ADS


Breaking News

เฮ! อว.เผยวานนี้ไทยทำสถิติฉีดวัคซีนโควิดมากที่สุด 915,738 โดส/วัน ยอดสะสมทะลุ 30.42 ล้านโดส

"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 28 สิงหาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 30,420,507 โดส และทั่วโลกแล้ว 5,170 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 246.93 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 89.1%”
     ➡️(28 สิงหาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 5,170 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 39.6 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 367 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 173 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
     ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 246.93 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (76.6% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 95.92 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 28 สิงหาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 30,420,507 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 56.43%
     🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 5,170 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
     1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 28 สิงหาคม 2564 
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 30,420,507 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 22,617,701 โดส (34.2% ของประชากร)
-เข็มสอง 7,221,368 โดส (10.9% ของประชากร)
-เข็มสาม 581,438 โดส (0.9% ของประชากร)
     2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 28 ส.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 30,420,507 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 915,738 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 570,344 โดส/วัน 
     3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 10,325,587 โดส
- เข็มที่ 2 3,464,472 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส

วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 9,695,732 โดส
- เข็มที่ 2 2,765,122 โดส
- เข็มที่ 3 207,808 โดส

วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 2,325,553  โดส
- เข็มที่ 2 950,908 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส

วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 270,829  โดส
- เข็มที่ 2 40,866 โดส
- เข็มที่ 3 373,630 โดส
     4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย 
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 123.3% เข็มที่2 107.7% เข็มที่3 81.7%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 55.4% เข็มที่2 34.7% เข็มที่3 0%
- อสม เข็มที่1 63.8% เข็มที่2 31.7% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 40.3% เข็มที่1 8.9% เข็มที่3 0%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 44.6% เข็มที่2 14.7% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 43.1% เข็มที่2 6.5% เข็มที่3 0%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 6.9% เข็มที่2 0.7% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 45.2% เข็มที่2 14.4% เข็มที่3 1.2%
     5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 66.8% เข็มที่2 17% เข็มที่3 1.2% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 89.1% เข็มที่2 21.4% เข็มที่3 1.7%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 42.2% เข็มที่2 17.9% เข็มที่3 0.6%
- นนทบุรี เข็มที่1 42.3% เข็มที่2 15.2% เข็มที่3 0.7%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 47.8% เข็มที่2 10.7% เข็มที่3 0.6%
- ปทุมธานี เข็มที่1 47.4% เข็มที่2 10.8% เข็มที่3 0.5%
- นครปฐม เข็มที่1 29.1% เข็มที่2 7.3% เข็มที่3 0.7%

จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 22.2% เข็มที่2 8.2% เข็มที่3 0.7%
- ชลบุรี เข็มที่1 39% เข็มที่2 13.7% เข็มที่3 1.0%
- พระนครศรีอยุธยา เข็มที่1 30.3% เข็มที่2 7.4% เข็มที่3 0.4%
- สงขลา เข็มที่1 31% เข็มที่2 9.7% เข็มที่3 1.2%
- ยะลา เข็มที่1 32.9% เข็มที่2 10.3% เข็มที่3 0.7%
- ปัตตานี เข็มที่1 25% เข็มที่2 7.7% เข็มที่3 0.5%
- ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 50.5% เข็มที่2 10.4% เข็มที่3 0.6%
     6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 246,930,669 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 95,925,079 โดส (22.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. มาเลเซีย จำนวน 33,388,102 โดส (58.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 31,433,450 โดส (16.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca   
4. ไทย จำนวน 30,420,507 โดส (34.2%* ของประชากร)  ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm 
5. กัมพูชา จำนวน 19,160,543 โดส (61%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac 
6. เวียดนาม จำนวน 18,843,004 โดส (17%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
7. สิงคโปร์ จำนวน 8,786,717 โดส (76.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac 
8. พม่า จำนวน 4,542,363 โดส (5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
9.  ลาว จำนวน 4,135,314 โดส (32.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca 
10. บรูไน จำนวน 295,590 โดส (47.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm 
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
     7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 67.27%
2. อเมริกาเหนือ 10.65%
3. ยุโรป 12.79%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.97%
5. แอฟริกา 1.88%
6. โอเชียเนีย 0.44%
     8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,003.91 ล้านโดส (71.6% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 612.21 ล้านโดส (22.4%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 366.84 ล้านโดส (57.3%)
4. บราซิล จำนวน 200.15 ล้านโดส (48.6%) 
5. ญี่ปุ่น  จำนวน 124.53 ล้านโดส (49.3%)
     9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (91% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (83.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. บาห์เรน (83.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)   
4. กาตาร์ (78.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
5. อุรุกวัย (77.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
6. สิงคโปร์ (76.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
7. ชิลี (74.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)   
8. อิสราเอล (73.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)    
9. เดนมาร์ก (73.4%) (ฉีดวัคซีนของ  Moderna, Pfizer/BioNTech และ J&J)
10. จีน (71.6%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac และ CanSino)

     แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
     ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)