ADS


Breaking News

“SANSIRI” ปลื้ม “แสนสิริ อะคาเดมี่” โชว์ผลงาน 15 ปี จากสนามฝึกสู่สนามจริง สร้างอนาคตเยาวชนด้วยกีฬา

“SANSIRI” ฉลองความสำเร็จ “แสนสิริ อะคาเดมี่” โชว์เคส 15 ปี จากสนามฝึกสู่สนามจริง ปลุกพลังเยาวชน สร้างโอกาส สู่อนาคตด้วยกีฬา

  • บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ประสบความสำเร็จเคียงข้างเยาวชนไทย 15 ปี ผ่านแสนสิริ อะคาเดมี่ ศูนย์ฝึกทักษะฟุตบอลเยาวชน เสริมศักยภาพเยาวชนไทยสู่นักกีฬามืออาชีพ
  • โชว์เคส ความสำเร็จจากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง เปิดใจ “เจ-ชนาธิป”  “แบงค์ - ไกรวิชญ์” และ “บูม – สมิตธิ์”  ที่ร่วมค้นหาตัวตนผ่านแสนสิริ อะคาเดมี่ จุดเริ่มต้นสู่นักกีฬามืออาชีพ
  • ประกาศความพร้อมสู่ปีที่ 16 เพิ่มการดูแลเยาวชนแบบ 360 องศา เน้นสุขภาพกาย-สุขภาพใจ การกีฬา การศึกษา ผลักดันสู่ถาบันการศึกษาที่มีคุณภาพ และเพิ่มโอกาสทางทุนการศึกษา
นายสมัชชา พรหมศิริ Chief of Staff ฝ่ายกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)

นายสมัชชา พรหมศิริ Chief of Staff ฝ่ายการตลาดดิจิตอลและสื่อสารองค์กร บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2565 นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่แสนสิริให้ความสำคัญกับการดูแลสังคมควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจที่โปร่งใส ซึ่งหนึ่งในนโยบายที่สำคัญคือการส่งเสริมส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนให้ได้รับสิทธิ์ในด้านต่างๆ อย่างเท่าเทียม และมีชีวิตที่ดี เพื่อให้เด็กในวันนี้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในวันข้างหน้า 

ฉลองความสำเร็จ “แสนสิริ อะคาเดมี่” โชว์เคส 15 ปี จากสนามฝึกสู่สนามจริง

แสนสิริจึงมุ่งเน้นการช่วยเหลือ ส่งเสริม และพัฒนาเยาวชนอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการนำกีฬาเข้ามาช่วยส่งเสริมในด้านต่างๆ ผ่านแสนสิริ อะคาเดมี่ ที่แสนสิริก่อตั้งขึ้นมาในปี 2549 ด้วยวัตถุประสงค์ในการมีส่วนร่วมพัฒนาสังคม มุ่งเน้นการสร้างคน ส่งเสริมคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนอย่างยั่งยืน และเท่าเทียมกัน ในด้านกีฬาและสุขภาพ โดยเฉพาะการส่งเสริมการเรียนรู้พื้นฐานด้านกีฬาฟุตบอลอย่างถูกต้องโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งปัจจุบันมีเยาวชนผ่านการบ่มเพาะถึง 8,000 คน เราได้สานฝันเยาวชนสู่เป้าหมายได้ไม่ต่ำกว่า 150 คน โดยเป็นนักกีฬาทีมชาติและนักฟุตบอลอาชีพแล้วกว่า 50 คน ทั้งทีมชาติไทยและเยาวชน รวมทั้งมีเด็กที่ได้รับทุนการศึกษากว่า 100 คน มีสนามฝึกซ้อมทั้งสิ้น 5 สนาม ได้แก่ สนามฟุตบอลปัญญาซอคเกอร์ปาร์ค สนามฟุตบอลอาม่าซ็อคเกอร์คลับ สนามฟุตบอลศูนย์ฝึกกีฬา อ่อนนุช สนามฟุตบอล The Corner FC และสนามหน้าที่ว่าการอำเภอกระทู้ จ.ภูเก็ต  

ฉลองความสำเร็จ “แสนสิริ อะคาเดมี่” โชว์เคส 15 ปี จากสนามฝึกสู่สนามจริง

ในปี 2565 ซึ่งเป็นปีพิเศษที่ แสนสิริ อะคาเดมี่ ครบรอบ 15 ปี และกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 16 ยังคงมุ่งมั่นยืนหยัดเคียงข้างเยาวชน ด้วยการปรับรูปแบบการเรียนการสอนให้มีทั้งแบบปกติและแบบออนไลน์ตามความเหมาะสม และสิ่งที่สำคัญในปีนี้คือจะเพิ่มการดูแลเยาวชนในทุกมิติแบบ 360 องศา โดยเน้นการดูแล 3 ด้าน คือ ด้านสุขภาพที่ดี ด้านการศึกษา และด้านกีฬาที่เข้มข้น โดยด้านสุขภาพนั้นในปีนี้ไม่ได้เน้นที่สุขภาพกายเพียงอย่างเดียวแต่ได้ดูแลครอบคลุมไปถึงด้านสุขภาพจิต เนื่องจากสถานการณ์โควิด -19 ที่ส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชน ทั้งด้านพัฒนาการในทุกด้าน ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา การเข้าสังคม และการควบคุมอารมณ์ ทางแสนสิริ อะคาเดมี่ จึงได้ร่วมมือกับ นักโภชนาการ นักจิตวิทยา รวมถึงนักกีฬามืออาชีพ เข้ามารร่วมผนึกกำลังในการดูแลเยาวชนให้ฝ่าวิกฤตโควิด -19 ไปได้ด้วยดี ส่วนด้านการศึกษา ได้มีส่วนผลักดันจนเยาวชนได้รับโควต้าเข้าศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาที่มีคุณภาพ หรือต่อยอดสู่ระดับสโมสรและระดับชาติ รวมถึงสนับสนุนด้านทุนการศึกษาให้กับเยาวชนที่มีความสามารถเพื่อเปิดโอกาสให้เข้าถึงสถาบันการศึกษาระดับสูง ทางการด้านกีฬาและการฝึกซ้อมแสนสิริ อะคาเดมี่ เปิดรับเยาวชนที่สนใจเข้าร่วมฝึกอยู่เสมอ โดยเน้นความเท่าเทียม ไม่จำกัด เพศ และอายุ การสมัครสามารถมาสมัครที่สนามใกล้บ้านได้เลยโดยไม่ได้มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก ขอแค่เยาวชนมีความสนใจและพร้อมที่จะเข้าร่วม ทางเรายินดีเปิดรับ โดยการสอนนั้นจะมีการฝึกซ้อมทุกเสาร์-อาทิตย์ วันละ 2 ชั่วโมง 5 สนามทั้งในกรุงเทพมหานคร และภูเก็ต 

ฉลองความสำเร็จ “แสนสิริ อะคาเดมี่” โชว์เคส 15 ปี จากสนามฝึกสู่สนามจริง

อย่างไรก็ดี ท่ามกลางสถานการณ์โควิด แสนสิริ อะคาเดมี่ ได้ปรับรูปแบบการฝึกซ้อมเข้าสู่โหมดออนไลน์ในบางช่วง เนื่องจากต้องเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยและเว้นระยะห่างทางสังคม โดยเน้นให้เด็กและเยาวชนได้ฝึกทักษะที่สามารถฝึกเองที่บ้านได้ ทั้งแบบเรียลไทม์ และผ่านการส่งคลิปวีดีโอจากโค้ชให้แก่เด็กๆ ใช้ในการฝึก และอัดคลิปในการฝึกส่งมายังโค้ช เพื่อให้เกิดการพัฒนาทักษะที่ต่อเนื่อง 

ฉลองความสำเร็จ “แสนสิริ อะคาเดมี่” โชว์เคส 15 ปี จากสนามฝึกสู่สนามจริง

“ความภูมิใจของแสนสิริ อะคาเดมี่ ไม่ใช่เพียงส่งเยาวชนไปสู่นักกีฬามืออาชีพเท่านั้น แต่เรามีส่วนร่วมในการส่งเสริมเยาวชนได้ใช้เวลาว่างอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกลุ่มที่เริ่มเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นและยังไม่รู้ถึงความฝันของตนเอง เมื่อได้มาลองฝึกร่วมกับเพื่อนๆ ก็ทำให้หลายคนค้นพบความต้องการของตนเองที่ชัดขึ้น และบางรายที่เข้าร่วมฝึกกับแสนสิริ อะคาเดมี่ ก็สามารถพลิกชีวิตจากพฤติกรรมวัยรุ่น สู่เยาวชนที่รักในการกีฬาได้ และสำหรับในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 16 แสนสิริ อะคาเดมี่ ยังคงเดินหน้าเพื่อส่งเสริมพัฒนาเด็กและเยาวชนอย่างยั่งยืนในด้านกีฬา การศึกษา และสุขภาพอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเพิ่มการดูแลเยาวชนแบบ 360 องศา เน้นสุขภาพกาย-สุขภาพใจ ผลักดันสู่สถาบันการศึกษาที่มีคุณภาพ และเพิ่มโอกาสทางทุนการศึกษา และที่สำคัญแสนสิริยินดีที่จะขอเชิญพันธมิตรในด้านต่างๆ ที่มีความสนใจในเรื่อง Well-Being ของเยาวชนเพื่อมาร่วมผลักดันโครงการให้ประสบความสำเร็จ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาศักยภาพเยาวชนไทยอย่างจริงจังด้วยกัน” นายสมัชชา กล่าว

นายชนาธิป สรงกระสินธ์ (เจ)
นักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย หนึ่งในความสำเร็จของแสนสิริ อะคาเดมี่

