วช. และ กระทรวงคมนาคม ชี้หลังคลายล็อกมาตราการผ่อนปรนระยะที่ 3 ประชาชนเดินทางมากขึ้น
(13 มิถุนายน 2563) ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ การวิจัยและพัฒนา ของ ศบค. เปิดเผยผลการศึกษาของศูนย์เทคโนโลยีและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ว่า จากการที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระยะนี้ได้คลี่คลายลงอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ และรัฐบาลได้มีมาตรการผ่อนคลายให้กิจการต่างๆ ให้สามารถกลับมาดำเนินการได้แล้วรวม 3 ระยะ พบว่าปริมาณการเดินทางของประชาชนในทุกภูมิภาคเพิ่มสูงขึ้นจากปัญหาจราจรที่เห็นได้ชัด
โดยการเดินทางในทุกรูปแบบที่ลดลงต่ำสุดในช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังจากนั้นได้ค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้นโดยการเดินทางบางประเภทกลับมาเกือบเหมือนเป็นปกติ
ในขณะนี้การเดินทางโดยใข้รถยนต์ส่วนบุคคลกลับมาจนเกือบเท่าภาวะปกติก่อนการระบาดของโรคแล้ว ล่าสุดปริมาณการใช้รถยนต์อยู่ในระดับ 86% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี
ส่วนการเดินทางโดยระบบขนส่งมวลชนสาธารณะก็เริ่มกลับมาให้บริการมากขึ้น โดยปริมาณการใช้ระบบขนส่งสาธารณะทางถนนและทางราง อยู่ในระดับประมาณ 50% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี
ส่วนการเดินทางทางน้ำอยู่ที่ระดับ 24% ซึ่งคาดว่าเมื่อมีมาตรการผ่อนคลายในระยะที่ 4 ที่จะผ่อนคลายการเดินทางระหว่างจังหวัดและเปิดกิจการเพิ่มขึ้นอีก รวมทั้งต่อไปโรงเรียนและสถาบันการศึกษา จะเปิดการเรียนการสอน ทำให้การเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะจะเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน
ทั้งนี้การเดินทางทางอากาศโดยทางเครื่องบิน ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดและจะค่อยๆฟื้นตัว โดยในขณะนี้ยังมีให้บริการอยู่ในระดับประมาณ 16% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี
📚ประมวลข้อมูลโดย ศูนย์เทคโนโลยีและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โดยการเดินทางในทุกรูปแบบที่ลดลงต่ำสุดในช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังจากนั้นได้ค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้นโดยการเดินทางบางประเภทกลับมาเกือบเหมือนเป็นปกติ
ในขณะนี้การเดินทางโดยใข้รถยนต์ส่วนบุคคลกลับมาจนเกือบเท่าภาวะปกติก่อนการระบาดของโรคแล้ว ล่าสุดปริมาณการใช้รถยนต์อยู่ในระดับ 86% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี
ส่วนการเดินทางโดยระบบขนส่งมวลชนสาธารณะก็เริ่มกลับมาให้บริการมากขึ้น โดยปริมาณการใช้ระบบขนส่งสาธารณะทางถนนและทางราง อยู่ในระดับประมาณ 50% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี
ส่วนการเดินทางทางน้ำอยู่ที่ระดับ 24% ซึ่งคาดว่าเมื่อมีมาตรการผ่อนคลายในระยะที่ 4 ที่จะผ่อนคลายการเดินทางระหว่างจังหวัดและเปิดกิจการเพิ่มขึ้นอีก รวมทั้งต่อไปโรงเรียนและสถาบันการศึกษา จะเปิดการเรียนการสอน ทำให้การเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะจะเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน
ทั้งนี้การเดินทางทางอากาศโดยทางเครื่องบิน ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดและจะค่อยๆฟื้นตัว โดยในขณะนี้ยังมีให้บริการอยู่ในระดับประมาณ 16% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี
📚ประมวลข้อมูลโดย ศูนย์เทคโนโลยีและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม