กลุ่มเซ็นทรัล พร้อม “รวมพลังภาคเอกชนสนับสนุนมาตรการหยุดยั้ง COVID-19”
กลุ่มเซ็นทรัล แถลงข่าวร่วมกับหอการค้าไทย และบริษัทเอกชนชั้นนำของไทย หัวข้อ “รวมพลังภาคเอกชนสนับสนุนมาตรการหยุดยั้ง COVID-19”
วันนี้ (10 เม.ย. 2563) กลุ่มเซ็นทรัล เข้าร่วมแถลงข่าว ซึ่งจัดขึ้นโดยหอการค้าไทย นำโดย นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยบริษัทเอกชนชั้นนำต่างๆ เพื่อขอบคุณ ทีมกองหน้าคือ แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ที่ทำงานหนักเพื่อพวกเราทุกคน และนำเสนอรวบรวมมาตรการต่างๆ ของเอกชนในการสนับสนุนหยุดยั้ง COVID-19
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ในฐานะตัวแทนกลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า บริษัทในเครือเซ็นทรัล ได้ดำเนินมาตรการในเชิงรุกในการป้องกันและดูแลความสะอาด พร้อมจับมือร่วมกับพันธมิตรของเราที่มีอยู่ทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกคนไทยในการดำรงชีวิต และเพื่อให้ประเทศไทยเดินผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้ด้วยกันอย่างเข้มแข็ง โดยได้ดำเนินมาตรการใน 5 ด้าน
1. ร่วมป้องกันการแพร่ระบาดโดยคำนึงถึงสุขอนามัยของลูกค้าเป็นหลัก เป็นผู้นำและต้นแบบการยกระดับมาตรฐานการป้องกันการให้บริการในศูนย์การค้า อาทิ การดำเนินการ social distancing ที่เป็นที่ยอมรับระดับนานาชาติ จากสำนักข่าวที่สื่อออกไปทั่วโลก พร้อมดำเนินการตามนโยบายและมาตรการที่ประกาศจากรัฐบาล ทันที อย่างจริงจัง โดยกลุ่มเซ็นทรัล สั่งปิดชั่วคราวสถานที่ต่างๆ ในทันที เพื่อลดความเสี่ยง และการแพร่กระจายของโรคระบาด COVID-19 อีกทั้ง ยังดำเนินมาตรการเชิงรุกมาโดยตลอดตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ด้วยการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อและเช็ดทำความสะอาดเป็นประจำทั่วทั้งศูนย์การค้า
2. ดูแลพนักงานของบริษัทในเครือกว่า 80,000 คน โดยทำประกันภัยโควิด-19 ให้กับพนักงานทุกคน ให้พนักงานสามารถ ทำงาน Work from Home ลดการเดินทาง ส่วนพนักงานที่ให้บริการลูกค้าเฉพาะโซนซุปเปอร์มาร์เก็ต ได้เพิ่มมาตรการ เข้มงวด ด้านการป้องกันในเชิงรุกมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่การแพร่ระบาดยังเป็นวงแคบ ด้วยคัดกรองพนักงาน ตรวจวัดไข้ก่อนเข้าพื้นที่ ใช้อุปกรณ์ป้องกัน สวมหน้ากาก และถุงมือ ลดความเสี่ยงจากการหยิบจับสินค้าอุปโภคบริโภค
3. ดูแลลูกค้า ด้วยการรักษาระยะห่าง ตั้งจุดคัดกรอง ตรวจวัดไข้ก่อนเข้าพื้นที่ ตั้งจุดบริการเจลฆ่าเชื้อ ฉีดพ่นฆ่าเชื้อในทุกจุดของพื้นที่ นอกจากนี้ TOPS ได้นำนวัตกรรมหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV-C เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
พร้อมจัดให้มีบริการที่จำเป็นเพื่อให้การดำเนินชีวิตของลูกค้าทุกคนเป็นไปอย่างปกติได้ ด้วยการเปิดให้บริการชั้นซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าที่จำเป็น อาทิ ธนาคาร ร้านขายยา ร้านสะดวกซื้อ รวมถึงการจัดสรรพื้นที่และจัดระเบียบให้มีบริการร้านอาหารแบบ Delivery และ take away รวมถึงการจัดทำระบบ Call Center, Pick Up Counter และ Drive Thru เพื่อเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยสำหรับลูกค้ายิ่งขึ้น โดยคำนึงถึง Social Distancing เพื่อรอรับส่งอาหาร จัดตั้งโต๊ะ รวมถึงขยายบริการลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ นอกจากนี้ Tops ยังจัดช่อง FAST LANE จ่ายเงินพิเศษให้กับ ผู้สูงอายุ คนพิการ และ สตรีมีครรภ์
4. ดูแลคู่ค้า (ร้านค้า/supplier) บริษัทฯ ได้ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับร้านค้าในการดำเนินการต่างๆ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและช่วยพยุงเศรษฐกิจของประเทศ โดยบริษัทฯ ได้ช่วยแบ่งเบาภาระของร้านค้าด้วยการยกเว้นค่าเช่าให้ร้านค้าที่ไม่สามารถดำเนินการได้ในช่วงที่ศูนย์การค้าปิดให้บริการชั่วคราวตามประกาศภาครัฐ และลดค่าเช่าให้ร้านค้าที่ยังคงเปิดดำเนินการได้ นอกจากนี้ ยังสนับสนุนร้านค้าเพื่อทำการขายในรูปแบบ Pick Up & Delivery ในระหว่างที่ศูนย์การค้าปิดดำเนินการ
5. ช่วยเหลือชุมชน (community) อาทิ
และเมื่อต้นเดือนนี้ กลุ่มเซ็นทรัล ได้มอบเงินสนับสนุนแก่แพทยสมาคม และ สนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวม 40 ล้านบาท เพื่อจัดสรรให้กับโรงพยาบาล ทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัดในทุกพื้นที่ที่กลุ่มเซ็นทรัลดำเนินธุรกิจอยู่
ทั้งหมดนี้เป็นหน้าที่ของทุกภาคส่วนทั้งภาคธุรกิจ ภาคประชาชน ภาครัฐ ที่ต้องร่วมใจกันเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศ เพื่อก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปร่วมกัน