นายชนาธิป สรงกระสินธ์ (เจ) นักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย กล่าวในฐานะสมาชิกที่เคยเข้าร่วมฝึกกับแสนสิริ อะคาเดมี่ ว่า จุดเริ่มต้นของการเล่นฟุตบอลของตนนั้นเริ่มการฝึกกับคุณพ่อที่บ้าน ต่อมาได้มีโอกาสเข้าร่วมฝึกกับแสนสิริ อะคาเดมี่ สิ่งที่ได้มากกว่าการฝึกด้วยตนเองคือการได้มีโอกาสฝึกและเล่นเป็นทีม ซี่งเรื่องนี้ถือว่าสำคัญมากเพราะกีฬาฟุตบอลคือกีฬาที่ต้องเล่นเป็นทีม การได้ทักษะที่ถูกต้องและเรียนรู้การเล่นกีฬาร่วมกับคนหมู่มากถือเป็นการปูพื้นฐานที่ดีและช่วยให้ต่อยอดไปสู่การพัฒนาขั้นต่อไป อีกทั้งแสนสิริ อะคาเดมี่ เป็นสโมสรที่เน้นการฝึกทักษะพื้นฐาน จึงมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะน้องๆ ที่ไม่มีพื้นฐานก็สามารถมาเข้าร่วมเป็นสมาชิกได้เพียงแค่มีความกล้าที่จะเข้าร่วมเท่านั้น ซึ่งการเล่นกีฬาไม่ได้เพียงแค่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และมีน้ำใจนักกีฬา แต่ยังสามารถยึดเป็นอาชีพ ที่แตกออกไปได้หลายสาย ทั้งนักกีฬาอาชีพ และผู้ฝึกสอน เป็นต้น

นายไกรวิชญ์ หนูขำ (แบงค์)
เติบโตมาพร้อมกับแสนสิริ อะคาเดมี่

นายไกรวิชญ์ หนูขำ (แบงค์)  เล่าให้ฟังว่า ได้เริ่มเรียนที่แสนสิริ อะคาเดมี่ ตั้งแต่เด็ก อายุราว 5 ขวบ เนื่องจากมีพี่ชายที่มาเรียนก่อนหน้านี้แล้วถึง 2 คน จนกระทั่งอายุ 11 ปี ได้มีโอกาสเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอล ACT Youth Invitation ที่ทางแสนสิริจัดร่วมกับโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี เป็นรายการที่เปิดโอกาสให้เด็กจากอะคาเดมี่และเด็กที่ไม่ใช่นักกีฬาช้างเผือกได้มีเวทีในการแสดงฝีเท้าแข่งขันที่สนามโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี และตนเองทำผลงานได้ดี โดดเด่นเข้าตาทีมงานผู้ฝึกสอนของโรงเรียน จึงได้ถูกทาบทามให้ไปคัดเลือกเป็นนักกีฬาช้างเผือกของโรงเรียน และได้ติดเป็น 15 คนสุดท้ายตลอดจนได้รับทุนการศึกษาของโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี การฝึกที่แสนสิริ อะคาเดมี่ สร้างความประทับและความท้าทายให้กับตนเองเป็นอย่างมาก ได้เพิ่มทักษะและได้รับการฝึกสอนจากโค้ชทุกท่านอย่างเต็มที่ มีความรักและผูกพันกับที่นี่เป็นอย่างยิ่ง เรียกได้ว่าเป็นสถานที่จุดประกายในด้านฟุตบอลตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบัน

นายสมิตธิ์ โกมลวาสี (บูม)
นักกีฬาฟุตบอลของมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม หนึ่งในเยาวชนที่ผ่านการฝึกซ้อมจากแสนสิริ อะคาเดมี่ 

นายสมิตธิ์ โกมลวาสี (บูม) หนึ่งในเยาวชนที่ผ่านการฝึกซ้อมจากแสนสิริ อะคาเดมี่ เปิดเผยว่า ได้มีโอกาสเข้าร่วมฝึกทักษะการเล่นฟุตบอลกับแสนสิริ อะคาเดมี่ ในช่วงที่ศึกษาอยู่ระดับชั้นมัธยมการศึกษาปีที่ 4 จากการแนะนำของพี่ชายซึ่งเป็นสมาชิกของแสนสิริ อะคาเดมี่ รุ่นที่ 1 จึงได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกพร้อมกับเพื่อนๆ และทำการฝึกซ้อมตั้งแต่ตอนนั้นต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งการฝึกซ้อมกับแสนสิริ อะคาเดมี ไม่เพียงแต่เพิ่มทักษะด้านการเล่นฟุตบอล แต่ ได้ทั้งเพื่อน ประสบการณ์ มีผู้ฝึกสอนที่เข้าใจและคอยแนะนำและดึงศักยภาพของผู้ฝึกให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างเต็มศักยภาพ  เรียกได้ว่าเติบโตมาพร้อมกับแสนสิริ อะคาเดมี่ก็ว่าได้ แล้วยังได้ฝึกทักษะการเป็นผู้ใหญ่ด้วยการรับหน้าที่ดูแลน้องๆ ตอนฝึกซ้อมในฐานะพี่ใหญ่จนถึงอายุ 19 ปี อีกทั้งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วงผลักดันให้สามารถเดินตามฝันได้ไกลมากขึ้น จนสามารถก้าวขึ้นมาสู่การเป็นนักกีฬาฟุตบอลของมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษมในปัจจุบัน