ดองกิ เอ็มบีเคเซ็นเตอร์ สาขาใหม่ล่าสุด ชวนมาเช็คอิน ช้อปสไตล์ "เจแปนทาวน์" กลางกรุง เปิดแล้ววันนี้
นายโยซูเกะ ชิมานุกิ ประธานกรรมการ บริษัท ดองกิ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สำหรับดอง ดอง ดองกิ สาขาเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ นับเป็นสาขาที่ 4 โดยเป็นความร่วมมือกันระหว่าง บริษัท ดองกิ (ประเทศไทย) จำกัด กับพันธมิตร บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน), บริษัท ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จํากัด และบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์ โฮลดิ้ง จํากัด (มหาชน) ภายในร้านมีพื้นที่ขายกว่า 2,146.02 ตารางเมตร ถือเป็นสาขาที่มีขนาดพื้นที่ขายมากที่สุดในประเทศไทย และเป็นการกลับมาเปิดสาขาใหม่ในย่านใจกลางกรุงเทพฯ อีกครั้ง ซึ่งศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ อยู่ในย่านการค้าที่พลุกพล่านที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ เป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมของชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ การเดินทางสะดวก และมีปริมาณผู้ใช้บริการในพื้นที่ค่อนข้างสูง โดยสาขาเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ มีจุดเด่นที่น่าสนใจ คือ การเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมและเทรนด์ญี่ปุ่นที่เข้าถึงง่าย ชูแนวคิด "รสชาติ ความปลอดภัย และสุขภาพ" ในสไตล์ญี่ปุ่นต้นตำรับ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างหลากหลาย โดยคาดหวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เช่นเดียวกับสาขาทองหล่อ สาขาเดอะมาร์เก็ต และสาขาซีคอน สแควร์ ศรีนครินทร์ ที่ได้สร้างความประทับใจให้กับทุกคนมาตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการ”
สำหรับดอง ดอง ดองกิ สาขาที่ 4 เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ภายใต้คอนเซปต์ Japan Brand Specialty Store ที่นำเสนออาหารและสินค้าจากญี่ปุ่นที่มีคุณภาพ มีการตกแต่งร้านในสไตล์ต้นตำรับ พร้อมจัดวาง POP Ads ที่วาดด้วยมือทั่วทั้งสาขาเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ เพื่อให้ลูกค้าสนุกไปกับสินค้าต่างๆ ภายในร้านอย่างใกล้ชิด ตลอดจนโซนไฮไลท์ต่างๆ เช่น แผนกมีทเดลิก้า ที่นำเสนออาหารพร้อมทานประเภทเนื้อสัตว์ที่คัดสรรสินค้าอย่างพิถีพิถัน อาทิ เมนู “เมนจิ คัทสึ” ซูชิเนื้อวากิว เอ 5 ของจังหวัดซากะ เครื่องเคียงจากเนื้อวัวญี่ปุ่น อาหารเบนโตะญี่ปุ่น และครั้งแรกในประเทศไทยกับ คามาเมชิ ข้าวอบหม้อไฟทะเลจากปูและหอยเชลล์ อีกหนึ่งเมนูยอดนิยมของดอง ดอง ดองกิในรสชาติญี่ปุ่นแท้ๆ รวมถึงร้านแผงลอยสไตล์ญี่ปุ่นที่คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับเมนูอาหารญี่ปุ่นรสชาติต้นตำรับ มุมขายขนมหวานที่มีไฮไลท์เป็นสตรอเบอร์รี่ ไดฟุกุ เอแคลร์และชูครีมที่ใช้ครีมสดจากฮอกไกโด ตลอดจนสารพัดเมนูของหวานเฉพาะช่วงเทศกาลของญี่ปุ่น เช่น ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟจากนมฮอกไกโด ริงโกะอาเมะ-แคนดี้แอปเปิ้ลเชื่อมน้ำตาล และโอบันยากิที่มีรูปร่างเหมือน "ดองเปง" มาสคอตของดองกิ นอกจากนี้ยังมีโซน Cosmetic DONKI ที่รวบรวมแบรนด์ผลิตภัณฑ์สกินแคร์แบรนด์ดังจากญี่ปุ่นเอาไว้ในที่เดียว และสินค้าปลอดภาษีสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตลอดจนมีการจัดตั้งโซนของขวัญและของที่ระลึกขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อเติมเต็มความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค และสอดคล้องกับวัฒนธรรมการมอบของขวัญของประเทศไทย ด้วยของขวัญที่เป็นที่นิยม เช่น ชุดของขวัญสไตล์ญี่ปุ่น ผลไม้ญี่ปุ่นนานาชนิด และอาหารสำหรับเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง
นอกจากนี้ ดองกิ ประเทศไทย ยังมีการวางกลยุทธ์ทางการตลาดและแผนการดำเนินธุรกิจ โดยมุ่งเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าในย่านต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ทั้งฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก รวมถึงเร่งสร้างชื่อเสียงของดองกิให้เป็นที่นิยมมากขึ้นในกลุ่มผู้บริโภคไปพร้อมๆ กับการขยายสาขาเพิ่มเติมเป็น 10 สาขา ภายใน 3 ปีข้างหน้า เพื่อถ่ายทอดความงดงามของวิถีชีวิต อาหาร และวัฒนธรรมในสไตล์ญี่ปุ่นให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ ทั้งนี้เครือ PPIH จะยังคงสร้างสรรค์การกระจายสินค้าในรูปแบบใหม่ให้สามารถแข่งขันในระดับสากล ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาร้านค้าในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ปศุสัตว์ และการประมงของญี่ปุ่น รวมถึงมีส่วนร่วมในการสร้างความตระหนักรู้และขยายปริมาณการบริโภคผลิตภัณฑ์แบรนด์ญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาสาขาในประเทศไทยให้มั่นคง