ADS


Breaking News

อว.เผย 23 ก.พ.ไทยฉีดวัคซีนโควิดแล้ว 122.18 ล้านโดส ทั่วโลกแล้ว 10,625 ล้านโดส ส่วนอาเซียนฉีดแล้วรวมกันกว่า 958.5 ล้านโดส

"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 122,185,472 โดส และทั่วโลกแล้ว 10,625 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 958.5 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (113.1%)
     ➡️(23 กุมภาพันธ์ 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 10,625 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 28.9 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 551 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 215 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
     ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 958.5 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.9% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 340.8 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 122,185,472 โดส 
     🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 10,625 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ 
     1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565  
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม  122,185,472 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 53,221,513 โดส (80.4% ของประชากร)
-เข็มสอง 49,539,848 โดส (74.8% ของประชากร)
-เข็มสาม 19,424,111 โดส (29.3% ของประชากร)
     2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ. 64 – 23 ก.พ. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 122,185,472 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 269,473โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 237,814 โดส/วัน
     3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 22,893,988 โดส
- เข็มที่ 2 3,598,941 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส 

วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 13,856,683 โดส
- เข็มที่ 2 28,416,621 โดส
- เข็มที่ 3 4,847,147 โดส 

วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 7,537,622 โดส
- เข็มที่ 2 7,230,861 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส 

วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 8,189,623 โดส
- เข็มที่ 2 9,473,818 โดส
- เข็มที่ 3 11,557,721 โดส 

วัคซีน Moderna
- เข็มที่ 1 741,597 โดส
- เข็มที่ 2 819,607 โดส
- เข็มที่ 3 3,019,243 โดส
     4. 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ครอบคลุมประชากรสูงที่สุด
1. ภูเก็ต เข็มที่1 91.4% เข็มที่2 87.2% เข็มที่3 78%
2. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 113.1% เข็มที่2 104.7% เข็มที่3 60.3% 
3. นนทบุรี เข็มที่1 82% เข็มที่2 78.4% เข็มที่3 55.6%
4. สมุทรปราการ เข็มที่1 91.7% เข็มที่2 80.7% เข็มที่3 51.7%
5. อยุธยา เข็มที่1 74.2% เข็มที่2 71.4% เข็มที่3 39.1%
6. ลำพูน เข็มที่1 80.8% เข็มที่2 77.1% เข็มที่3 38.9%
7. ระยอง เข็มที่1 84.3% เข็มที่2 80.5% เข็มที่3 37.3%
8. ชลบุรี เข็มที่1 82.9% เข็มที่2 79% เข็มที่3 33.7%
9. นครปฐม เข็มที่1 77.1% เข็มที่2 76% เข็มที่3 32.8% 
10. ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 81.7% เข็มที่2 69.5% เข็มที่3 31.9%

10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ครอบคลุมประชากรต่ำที่สุด
1. นราธิวาส เข็มที่1 55.6% เข็มที่2 44.8% เข็มที่3 6%
2. ปัตตานี เข็มที่1 56.7% เข็มที่2 45.5% เข็มที่3 6.1%
3. บึงกาฬ เข็มที่1 63.6% เข็มที่2 56.3% เข็มที่3 8.5%
4. ยะลา เข็มที่1 62.9% เข็มที่2 52.3% เข็มที่3 8.5%
5. หนองบัวลำภู  เข็มที่1 63.1% เข็มที่2 57.6% เข็มที่3 10%
6. สตูล เข็มที่1 64.6% เข็มที่2 60% เข็มที่3 10.6%
7. กาฬสินธุ์ เข็มที่1 66.1% เข็มที่2 60.2% เข็มที่3 11.4%
8. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 58.2% เข็มที่2 48.6% เข็มที่3 11.5% 
9. สกลนคร เข็มที่1 65.6% เข็มที่2 59.3% เข็มที่3 11.7%
10. อำนาจเจริญ เข็มที่1 70% เข็มที่2 65% เข็มที่3 12.3%
     5. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 958,519,315 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 340,874,189 โดส (68.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 191,993,381 โดส (81.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm 
3. ฟิลิปปินส์ 134,332,014 โดส (55.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca  
4. ไทย จำนวน 122,185,472 โดส (80.4%* ของประชากร)  ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 66,441,964โดส (81.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac  
6. พม่า จำนวน 43,951,296 โดส (42.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 35,562,942 โดส (85.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac 
8. สิงคโปร์ จำนวน 13,049,391 โดส (92%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac 
9.  ลาว จำนวน 9,123,493 โดส (65.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca 
10. บรูไน จำนวน 1,005,173 โดส (94.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm 
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม 
     6. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.57%
2. ยุโรป 10.21%
3. อเมริกาเหนือ 8.68%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.19%
5. แอฟริกา 3.72%
6. โอเชียเนีย 0.63% 
     7. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 3,084.71 ล้านโดส (218.1% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,761.77 ล้านโดส (127.8%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 550.97 ล้านโดส (164.3%)
4. บราซิล จำนวน 386.30 ล้านโดส (182.4%) 
5. อินโดนีเซีย  จำนวน 340.87 ล้านโดส (123.6%) 
     8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (307.7%) (ฉีดวัคซีนของ  Abdala และ Soberana02)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (259.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya) 
3. ชิลี (247.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
4. มัลดีฟส์ (234.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
5. กาตาร์ (231.8%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderma) 
6. บาห์เรน (230.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
7. เกาหลีใต้  (229.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ  Moderna) 
8. บรูไน (228%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)  
9. เดนมาร์ก (226%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
10. อิตาลี (223.5%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna J&J และ AstraZeneca/Oxford) 

     แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
     ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)