Princess’s Cup Thailand 2022 ครั้งที่ 8 “TOGETHER, WE ARE ONE” การแข่งขันกีฬาขี่ม้า กลับมาอีกครั้ง

การกลับมาอีกครั้งของการแข่งขันกีฬาขี่ม้า ชิงถ้วยพระราชทาน

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา
Princess’s Cup Thailand 2022 ครั้งที่ 8 “TOGETHER, WE ARE ONE”

คณะกรรมการจัดงาน Princess’s Cup Thailand 2022 จัดแถลงข่าวการแข่งขันกีฬาขี่ม้า ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-27 พฤศจิกายน 2565 ณ สนามแข่งขันกีฬาขี่ม้า กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ สนามเป้า กรุงเทพฯ

         วันนี้ (14 พฤศจิกายน 2565) เวลา 15.00 น. ณ ฮอสการ์ดคลับ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประธานคณะกรรมการจัดงาน Princess’s Cup Thailand 2022 เป็นประธานการแถลงข่าว โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าว ประกอบด้วย นายเฉลิมฉาน ยศวิริยะพาณิชย์ รองเลขาธิการ และกรรมการฝ่ายพัฒนากีฬา สมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย และอาจารย์พีระพงศ์ พิสิฐวุฒินันท์

     นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา มีพระวินิจฉัยให้จัดการแข่งขันกีฬาขี่ม้ารายการ Princess’s Cup Thailand 2022 และทรงรับเป็นองค์ประธานอำนวยการนโยบาย วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมกีฬาขี่ม้า เพิ่มพูนทักษะ และประสบการณ์การแข่งขัน ตลอดจนเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีของนักกีฬาขี่ม้าและสโมสรขี่ม้าต่าง ๆ

นับเป็นพระกรุณาธิคุณที่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา จะเสด็จเป็นองค์ประธานพิธีเปิดการแข่งขันฯ ในวันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2565 ณ สนามแข่งขันกีฬาขี่ม้า กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ สนามเป้า กรุงเทพฯ การจัดงานครั้งนี้เป็นครั้งที่ 8 ภายใต้สโลแกน TOGETHER, WE ARE ONE สื่อให้เห็นถึงความผูกพันและความเชื่อมโยงของสองหัวใจระหว่างผู้ขี่ม้าและม้า ที่หลอมเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งเป็นจุดเด่นของกีฬาขี่ม้า อีกทั้งยังสะท้อนถึงการกลับมาจัดการแข่งขันอีกครั้ง หลังจากการจัดงานเมื่อปี 2019 เนื่องจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 และโรคระบาดในม้า ในการแข่งขันในปีนี้มีชมรมและสโมสรจากประเทศต่าง ๆ เข้าร่วมการแข่งขัน 9 ทีม 8 ชาติ ประกอบด้วย กัมพูชา ไทเป ฟิลิปปินส์  มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฮ่องกง และไทย 2 ทีม นอกจากมีการแข่งขันแล้ว ในงานยังมีนิทรรศการที่น่าสนใจที่มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาจัดแสดง เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้เข้าชมรวมจำนวน 4 โซน ได้แก่ 

1. พระจริยวัตรที่สําคัญของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ได้แก่ พระปรีชาสามารถ ทางการกีฬาเพื่อพัฒนากีฬาขี่ม้าตามมาตรฐานสากล, พระดําริจัดทําคู่มือการปรนนิบัติบํารุงม้าเบื้องต้น, ศูนย์บริการสุขภาพและเวชศาสตร์ฟื้นฟูม้า และกิจกรรมจิตอาสา 

     2. รางวัลที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงได้รับ คือ FEI Asian Championship Pattaya 2019, Rising Star และรางวัลเกียรติคุณดีเด่น เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติปี 2560

3. ทรงพระราชทานกําลังใจ และสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ในการปฏิบัติงานการท่ามกลางวิกฤตโควิด-19  

4. ข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดงาน อาทิ ประวัติโค้ช ข้อมูลสถานที่คอกม้า และ ศิลปะภาพวาดม้า

     ทางด้านนายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ประธานคณะอนุกรรมการบริหาร

การแข่งขัน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาขี่ม้า รายการ Princess’s Cup Thailand 2022  กล่าวว่า ประเทศไทยมีความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฯ ทั้งสนามที่ใช้ในการแข่งขัน ที่ได้มาตรฐานระดับสากล สำหรับการจัดการแข่งขัน 2 รายการ ได้แก่ 

    1. รายการ CSIJ-B เป็นการแข่งขันกีฬาขี่ม้า กระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง เยาวชนระดับนานาชาติ

ทั้งประเภททีมและประเภทบุคคล

    2. รายการ Princess’s Cup Thailand 2022 แบ่งเป็น 5 ประเภท ได้แก่ การแข่งขันศิลปะการบังคับม้า (Dressage) การแข่งขันกระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง (Show Jumping) การแข่งขันอีเว้นท์ติ้ง (Eventing) การแข่งขันสุดยอดช่างเกือก (Best Farrier)  และการแข่งขันสุดยอดผู้ดูแลม้า (Best Groom) ในส่วนของกรรมการตัดสิน ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากสหพันธ์กีฬาขี่ม้านานาชาติ (Federation Equestre Internationale: FEI) มาร่วมเป็น คณะกรรมการตัดสินในครั้งนี้ด้วย เพื่อยกระดับการแข่งขันสู่สากล

    ในส่วนของ นายเฉลิมฉาน  ยศวิริยะพาณิชย์ รองเลขาธิการ และกรรมการฝ่ายพัฒนากีฬา สมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย ในฐานะคณะอนุกรรมการจัดกิจกรรมและร้านค้า กล่าวว่า สำหรับความพร้อมของทัพนักกีฬาไทยนั้นมีนักกีฬาเลือดใหม่ที่ทำผลงานได้ดี และยังนับเป็นการเก็บคะแนนสำหรับนักกีฬา เพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งเวทีระดับโลกต่อไปใน 2023 ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจกีฬาขี่ม้าได้เข้ามาชม มาสัมผัสและเรียนรู้กติกามารยาท ในการแข่งขัน และยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เด็กๆ เยาวชนรุ่นใหม่สนใจในกีฬาขี่ม้ามากยิ่งขึ้นนอกจากการแข่งขันกีฬาขี่ม้า ภายในงานจัดให้มีกิจกรรม FLEA MARKET ที่ได้รวบรวม Food Truck / Street Food ที่ขึ้นชื่อ และมีโซนร้านค้าสำหรับชอปปิ้งสินค้าน่าสนใจมากมาย มาบริการอีกด้วย

ด้าน อาจารย์พีระพงศ์ พิสิฐวุฒินันท์ ประธานชมรมสุนัขใช้งานและกีฬา คนไทยคนแรกที่ตัดสินแชมป์เปี้ยนโลก บนเวทีหลักงานประกวดสุนัขโลก ร่วมให้ความรู้เรื่องการแข่งขันสุนัขใช้งานสากล (IGP) และการประกวดสุนัขสวยงาม โดยการแข่งขันสุนัขใช้งานใน Princess’s Cup Thailand 2022 นับเป็นการแข่งขันรายการใหญ่ที่สุดของปีนี้ ซึ่งมีคณะกรรมการระดับโลกเข้าร่วมตัดสิน รวมทั้งเชิญชวนร่วมกิจกรรมการแข่งขันวิ่งกับสุนัข (Dog Fun Run) ที่คนรักทั้งสุนัขและสุขภาพไม่ควรพลาด

บริเวณจัดงาน มีการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน โดยจัดให้มีเต้นท์และอัฒจันทร์สำหรับผู้เข้าชมการแข่งขัน รวมทั้งศูนย์สื่อมวลชนสำหรับผู้สื่อข่าวที่มาร่วมทำข่าวในแต่ละวัน การจัดงานในครั้งนี้ ได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อของกรมประชาสัมพันธ์และความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งในรูปแบบ On line  On air และ On ground ครอบคลุมในทุกสื่อ ประกอบด้วย สื่อโทรทัศน์ สื่อวิทยุ สังคมออนไลน์ สื่อกลางแจ้ง และสื่อบุคคล โดยเนื้อหาการประชาสัมพันธ์เน้นถึงพระปรีชาสามารถ และพระอุตสาหะของเจ้าฟ้าหญิงนักกีฬา ที่จะพัฒนากีฬาขี่ม้าของประเทศไทยให้เทียบเท่าระดับสากล สร้างความภาคภูมิใจให้กับประเทศชาติ และส่งเสริมการพัฒนาตนเองทั้งร่างกายและจิตใจของนักกีฬารวมถึงผู้ดูแลม้าด้วย Princess’s Cup Thailand 2022

จึงเป็นมากกว่าการแข่งขัน แต่เป็นศาสตร์และศิลป์ที่ขับเคลื่อนไปด้วยกัน สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ www.facebook.com/PrincesscupOfficial

         ขอเชิญชวนประชาชนหรือผู้สนใจ มาเติมเต็มความสุขในช่วงส่งท้ายปี กับการเข้าร่วมชมการแข่งขันกีฬาขี่ม้าและร่วมกิจกรรม ตลอดจนซื้อสินค้าภายในงาน ระหว่างวันที่ 21-27 พฤศจิกายน 2565 ตั้งแต่ 09.00 น. เป็นต้นไป ณ สนามแข่งขันกีฬาขี่ม้า กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ สนามเป้า (BTS สนามเป้า) กรุงเทพฯ เข้างานฟรี

กลับมาอีกครั้ง ! “การแข่งขันกีฬาขี่ม้า Princess’s Cup Thailand 2022”

    กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมพร้อมต้อนรับนักกีฬาขี่ม้านานาชาติ ร่วมแข่งขันรายการ

“Princess’s Cup Thailand 2022” หลังจากพักการจัดงานไปนานถึง 2 ปี เนื่องจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 และโรคระบาดในม้า 

    การแข่งขันขี่ม้ารายการ Princess’s Cup Thailand 2022 เป็นการจัดการแข่งขันครั้งที่ 8 ตามพระวินิจฉัยของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เพื่อส่งเสริมกีฬาขี่ม้าในประเทศไทย ตลอดจนเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีของนักกีฬาขี่ม้าและสโมสรขี่ม้าต่าง ๆ โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-27 พฤศจิกายน 2565 ณ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ สนามเป้า กรุงเทพฯ ภายใต้ Concept “TOGETHER, WE ARE ONE” สื่อให้เห็นถึงความผูกพันและความเชื่อมโยงของสองหัวใจระหว่างผู้ขี่ม้าและม้าที่หลอมเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งเป็นจุดเด่นของกีฬาขี่ม้า อีกทั้งยังสะท้อนถึงการกลับมาจัดการแข่งขันอีกครั้ง 

    โดยจัดการแข่งขันขี่ม้า 2 รายการ คือ 1. รายการ CSIJ-B เป็นการแข่งขันขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวางเยาวชนระดับนานาชาติ ทั้งประเภททีมและประเภทบุคคล และ 2. รายการ Princess’ s Cup Thailand 2022 ที่มี 5 ประเภท ได้แก่ ศิลปะการบังคับม้า (Dressage), การขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง (Jumping), อีเวนท์ติ้ง (Eventing), สุดยอดช่างเกือกม้า (Best Farrier), สุดยอดผู้ดูแลม้า (Best Groom) พร้อมด้วยกิจกรรมอื่นๆ อาทิ

การประกวดสุนัขใช้งานตามมาตรฐานสากลและการประกวดสุนัขสวยงาม, กิจกรรม Dog Fun Run, นิทรรศการเกี่ยวกับพระปรีชาสามารถทางการกีฬา และพบปะสังสรรค์ที่โซน FLEA MARKET ชิมอาหาร Food Truck / Street Food พร้อมชอปปิ้งสินค้าน่าสนใจมากมาย 

    ขอเชิญชวนประชาชนและผู้ที่สนใจกีฬาขี่ม้า เข้าร่วมงาน ฟรี!! ตั้งแต่วันที่ 21 - 27 พฤศจิกายน 2565 ณ สนามแข่งขันกีฬาขี่ม้า กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (BTS สนามเป้า) 

หมายเหตุ : - กิจกรรม FLEA MARKET จัดจำหน่ายสินค้าและอาหารในวันที่ 25-27 พฤศจิกายน 2565

        - กิจกรรม Dog Fun Run อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม และสมัครออนไลน์ได้ที่
                https://race.thai.run/dogfunrunwithpartner2022

1.  ความเป็นมา

     การแข่งขันกีฬาขี่ม้า Princess’s Cup Thailand เริ่มจัดการแข่งขันครั้งแรกในปี 2001 (พ.ศ. 2544) ตามพระวินิจฉัยของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสำหรับการแข่งขัน Princess’s Cup Thailand 2022 เป็นการจัดการแข่งขันครั้งที่ 8 ตามพระวินิจฉัยของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เพื่อส่งเสริมกีฬาขี่ม้าในประเทศไทย ตลอดจนเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีของนักกีฬาขี่ม้าและสโมสรขี่ม้าต่าง ๆ โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-27 พฤศจิกายน 2565 ณ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ สนามเป้า กรุงเทพฯ

     แนวคิดการจัดงาน 

     สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา องค์ประธานคณะกรรมการอำนวยการนโยบาย มีพระวินิจฉัยให้จัดการแข่งขันกีฬาขี่ม้ารายการ Princess’s Cup Thailand 2022 ภายใต้ Concept “TOGETHER, WE ARE ONE” สื่อให้เห็นถึงความผูกพันและความเชื่อมโยงของสองหัวใจระหว่างผู้ขี่ม้าและม้าที่หลอมเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งเป็นจุดเด่นของกีฬาขี่ม้า อีกทั้งยังสะท้อนถึงการกลับมาจัดการแข่งขันอีกครั้ง หลังจากการจัดงานเมื่อปี 2019 เนื่องจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 และโรคระบาดในม้า

2. วัตถุประสงค์การจัดงาน

2.1 เพื่อเพิ่มความรู้ ความสามารถ ทักษะและประสบการณ์การแข่งขันของนักกีฬารวมถึงผู้ดูแลม้าชาวไทย

2.2 เพื่อเป็นการส่งเสริมกีฬาขี่ม้าให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล และเชื่อมความสัมพันธ์อันดีของนักกีฬาขี่ม้าและสโมสรขี่ม้าต่าง ๆ

3. กำหนดการจัดงาน

ระหว่างวันที่ 21 – 27 พฤศจิกายน 2565

4. สถานที่จัดงาน

สนามกีฬาขี่ม้า กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ สนามเป้า ถนนพหลโยธิน เขตพญาไท กรุงเทพมหานค

5. กิจกรรมภายในงาน

    5.1 การแข่งขันเกี่ยวกับม้า ประกอบด้วยการแข่งขัน 2 รายการ ได้แก่ 

1. รายการ CSIJ-B เป็นการแข่งขันขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง เยาวชนระดับนานาชาติ ทั้งประเภททีมและประเภทบุคคล

2. รายการ Princess’s Cup Thailand แบ่งเป็น 5 ประเภท 

    2.1. ศิลปะการบังคับม้า (DRESSAGE)

          ผู้แข่งขันจะต้องบังคับม้าของตนปฏิบัติตามคำสั่ง (Test) เช่น การเปลี่ยนฝีเท้าม้าในการวิ่งตามจุดบังคับต่างๆ ในสนามแข่ง ลักษณะการก้าวของม้าที่ผู้ขี่จะต้องบังคับม้าของตน ให้มีความสวยงามและถูกต้อง ตามหลักเกณฑ์ของสมาพันธ์ขี่ม้านานาชาติ หากนักกีฬาคนไหน ทำคะแนนสูงสุดถือว่าเป็นผู้ชนะ

    2.2. การขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง (JUMPING)

การแข่งขันขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง กติกาการแข่งขันเป็นไปตามกฎของสหพันธ์ขี่ม้านานาชาติ กำหนด หากใครที่คะแนนเสียน้อยที่สุด และเวลาเร็วที่สุด จะเป็นผู้ชนะ 

    2.3. อีเวนท์ติ้ง (EVENTING)

ศิลปะการขี่ม้าที่รวมเอาทั้ง Dressage, Cross Country และ Show Jumping เข้าด้วยกัน การแข่งขันประเภทนี้ไม่สามารถแข่งจนจบภายในวันเดียวได้ ดังนั้น ผู้ชมจะทราบผลคะแนนแต่ละประเภทของนักกีฬาและม้าของแต่ละคนได้จากบอร์ดคะแนน

    2.4. สุดยอดผู้ดูแลม้า (BEST GROOM)

การปรนนิบัติบำรุงม้า โดยทำความสะอาดแห้งม้าทั้งตัว รวมถึงการผูกอานม้าพร้อมขี่

    2.5. สุดยอดช่างเกือกม้า (BEST FARRIER)

การแข่งขันการทำเกือกม้า โดยวิธีการนำเหล็กเส้นมาตีเป็นเกือกม้า

  5.2 การแข่งขันเกี่ยวกับสุนัข ประกอบด้วย 

1. การแข่งขันวิ่งกับสุนัข (Dog Fun Run) ประเภท 1.2 กม. และ 2.5 กม. 

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม และสมัครออนไลน์ได้ที่ https://race.thai.run/dogfunrunwithpartner2022

2. การประกวดสุนัขสวยงามทุกสายพันธุ์ (All Breed)

3. การแข่งขันสุนัขใช้งานสากล หรือ IGP (Internationale Gebrauchshunde Prüfungsordnung)
   เป็นการทดสอบความสามารถ เพื่อประเมินคุณสมบัติของสุนัขที่เหมาะสมสำหรับนำไปทำงาน ได้แก่ แรงขับจากภายใน (Triebveranlangung) ความมั่นคงในตัวเอง (Selbstsicherheit) และความอดทนต่อการกดดัน (Belastbarkeit) เรียกรวมกันว่า TSB การทดสอบแบ่งออกเป็น 3 ขั้น ขั้น 1 คือการสะกดรอย (Tracking 100 คะแนน) ขั้น 2 เชื่อฟังคำสั่ง (Obedience 100 คะแนน) และขั้น 3 ต่อสู้ป้องกัน (Protection 100 คะแนน) รวมทั้งหมด 300 คะแนน สุนัขที่ผ่านการทดสอบ คะแนนรวมต้องไม่น้อยกว่า 210 คะแนน และคะแนนของทุกขั้นต้องอยู่ในเกณฑ์ผ่าน

5.3  นิทรรศการ แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ 

       1. พระจริยวัตรที่สําคัญ ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา

- พระปรีชาสามารถทางการกีฬาเพื่อพัฒนากีฬาขี่ม้าตามมาตรฐานสากล

- พระดําริจัดทําคู่มือการปรนนิบัติบํารุงม้าเบื้องต้น

- ศูนย์บริการสุขภาพและเวชศาสตร์ฟื้นฟูม้า และกิจกรรมจิตอาสา 

2. รางวัลที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงได้รับ

- FEI Asian Championship Pattaya 2019

- Rising Star

- รางวัลเกียรติคุณดีเด่น เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติปี 2560

3. ทรงพระราชทานกําลังใจ และสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ในการปฏิบัติงานการท่ามกลางวิกฤตโควิด-19  

4. ข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดงาน อาทิ ประวัติโค้ช ข้อมูลสถานที่คอกม้า และ ศิลปะภาพวาดม้า    

4. กิจกรรม FLEA MARKET 

พบปะสังสรรค์และถ่ายรูปเช็คอินในบรรยากาศร่มรื่นของสนามม้า ชิมอาหารสไตล์ Food Truck / Street Food พร้อมชอปปิ้งสินค้าน่าสนใจมากมาย 

 

6. แนะนำการเดินทาง

ผู้มาเที่ยวงานสามารถเดินทางได้โดยรถยนต์ส่วนตัวและรถโดยสารสาธารณะ ดังนี้

• รถไฟฟ้าเฉลิมพระเกียรติฯ (BTS) - ลงสถานีสนามเป้า ประตูทางออกที่ 2 ฝั่ง ททบ.5

• รถ ขสมก.- 8, 26, 27, 28, 29, 34, 39, 54, 59, 63, 74, 77, 97, 108, 112, 157, 159, 177, 184, 204, 502, 503, 509, 510, 513  

• รถส่วนบุคคล : จอดรถได้ที่ ททบ.5 และกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์
  
  

7. ข้อมูลควรรู้ และข้อแนะนำเบื้องต้นการขี่ม้า 

1.  อุปกรณ์เบื้องต้นสำหรับการขี่ม้า ประกอบด้วย  

• หมวกขี่ม้า เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการขี่ม้าเบื้องต้นเพื่อความปลอดภัย

• แส้ขี่ม้า ไม่ได้ใช้ตีอย่างเดียว ผู้ขี่สามารถใช้แตะส่วนต่าง ๆ เพื่อบอกให้ม้ารู้จังหวะการเคลื่อนที่

• เสื้อและกางเกงขี่ม้า ช่วยให้ผิวหนังไม่เสียดสีกับอานม้าถ้าคุณใส่กางเกงอื่นอาจทำให้คุณเจ็บ หรือผิวไหม้ได้

• รองเท้าบู๊ตขี่ม้า จะเป็นบู๊ตยาวหรือสั้นก็ได้ เพื่อช่วยป้องกันการเสียดสี

• ถุงมือขี่ม้า  ช่วยไม่ให้มือของคุณเสียดสีกับบังเหียน (เส้นหนังที่ใช้บังคับม้า) และป้องกันไม่ให้มือด้านหรือผิวไหม้

2. อุปกรณ์สำหรับม้า (เครื่องม้า)

• เครื่องบังเหียน ขลุมขี่ สายบังเหียน เหล็กปากม้า เป็นเครืองมือที่ใช้ในการบังคับม้า เพื่อให้ม้าเลี้ยวไปตามทิศทางที่ผู้ขี่ม้าต้องการ บังเหียนใช้ผูกบริเวณส่วนหน้าของม้า

• สนับแข้งม้า  ใช้สำหรับป้องกันการสับขาของม้าระหว่างขาซ้ายและขาขวา หรือป้องกันการกระแทกจากการกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง

• เครื่องอานม้า  เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการนั่งขี่แล้วบังคับม้าด้วยเข่า มีส่วนประกอบสำคัญ คือสายรัดทับ ยึดติดตัวอานม้าไว้บนหลังม้าไม่ให้เลือนไหลหรือพลิกกลับ และสายโกรนซึ่งใช้ในการเหยียบและยึดเท้าของผู้ขี่

3.  ผลิตภัณฑ์จากมูลม้า  

• ปุ๋ยมูลม้า การนำมูลสัตว์มาทำปุ๋ย สามารถปรับปรุงคุณภาพดินเพราะมีสารอาหารที่พืชต้องการมาก
  เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับมูลสัตว์ รวมทั้งลดต้นทุนให้แก่เกษตรกร เพราะปุ๋ยที่ทำมาจากมูลสัตว์มีราคาที่
  ต่ำกว่าปุ๋ยเคมีมาก   

• จานรองและกระถางปลูกต้นไม้จากมูลม้า  มูลม้าจัดเป็นมูลสัตว์ที่มีเส้นใยสูง เนื่องจากม้าเป็นสัตว์ที่มีกระเพาะเดี่ยว (Single stomach) และมีขนาดที่เล็กมากเมื่อเทียบกับสัตว์ที่มีขนาดลำตัวเท่ากัน จึงมีการย่อยสลายภายในกระเพาะเพียง 50 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ยังคงเหลือเส้นใยอยู่ภายในมูลม้าเป็นจำนวนมาก
  เป็นที่มาของโครงการวิจัย “การพัฒนาวัสดุเชิงประกอบพลาสติกย่อยสลายทางชีวภาพและเส้นใยเซลลูโลสจากมูลม้า” เพื่อออกแบบเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในงานเกษตร เป็นทางเลือกรักษ์โลก ลดพลาสติกได้อย่างดี 

******