรยายสรุปผลการศึกษา
🔹 Thailand Digital Outlook 2568: ฐานข้อมูลดิจิทัลระดับประเทศ
นายเวทางค์ กล่าวว่า โครงการ Thailand Digital Outlook ปี 2568 ทำให้ประเทศไทยมีภาพรวมการพัฒนาดิจิทัลที่ชัดเจนและรอบด้าน ครอบคลุม 8 มิติหลัก ได้แก่ การเข้าถึงดิจิทัล การใช้งาน เทคโนโลยีและนวัตกรรม กำลังคนดิจิทัล สังคมดิจิทัล ความน่าเชื่อถือ การเปิดเสรีตลาด และผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตประชาชน
การสำรวจครั้งนี้ใช้ ตัวชี้วัดรวม 102 ตัว จากกลุ่มตัวอย่างกว่า 46,000 ตัวอย่างทั่วประเทศ ควบคู่กับข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน 26 แห่ง ทำให้ผลการศึกษามีความน่าเชื่อถือและสามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบาย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม
🔹 ดิจิทัลไทย “ก้าวหน้าต่อเนื่อง” เกือบทุกมิติ
ผลสำรวจปี 2568 ชี้ชัดว่า ดิจิทัลไทยมีพัฒนาการดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในหลายด้าน โดยเฉพาะ
- การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของครัวเรือน
- การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในภาคธุรกิจ
- การพัฒนาทักษะแรงงานดิจิทัล
- สัดส่วนมูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมดิจิทัลต่อ GDP ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สะท้อนว่าดิจิทัลกำลังกลายเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
🔹 AI ธุรกิจโต – คนยังเป็นหัวใจของดิจิทัล
ตัวชี้วัดที่เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนที่สุด คือ การนำ เทคโนโลยี AI มาใช้ในภาคธุรกิจเอกชน ซึ่งเพิ่มจากร้อยละ 56.14 เป็น 66.11 ภายในหนึ่งปี แสดงถึงการปรับตัวของธุรกิจไทยสู่การใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในกระบวนการทำงานจริง ทั้งด้านการบริหารจัดการข้อมูล การให้บริการลูกค้า และการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์
ขณะเดียวกัน สัดส่วนลูกจ้างที่ได้รับการฝึกอบรมหรือพัฒนาทักษะใหม่ เพิ่มจากร้อยละ 31.70 เป็น 39.11 สะท้อนว่า ภาครัฐและเอกชนให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนควบคู่กับการลงทุนด้านเทคโนโลยี โดยมองว่า “คน” ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมดิจิทัล
🔹 ความเหลื่อมล้ำดิจิทัลลดลงอย่างเป็นรูปธรรม
ในมิติของความเหลื่อมล้ำ ผลการศึกษาเผยให้เห็นสัญญาณเชิงบวก โดยเฉพาะ ความเหลื่อมล้ำด้านการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเมื่อจำแนกตามระดับการศึกษา ซึ่งลดลงจากร้อยละ 14.80 เหลือ 10.60
ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนว่ากลุ่มประชาชนที่มีการศึกษาน้อย ซึ่งเคยเป็นกลุ่มเปราะบางในสังคมดิจิทัล เริ่มเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานและบริการดิจิทัลได้มากขึ้น เป็นผลจากการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และโครงการเสริมสร้างทักษะดิจิทัลของภาครัฐ แม้ความเหลื่อมล้ำจะยังไม่หมดไปทั้งหมด แต่ทิศทางถือว่าดีขึ้นอย่างชัดเจน
🔹 เวทีโลกสะท้อน “สัญญาณเตือน” ไทยต้องเร่งปรับโครงสร้าง
เมื่อเปรียบเทียบในระดับนานาชาติ นายเวทางค์ ระบุว่า แม้ประเทศไทยจะมีความก้าวหน้าต่อเนื่อง แต่ยังมีโจทย์สำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข โดยเฉพาะการจัดอันดับ ความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัล ที่ปรับลดจากอันดับ 37 เป็น 38
ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ การลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาที่ยังต่ำ จำนวนบุคลากรสาย STEM ที่ยังไม่เพียงพอ และกฎระเบียบภาครัฐที่ยังซับซ้อน ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจดิจิทัล ผลการจัดอันดับจึงเป็น “สัญญาณเตือน” ว่า หากไทยไม่เร่งปรับโครงสร้าง ประเทศอื่นอาจก้าวนำหน้าไปไกล
🔹 ทิศทาง 3–5 ปีข้างหน้า: ลงทุนคน สร้างนวัตกรรมนิเวศ
ผลการศึกษา Thailand Digital Outlook 2568 ไม่เพียงสะท้อนระดับการเข้าถึงและการใช้งานดิจิทัลของคนไทย แต่ยังชี้ให้เห็น ทิศทางการเปลี่ยนผ่านเชิงโครงสร้าง ที่จำเป็นต้องขับเคลื่อนไปพร้อมกัน ทั้งด้านกำลังคน ระบบข้อมูล โครงสร้างพื้นฐาน และนวัตกรรม
ในช่วง 3–5 ปีข้างหน้า แนวทางเร่งด่วนคือ การลงทุนพัฒนาคนและระบบนิเวศนวัตกรรมควบคู่กัน การสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนา การผลิตและดึงดูดบุคลากรทักษะสูง การปรับกฎระเบียบให้เอื้อต่อการทดลองและต่อยอดบริการดิจิทัลใหม่ ๆ รวมถึงการดูแลไม่ให้กลุ่มเปราะบางถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เพื่อให้ดิจิทัลเป็นฐานโอกาสของทุกคนอย่างแท้จริง










