อว.เผย 6 ต.ค.ไทยฉีดวัคซีนโควิดแล้ว 56.65 ล้านโดส ทั่วโลกแล้ว 6,393 ล้านโดส ส่วนอาเซียนฉีดแล้วรวมกันกว่า 398.73 ล้านโดส
"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 6 ตุลาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 56,656,247 โดส และทั่วโลกแล้ว 6,393 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 398.73 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 101%”
➡️(6 ตุลาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 6,393 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 29.8 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 398 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 186 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 398.73 ล้านโดส โดยกัมพูชาฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (79.6% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 150.2 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 6ตุลาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 56,656,247 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 60.41%
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 6,393 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 6 ตุลาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 56,656,247 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 33,505,887 โดส (50.6% ของประชากร)
-เข็มสอง 21,595,916 โดส (32.6% ของประชากร)
-เข็มสาม 1,554,444 โดส (2.3% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 6 ต.ต. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 56,656,247 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 734,804 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 826,962 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 16,903,130 โดส
- เข็มที่ 2 3,511,666 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 10,423,072 โดส
- เข็มที่ 2 14,096,703 โดส
- เข็มที่ 3 1,067,436 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 5,618,187 โดส
- เข็มที่ 2 3,461,449 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 498,498 โดส
- เข็มที่ 2 526,098 โดส
- เข็มที่ 3 487,008 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 123.8% เข็มที่2 118.8% เข็มที่3 90.2%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 62.4% เข็มที่2 53.8% เข็มที่3 7.7%
- อสม เข็มที่1 72.4% เข็มที่2 61.4% เข็มที่3 6.8%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 61.9% เข็มที่1 40.6% เข็มที่3 1.4%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 43.8% เข็มที่2 26.1% เข็มที่3 1.3%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 59.1% เข็มที่2 40.7% เข็มที่3 0.3%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 13.8% เข็มที่2 8.8% เข็มที่3 0.1%
- นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 0.6% เข็มที่2 0% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 46.5% เข็มที่2 30% เข็มที่3 2.2%
5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 80.6% เข็มที่2 48.1% เข็มที่3 3.8% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 101% เข็มที่2 54.8% เข็มที่3 4.8%
- ปทุมธานี เข็มที่1 64.3% เข็มที่2 45.4% เข็มที่3 1.5%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 67.3% เข็มที่2 42.7% เข็มที่3 1.9%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 64% เข็มที่2 42.8% เข็มที่3 4.5%
- นนทบุรี เข็มที่1 51.5% เข็มที่2 41.2% เข็มที่3 4%
- นครปฐม เข็มที่1 42.1% เข็มที่2 29.8% เข็มที่3 1.9%
จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 37.7% เข็มที่2 25.3% เข็มที่3 1.7%
- ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 67.9% เข็มที่2 37.7% เข็มที่3 1.4%
- ชลบุรี เข็มที่1 68.1% เข็มที่2 44.3% เข็มที่3 4%
- พระนครศรีอยุธยา เข็มที่1 53.8% เข็มที่2 39.7% เข็มที่3 1.2%
- เพชรบุรี เข็มที่1 50.4% เข็มที่2 37.1% เข็มที่3 3%
- ยะลา เข็มที่1 46.9% เข็มที่2 29.4% เข็มที่3 1.1%
- สงขลา เข็มที่1 43.5% เข็มที่2 29.6% เข็มที่3 1.5%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 398,734,766 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 150,223,752 (34.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. ไทย จำนวน 56,656,247 โดส (50.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 47,180,868 โดส (22.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. เวียดนาม จำนวน 46,969,510 โดส (36.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 44,797,925 (73.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. กัมพูชา จำนวน 25,499,794 โดส (79.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
7. พม่า จำนวน 12,263,702 โดส (15.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
8. สิงคโปร์ จำนวน 9,486,020 โดส (78%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 5,144,591 โดส (41%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 512,357 โดส (70.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 68.81%
2. ยุโรป 11.13%
3. อเมริกาเหนือ 9.60%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.11%
5. แอฟริกา 2.79%
6. โอเชียเนีย 0.56%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,214.56ล้านโดส (79.1% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 921.57 ล้านโดส (33.7%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 397.72 ล้านโดส (62.1%)
4. บราซิล จำนวน 242.74 ล้านโดส (58.8%)
5. ญี่ปุ่น จำนวน 168.76 ล้านโดส (66.9%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (98.6% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. คิวบา (94.9%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala, Soberana02)
3. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (94.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
4. อุรุกวัย (89.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
5. บาห์เรน (88.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
6. อิสราเอล (85.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
7. ชิลี (85.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
8. กาตาร์ (84.8%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
9. จีน (79.1%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac และ CanSino)
10. สิงคโปร์ (78%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)