ADS


Breaking News

อว.เผย 17 ม.ค.ไทยฉีดวัคซีนโควิดแล้ว 109.54 ล้านโดส คนกรุงเทพฯฉีดเข็มแรกแล้ว 120.9% และเข็มที่สอง 112%

"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 17 มกราคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 109,542,145 โดส และทั่วโลกแล้ว 9,703 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 847.1 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (120.8%)
    ➡️(17 มกราคม 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 9,703 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 40.7 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 527 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 209 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
     ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 847.1 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.7% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 296.62 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 17 มกราคม 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 109,542,145 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 64.66% 
     🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 9,703 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ 
     1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 17 มกราคม 2565  
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 109,542,145 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 51,809,191 โดส (78.3% ของประชากร)
-เข็มสอง 47,579,865 โดส (71.9% ของประชากร)
-เข็มสาม 10,153,089 โดส (15.3% ของประชากร) 
     2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-16 ม.ค. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 109,542,145 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 172,437 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 438,146 โดส/วัน 
     3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 22,842,557 โดส
- เข็มที่ 2 3,577,899 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส 

วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 13,566,672 โดส
- เข็มที่ 2 28,048,956 โดส
- เข็มที่ 3 3,335,045 โดส 

วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 7,479,760 โดส
- เข็มที่ 2 7,154,243 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส 

วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 7,290,384  โดส
- เข็มที่ 2 8,143,832 โดส
- เข็มที่ 3 5,260,180 โดส 

วัคซีน Moderna
- เข็มที่ 1 629,818 โดส
- เข็มที่ 2 654,935 โดส
- เข็มที่ 3 1,557,864 โดส
    4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย 
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 121.7% เข็มที่2 119.2% เข็มที่3 101.8%
- อสม เข็มที่1 79% เข็มที่2 76.6% เข็มที่3 30.2%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่ 78.2% เข็มที่2 73.5% เข็มที่3 16.1%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 69% เข็มที่3 62.6% เข็มที่3 13.8%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76.1% เข็มที่2 69.9% เข็มที่3 13%
- นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 75.2% เข็มที่2 72.3% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 71.9% เข็มที่2 66.1% เข็มที่3 14.1% 
     5. 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรสูงที่สุด
1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 120.9% เข็มที่2 112% 
2. ชลบุรี เข็มที่1 94.2% เข็มที่2 89.3% 
3. สมุทรสาคร เข็มที่1 95.4% เข็มที่2 86.7%
4. เชียงใหม่ เข็มที่1 90.4% เข็มที่2 86.6%
5. ภูเก็ต เข็มที่1 87.9% เข็มที่2 85.4%
6. ปทุมธานี เข็มที่1 84.5% เข็มที่2 79.5%
7. ระนอง เข็มที่1 83.4% เข็มที่2 79% 
8. ระยอง เข็มที่1 78.8% เข็มที่2 75%
9. ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 88.1% เข็มที่2 74.9%
10. สมุทรปราการ เข็มที่1 84% เข็มที่2 73.2%

10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรต่ำที่สุด
1. ปัตตานี เข็มที่1 53.8% เข็มที่2 43.1%
2. นราธิวาส เข็มที่1 53.7% เข็มที่2 43.2%
3. หนองบัวลำภู  เข็มที่1 52.2% เข็มที่2 44.1%
4. บึงกาฬ เข็มที่1 54.7% เข็มที่2 45.2%
5. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 65.7% เข็มที่2 46.9%
6. สกลนคร เข็มที่1 55.7% เข็มที่2 46.9%
7. สุรินทร์ เข็มที่1 52.4% เข็มที่2 47.5%
8. ศรีสะเกษ เข็มที่1 55% เข็มที่2 48.6%
9. กาฬสินธุ์ เข็มที่1 54.9% เข็มที่2 48.6%
10. มหาสารคาม เข็มที่1 55.4% เข็มที่2 49.2%
     6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 847,127,860 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 296,622,793 โดส (64%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 168,003,163 โดส (80.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm   
3. ฟิลิปปินส์ 118,944,887 โดส (53.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca  
4. ไทย จำนวน 109,542,145 โดส (78.3%* ของประชากร)  ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 60,884,363  โดส (79.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac  
6. พม่า จำนวน 38,919,898 โดส (39%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 32,693,023 โดส (84.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac 
8. สิงคโปร์ จำนวน 12,132,375 โดส (89%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac 
9.  ลาว จำนวน 8,462,260 โดส (63.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca 
10. บรูไน จำนวน 922,950 โดส (94.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm 
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
     7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.76%
2. ยุโรป 10.39%
3. อเมริกาเหนือ 8.81%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.98%
5. แอฟริกา 3.46%
6. โอเชียเนีย 0.59% 
     8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,933.49 ล้านโดส (207.4% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,601.73 ล้านโดส (116.2%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 526.9 ล้านโดส (157.2%)
4. บราซิล จำนวน 340.28 ล้านโดส (160.7%) 
5. อินโดนีเซีย  จำนวน 296.62 ล้านโดส (107.5%) 
     9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (285.7%) (ฉีดวัคซีนของ  Abdala และ Soberana02)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (248.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya) 
3. ชิลี (234.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
4. เดนมาร์ก (232.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
5. บาห์เรน (224.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)  
6. เกาหลีใต้  (215%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ  Moderna) 
7. มัลดีฟส์ (209.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm) 
8. บรูไน (209.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)
9. จีน (207.4%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui) 
10. สิงคโปร์ (206.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac) 

     แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
     ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)