ADS


Breaking News

"เกียรติภูมิ สิริพันธุ์" หัวหน้าพรรคไทยสมาร์ท ประกาศพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี กู้วิกฤติชาติ ด้วยเทคโนโลยีอุลตร้าสมาร์ท

พรรคไทยสมาร์ทเปิดตัวเป็นทางการสุดอลัง "นายเกียรติภูมิ สิริพันธุ์" หัวหน้าพรรค อาสากู้วิกฤติ ประกาศพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี ในสนามเลือกตั้งหน้า กางแผนยุทธศาสตร์ใช้เทคโนโลยีสร้างความสมาร์ท ยกระดับประชาชนสู่ระดับโลก
เปิดตัวพรรคการเมืองใหม่ "ไทยสมาร์ท" เลือกตั้งครั้งหน้าพร้อมชิงตำแหน่งนายกฯ คนต่อไปอาสากู้วิกฤตประเทศ
     นายเกียรติภูมิ สิริพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสมาร์ท เปิดตัวทีมทำงานการเมืองอาสากู้วิกฤติ ประกาศชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ชูสโลแกน “ปลดหนี้ มีรายได้ หายจน คนไทยสมาร์ท เพื่อประเทศไทย” พร้อมส่งผู้สมัคร ส.ส. 400 เขต
     วันที่ 8 พ.ค. 2565 นายเกียรติภูมิ สิริพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสมาร์ท เปิดเผยว่า พรรคไทยสมาร์ท ก่อตั้งขึ้นเมื่อ วันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2565 ที่ จังหวัดสุพรรณบุรี ตั้งขึ้นจากแรงบันดาลใจต้องการเห็นภาพประเทศไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศพัฒนา รวมถึงการใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดในโลกมาสร้างความสมาร์ทให้แก่ประชาชนคนไทยทั่วประเทศ ยกระดับเศรษฐกิจ ชุมชน เพื่อให้ประเทศไทยก้าวหน้าในทุกอาชีพ สอดคล้องกับสโลแกนพรรค “ปลดหนี้ มีรายได้ หายจน คนไทยสมาร์ท เพื่อประเทศไทย”
     นายเกียรติภูมิ กล่าวว่า พรรคไทยสมาร์ท มองเห็นสภาวะวิกฤติในประเทศไทย อาทิ ไวรัสโควิด-19 , สงคราม , น้ำมันที่มีราคาสูงขึ้น สินค้าอุปโภคบริโภคราคาขยับสูงตามลำดับ ปัญหาการตกงาน และขาดแคลนรายได้ เป็นต้น ทำให้พรรคไทยสมาร์ท เป็นพรรคใหม่ในประเทศไทย ต้องการใช้ความรู้ความสามารถเข้ามาอาสาทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง และมุ่งหวังพัฒนาประเทศไทยด้วยความจริงใจ ส่วนแรกคือด้านเศรษฐกิจในครัวเรือน ตามวิชาเศรษฐศาสตร์จุลภาค (Micro-Economic) และส่วนที่สอง คือ ด้านเศรษฐกิจของประเทศตามวิชา เศรษฐศาสตร์มหภาค (Macro-Economic) สอดคล้องกับการสร้างวัฒนธรรมการดำรงชีวิตของทุกครัวเรือน ให้ประชาชนมีรายได้ แทนการกู้หนี้ยืมสิน
     “แน่นอนที่สุด การกู้หนี้ยืมสินจะก่อหนี้ครั้งเดียวพร้อมมีภาระผูกพันในการจ่ายค่าดอกเบี้ย คืนเงินต้น หากหาเงินไม่ทันใช้หนี้ก็ไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ สำหรับมุมมองการแก้ปัญหา ในทางกลับกัน หากประชาชนเป็นคนสมาร์ทก็จะได้รูปแบบการสร้างรายได้ ดีกว่าแบบแรกแน่นอน เพราะประชาชนจะไม่มีภาระดอกเบี้ย ไม่ต้องใช้เงินคืน ไม่ใช่ได้แค่ครั้งเดียว แต่สามารถมีรายได้ไปตลอด ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของครัวเรือนนั้น มีความสุข สามารถพึ่งพาตนเองได้ ไม่ต้องเป็นภาระของสังคม” นายเกียรติภูมิ กล่าว
    นายเกียรติภูมิ กล่าวว่า สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศ หากทุกครัวเรือนมีความสมาร์ท ทุกคนก็จะสร้างรายได้ด้วยตนเอง กำลังซื้อโดยรวมก็จะดีขึ้น ประเทศไทยก็จะมีเศรษฐกิจที่พัฒนาขึ้น ไปสู่ความเป็นประเทศพัฒนา จุดเด่นพรรคไทยสมาร์ท ด้วยการนำเทคโนโลยีที่ดีที่สุดจากทั่วโลกมาช่วยประชาชนให้มีความสมาร์ท จิ๊กซอว์ให้ประชาชนสร้างรายได้มากขึ้น ยกตัวอย่าง อาทิ การผลิตไฟฟ้าจากเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ สามารถแก้ภาวะวิกฤติน้ำมันแพง โดยประชาชนสามารถเปรียบเทียบได้ว่า ไฟฟ้า 1 หน่วย หากผลิตจากน้ำมัน หรือ ถ่านหิน จะมีต้นทุนสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะสงครามเช่นนี้ ถามว่า ต้นทุนไฟฟ้าจากน้ำมัน ประชาชนต้องรับภาระค่าน้ำมัน แต่ต้นทุนค่าไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ พลังงานลมเป็นศูนย์ เพราะแสงอาทิตย์และลมนั้นได้มาฟรีๆ หากเราสมาร์ท เมื่อประชาชนรู้จักใช้เทคโนโลยีแปลงแสงแดดเป็นไฟฟ้า นี่คือความสมาร์ทที่เกิดขึ้น
     “อีกตัวอย่างหนึ่ง หากประชาชนใช้เทคโนโลยี WiFi, AI, Big Data มาใช้ในภาคเกษตรกรรม เมื่อ Smart Farmers ดูจาก Big Data จะทราบว่า ราคาสินค้าในตลาดโลกเป็นอย่างไร วิธีการลดต้นทุนสินค้าควรทำอย่างไร ดินประเภทใดเหมาะกับสินค้าแบบใด ประชาชนก็สามารถใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ผลิตสินค้าและเจาะตลาดโลกได้ ตอบโจทย์ความสมาร์ทต่อการสร้างรายได้แบบยั่งยืน พวกเราทุกคนสามารถมาร่วมพลิกโฉมประเทศไทยให้มี Smart Farmers ได้ทุกหนทุกแห่ง และประเทศไทยก็จะมีรายได้ประชาชาติ ผลิตภัณฑ์มวลรวมสูงขึ้น ส่งผลให้ประเทศค่อยๆ พัฒนาขึ้นเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วในที่สุด ดึงรายได้เข้าประเทศแทนการกู้ยืมเงิน ลดภาระหนี้สิน พรรคจึงมั่นใจว่าการใช้ความสมาร์ทในการหาเงินเข้าประเทศแทนการเป็นหนี้ ผมจึงขออาสาชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคไทยสมาร์ทมีความพร้อมที่จะส่งผู้สมัครสมาชิกผู้แทนราษฏร ครบ 400 เขต” นายเกียรติภูมิ กล่าว
    นายเกียรติภูมิ กล่าวว่า กลุ่มเป้าหมายของพรรคไทยสมาร์ท เจาะประชาชนทุกคน ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน และผู้อาวุโส ด้วยความตั้งใจที่จะน้อมนำเอาเทคโนโลยีที่ดีที่สุดมาใช้ในทุกกลุ่ม เช่น คนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นวัยเรียนรู้ เหมาะกับการเสาะแสวงหาเทคโนโลยีที่ดีที่สุดสำหรับการใช้ชีวิตของพวกเขา และพวกเขาจะสามารถใช้สมาร์ทเทคโนโลยี ในการสร้างรายได้ สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับประเทศไทยได้ ด้านกลุ่มคนทำงาน รวมถึง กลุ่มผู้ใหญกลุ่มผู้บริหารที่ประสบการณ์ในการทำงาน นับว่าเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาธุรกิจ พัฒนาประเทศ เมื่อประชาชนเข้าใจประยุกต์ใช้สมาร์ทเทคโนโลยี ในการสร้างเศรษฐกิจให้กับประชาชนและประเทศชาติ และกลุ่มผู้อาวุโสนั้น พรรคไทยสมาร์ทเล็งเห็นว่าท่านเหล่านี้มีประสบการณ์อันทรงคุณค่าต่อคนรุ่นอื่นและต่อๆไป เนื่องจากท่านผ่านประสบการณ์มามากที่สุด และในยุคสมัยของพวกท่านยังไม่มีเทคโนโลยีนำสมัยเหมือนในปัจจุบัน ดังนั้นท่านเหล่านี้จะแชร์ประสบการณ์ที่ท่านผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านความยากลำบากมาจากยุคที่ไร้เทคโนโลยีมาได้อย่างไรให้คนรุ่นใหม่ได้ศึกษาเข้าใจ ว่าคนรุ่นใหม่นั้นโชคดีเพราะมีโอกาสเข้าถึงสมาร์ทเทคโนโลยี ที่จะนำพาชีวิตความเป็นอยู่ อาชีพ และเศรษฐกิจโดยรวม ให้พัฒนาขึ้นได้
    นายเกียรติภูมิ กล่าวด้วยว่า พรรคไทยสมาร์ท วางแผนกลยุทธ์สร้างความเชื่อมั่นจากประชาชนจากความสามารถ ผลงานและรางวัลการันตีกว่า 10 ปีที่ผ่านมา หนึ่งในนั้นที่ชัดเจนคือ โครงการตัวอย่างคือเราสร้างรายได้จากการใช้เทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์และแบ่งปันรายได้ให้สหกรณ์การเกษตรปีละ 10 กว่าล้านบาท โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานชีวมวล ที่ผลิตไฟฟ้าโดยใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดโลกร้อน และที่สำคัญคือแบ่งปันรายได้ให้ประชาชน รวมถึงให้ความสำคัญจิตสาธารณะเพื่อประชาชน ดังนั้นตัวผมกับสมาชิกในพรรค จะเน้นทำความดีตลอดไป ให้ประชาชนเชื่อมั่นในผลงาน ความมุ่งมั่น นำศักยภาพของตนเองและสมาชิกในพรรค ใช้สมาร์ทเทคโนโลยีมาสร้างรายได้ให้กับประชาชนในประเทศไทยได้อย่างแน่นอน
     “พรรคไทยสมาร์ทเป็นพรรคน้องใหม่ พรรคได้จัดประชุมใหญ่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี มีการจัดตั้งสาขาภาคครบตามที่กฎหมายกำหนด พรรคมีการรับสมัครสมาชิกตามจำนวนที่กฎหมายกำหนด แม้จะเป็นพรรคน้องใหม่ แต่หัวใจแกร่ง เข้าใจปัญหาของประชาชนส่วนใหญ่ที่ประสบปัญหา คาดว่าฐานเสียงของพรรคจะสามารถโกยได้ 1 ใน 4 ของภาพรวมพรรคการเมืองในทุกพรรคในประเทศไทยและเดินหน้าตั้งเป้าหมาย 100 เสียง เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ชูหัวหน้าพรรคเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนต่อไป ในระยะเวลาอีก 1 ปี เดินหน้าจัดตั้งตัวแทนสาขาให้ครบ 77 จังหวัดแน่นอน” นายเกียรติภูมิ กล่าว 
     พร้อมกันนี้นายกาญจน์กฤดิ คันทชัย เลขาธิการพรรคฯ กล่าวถึงประวัติพรรคไทยสมาร์ท
     และนายประวิทย์ เรืองศิริกูลชัย หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคฯ ร่วมเผยแนวนโยบายภายใต้สโลแกน "ไทยแลนด์ 5.5 นำพาไทยสู่สังคม "อุลตร้าสมาร์ท" บรรยายโดยหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