งานเฉลิมพระเกียรติ ๗๐ พรรษา

Breaking News

BDE เผยผล Thailand Digital Outlook 2568 ชี้ดิจิทัลไทยก้าวหน้ารอบด้าน AI ธุรกิจโต ทักษะแรงงานเพิ่ม ความเหลื่อมล้ำลดลง

BDE เผยผล Thailand Digital Outlook 2568 ชี้ดิจิทัลไทยก้าวหน้ารอบด้าน AI ธุรกิจโต ทักษะแรงงานเพิ่ม ความเหลื่อมล้ำลดลง

BDE เผยผล Thailand Digital Outlook 2568

    สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (BDE) จัดสัมมนาเพื่อเผยแพร่ผลการศึกษา โครงการ Thailand Digital Outlook ประจำปี พ.ศ. 2568 เพื่อสะท้อนภาพรวมการพัฒนาดิจิทัลของประเทศไทยอย่างเป็นระบบ และใช้เป็นฐานข้อมูลสำคัญในการกำหนดทิศทางนโยบายดิจิทัลของประเทศในระยะต่อไป

    การสัมมนาจัดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม 2568 เวลา 08.30–16.30 น. ณ ห้องพระพรหม ชั้น 3 โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร โดยมี นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นประธานเปิดงาน และบรรยายสรุปผลการศึกษา

🔹 Thailand Digital Outlook 2568: ฐานข้อมูลดิจิทัลระดับประเทศ

    นายเวทางค์ กล่าวว่า โครงการ Thailand Digital Outlook ปี 2568 ทำให้ประเทศไทยมีภาพรวมการพัฒนาดิจิทัลที่ชัดเจนและรอบด้าน ครอบคลุม 8 มิติหลัก ได้แก่ การเข้าถึงดิจิทัล การใช้งาน เทคโนโลยีและนวัตกรรม กำลังคนดิจิทัล สังคมดิจิทัล ความน่าเชื่อถือ การเปิดเสรีตลาด และผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตประชาชน

    การสำรวจครั้งนี้ใช้ ตัวชี้วัดรวม 102 ตัว จากกลุ่มตัวอย่างกว่า 46,000 ตัวอย่างทั่วประเทศ ควบคู่กับข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน 26 แห่ง ทำให้ผลการศึกษามีความน่าเชื่อถือและสามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบาย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม

🔹 ดิจิทัลไทย “ก้าวหน้าต่อเนื่อง” เกือบทุกมิติ

    ผลสำรวจปี 2568 ชี้ชัดว่า ดิจิทัลไทยมีพัฒนาการดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในหลายด้าน โดยเฉพาะ

  • การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของครัวเรือน
  • การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในภาคธุรกิจ
  • การพัฒนาทักษะแรงงานดิจิทัล
  • สัดส่วนมูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมดิจิทัลต่อ GDP ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

    สะท้อนว่าดิจิทัลกำลังกลายเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

🔹 AI ธุรกิจโต – คนยังเป็นหัวใจของดิจิทัล

    ตัวชี้วัดที่เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนที่สุด คือ การนำ เทคโนโลยี AI มาใช้ในภาคธุรกิจเอกชน ซึ่งเพิ่มจากร้อยละ 56.14 เป็น 66.11 ภายในหนึ่งปี แสดงถึงการปรับตัวของธุรกิจไทยสู่การใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในกระบวนการทำงานจริง ทั้งด้านการบริหารจัดการข้อมูล การให้บริการลูกค้า และการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์

     ขณะเดียวกัน สัดส่วนลูกจ้างที่ได้รับการฝึกอบรมหรือพัฒนาทักษะใหม่ เพิ่มจากร้อยละ 31.70 เป็น 39.11 สะท้อนว่า ภาครัฐและเอกชนให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนควบคู่กับการลงทุนด้านเทคโนโลยี โดยมองว่า “คน” ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมดิจิทัล

🔹 ความเหลื่อมล้ำดิจิทัลลดลงอย่างเป็นรูปธรรม

     ในมิติของความเหลื่อมล้ำ ผลการศึกษาเผยให้เห็นสัญญาณเชิงบวก โดยเฉพาะ ความเหลื่อมล้ำด้านการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเมื่อจำแนกตามระดับการศึกษา ซึ่งลดลงจากร้อยละ 14.80 เหลือ 10.60

     ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนว่ากลุ่มประชาชนที่มีการศึกษาน้อย ซึ่งเคยเป็นกลุ่มเปราะบางในสังคมดิจิทัล เริ่มเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานและบริการดิจิทัลได้มากขึ้น เป็นผลจากการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และโครงการเสริมสร้างทักษะดิจิทัลของภาครัฐ แม้ความเหลื่อมล้ำจะยังไม่หมดไปทั้งหมด แต่ทิศทางถือว่าดีขึ้นอย่างชัดเจน

🔹 เวทีโลกสะท้อน “สัญญาณเตือน” ไทยต้องเร่งปรับโครงสร้าง

     เมื่อเปรียบเทียบในระดับนานาชาติ นายเวทางค์ ระบุว่า แม้ประเทศไทยจะมีความก้าวหน้าต่อเนื่อง แต่ยังมีโจทย์สำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข โดยเฉพาะการจัดอันดับ ความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัล ที่ปรับลดจากอันดับ 37 เป็น 38

     ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ การลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาที่ยังต่ำ จำนวนบุคลากรสาย STEM ที่ยังไม่เพียงพอ และกฎระเบียบภาครัฐที่ยังซับซ้อน ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจดิจิทัล ผลการจัดอันดับจึงเป็น “สัญญาณเตือน” ว่า หากไทยไม่เร่งปรับโครงสร้าง ประเทศอื่นอาจก้าวนำหน้าไปไกล

🔹 ทิศทาง 3–5 ปีข้างหน้า: ลงทุนคน สร้างนวัตกรรมนิเวศ

     ผลการศึกษา Thailand Digital Outlook 2568 ไม่เพียงสะท้อนระดับการเข้าถึงและการใช้งานดิจิทัลของคนไทย แต่ยังชี้ให้เห็น ทิศทางการเปลี่ยนผ่านเชิงโครงสร้าง ที่จำเป็นต้องขับเคลื่อนไปพร้อมกัน ทั้งด้านกำลังคน ระบบข้อมูล โครงสร้างพื้นฐาน และนวัตกรรม

     ในช่วง 3–5 ปีข้างหน้า แนวทางเร่งด่วนคือ การลงทุนพัฒนาคนและระบบนิเวศนวัตกรรมควบคู่กัน การสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนา การผลิตและดึงดูดบุคลากรทักษะสูง การปรับกฎระเบียบให้เอื้อต่อการทดลองและต่อยอดบริการดิจิทัลใหม่ ๆ รวมถึงการดูแลไม่ให้กลุ่มเปราะบางถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เพื่อให้ดิจิทัลเป็นฐานโอกาสของทุกคนอย่างแท้จริง