ADS


Breaking News

อว.เผย 5 มี.ค.ไทยฉีดวัคซีนโควิดแล้ว 124.64 ล้านโดส ทั่วโลกแล้ว 10,863 ล้านโดส ส่วนอาเซียนฉีดแล้วรวมกันกว่า 980.96 ล้านโดส

"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 5 มีนาคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 124,649,712 โดส และทั่วโลกแล้ว 10,863 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 980.9 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (114.3%)
     ➡️(5 มีนาคม 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 10,863 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 35.8 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 554 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 216 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
     ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 980.9 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (95% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 351.05 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 5 มีนาคม 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 124,649,712 โดส 
     🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 10,863 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ 
     1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 5 มีนาคม 2565  
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม  124,649,712 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 53,867,360 โดส (81.4% ของประชากร)
-เข็มสอง 49,840,169 โดส (75.3% ของประชากร)
-เข็มสาม 20,942,183 โดส (31.6% ของประชากร)
     2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ. 64 – 5 มี.ค. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 124,649,712 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 253,688 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 212,909 โดส/วัน
     3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 22,903,748 โดส
- เข็มที่ 2 3,599,404 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส 

วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 13,903,975 โดส
- เข็มที่ 2 28,473,405 โดส
- เข็มที่ 3 5,064,634 โดส 

วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 7,547,594 โดส
- เข็มที่ 2 7,239,186 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส 

วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 8,758,198 โดส
- เข็มที่ 2 9,676,081 โดส
- เข็มที่ 3 12,639,272 โดส 

วัคซีน Moderna
- เข็มที่ 1 753,845 โดส
- เข็มที่ 2 852,093 โดส
- เข็มที่ 3 3,238,277 โดส
     4. 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ครอบคลุมประชากรสูงที่สุด
1. ภูเก็ต เข็มที่1 91.8% เข็มที่2 87.4% เข็มที่3 80.4%
2. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 114.3% เข็มที่2 105.1% เข็มที่3 64.8% 
3. นนทบุรี เข็มที่1 82.4% เข็มที่2 78.6% เข็มที่3 58.7%
4. สมุทรปราการ เข็มที่1 92.4% เข็มที่2 81.2% เข็มที่3 56.3%
5. อยุธยา เข็มที่1 75% เข็มที่2 71.8% เข็มที่3 41.7%
6. ระยอง เข็มที่1 85.3% เข็มที่2 81.1% เข็มที่3 41.2%
7. ลำพูน เข็มที่1 81.8% เข็มที่2 78.1% เข็มที่3 40.4%
8. ชลบุรี เข็มที่1 83.6% เข็มที่2 79.5% เข็มที่3 36.8%
9. นครปฐม เข็มที่1 77.9% เข็มที่2 76.5% เข็มที่3 34.9% 
10. ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 82.6% เข็มที่2 69.9% เข็มที่3 34.5%

10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ครอบคลุมประชากรต่ำที่สุด
1. ปัตตานี เข็มที่1 57.2% เข็มที่2 45.6% เข็มที่3 6.5%
2. นราธิวาส เข็มที่1 55.8% เข็มที่2 45% เข็มที่3 6.5%
3. ยะลา เข็มที่1 63.3% เข็มที่2 52.5% เข็มที่3 9.1%
4. บึงกาฬ เข็มที่1 64.7% เข็มที่2 56.6% เข็มที่3 9.4%
5. หนองบัวลำภู  เข็มที่1 63.4% เข็มที่2 58% เข็มที่3 10.7%
6. สตูล เข็มที่1 65.4% เข็มที่2 60.2% เข็มที่3 11.2%
7. สกลนคร เข็มที่1 66.7% เข็มที่2 60% เข็มที่3 12.3%
8. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 59.3% เข็มที่2 50.1% เข็มที่3 12.6%
9. กาฬสินธุ์ เข็มที่1 67.3% เข็มที่2 60.6% เข็มที่3 12.8%
10. อำนาจเจริญ เข็มที่1 71.1% เข็มที่2 65.2% เข็มที่3 12.9%
    5. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 980,965,297 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 351,058,900 โดส (69.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 196,320,242 โดส (81.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm 
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 135,849,882 โดส (55.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca  
4. ไทย จำนวน 124,649,712 โดส (81.4%* ของประชากร)  ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 67,600,736 โดส (83%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac  
6. พม่า จำนวน 44,685,868 โดส (43.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 36,908,161 โดส (86.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac 
8. สิงคโปร์ จำนวน 13,572,663 โดส (92%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac 
9.  ลาว จำนวน 9,292,290 โดส (67.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca 
10. บรูไน จำนวน 1,026,843 โดส (95%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm 
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม 
     6. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.67%
2. ยุโรป 10.15%
3. อเมริกาเหนือ 8.59%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.17%
5. แอฟริกา 3.80%
6. โอเชียเนีย 0.62% 
     7. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 3,147.01 ล้านโดส (222.5% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,784.72 ล้านโดส (129.5%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 554.21 ล้านโดส (165.3%)
4. บราซิล จำนวน 394.11 ล้านโดส (186.1%) 
5. อินโดนีเซีย  จำนวน 351.06 ล้านโดส (127.2%) 
     8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (309%) (ฉีดวัคซีนของ  Abdala และ Soberana02)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (260.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya) 
3. ชิลี (252.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
4. เกาหลีใต้  (247.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ  Moderna)
5. มัลดีฟส์ (239%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
6. กาตาร์ (237.3%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderma) 
7. ฝรั่งเศส (235%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech, Moderna, J&J และ AstraZeneca/Oxford)
8.บรูไน (232.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)  
9. บาห์เรน (231.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
10. สิงคโปร์ (230.5%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)  

     แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
     ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)