วช. ผนึก 3 มหาวิทยาลัย เปิดเวทีเสวนาและเผยแพร่งานวิจัย แก้ปัญหาช้างป่าอย่างยั่งยืน
วช. จับมือ 3 มหาวิทยาลัย จัดเวทีเสวนาและเผยแพร่งานวิจัยแก้ปัญหาช้างป่า
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี, มหาวิทยาลัยมหิดล และ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดกิจกรรมเสวนา “เปิดเวทีเสวนาและเผยแพร่ผลงานวิจัยเพื่อการแก้ปัญหาช้างป่า” ณ จังหวัดจันทบุรี โดยมี พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรีและประธานกรรมการมูลนิธิพัชรสุธาคชานุรักษ์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมบรรยายพิเศษเกี่ยวกับการดำเนินงานของโครงการพัชรสุธาคชานุรักษ์ มุ่งเน้นการพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าและการดูแลประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่า
ขับเคลื่อนวิจัยและนวัตกรรม แก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่า
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ มอบหมายให้ นางสาวเสาวนีย์ มุ่งสุจริตการ รองผู้อำนวยการ วช. กล่าวถึงการสนับสนุนทุนวิจัยและนวัตกรรมที่เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2565 โดยเน้นการศึกษาด้านนิเวศวิทยา การพัฒนาเทคโนโลยีตรวจจับและแจ้งเตือนภัยช้างป่า รวมถึงการพัฒนาความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนในพื้นที่รอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ช้างป่าและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
เวทีเสวนาเน้นงานวิจัยเพื่อแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม
กิจกรรมเสวนาในครั้งนี้นำเสนอผลงานวิจัยเด่นจากนักวิชาการทั้ง 3 มหาวิทยาลัย ได้แก่:
1. การศึกษาช้างป่าแบบบูรณาการ โดย น.สพ.ดร.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ จากมหาวิทยาลัยมหิดล มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีติดตามช้างป่าเพื่อลดความขัดแย้ง
2. การวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเคลื่อนย้ายของช้างป่า โดย รองศาสตราจารย์ ดร.รองลาภ สุขมาสรวง จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เน้นการจัดการพื้นที่เสี่ยงอย่างยั่งยืน
3. การใช้ AI ในการตรวจจับและแจ้งเตือนภัยช้างป่า โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์วิชาญ ทุมทอง จากมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี นำ AI และระบบกล้องวงจรปิดมาช่วยเฝ้าระวังและจัดการปัญหา
นิทรรศการและกิจกรรมที่หลากหลาย
งานนี้ยังจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ต่อยอดจากงานวิจัย การเยี่ยมชมศูนย์คชานุรักษ์และศูนย์เฝ้าระวังช้างป่า รวมถึงผลิตภัณฑ์ชุมชนจากจังหวัดฉะเชิงเทราและจันทบุรี ซึ่งสะท้อนถึงการนำงานวิจัยมาใช้ประโยชน์ในพื้นที่
มุ่งสู่อนาคตที่คนอยู่ร่วมกับช้างป่าอย่างยั่งยืน
วช. ตั้งเป้าสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ท้องถิ่น เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าอย่างมีประสิทธิภาพ งานวิจัยครั้งนี้ไม่เพียงช่วยลดผลกระทบต่อประชาชน แต่ยังส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน