ชไนเดอร์ อิเล็คทริค แสดงเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่เป็นจริงแล้ววันนี้ ในงาน IEEE PES GTD ASIA 2019
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในการจัดการพลังงานและระบบออโตเมชั่น ร่วมแสดงเทคโนโลยีสุดล้ำในงาน IEEE PES GTD ASIA 2019 ชูคอนเซ็ปต์สมาร์ทกริด สมาร์ทซิตี้ โชว์ความล้ำหน้าด้วย EcoStruxure™ ที่เป็นสถาปัตยกรรมและแพลตฟอร์ม IoT ที่ใช้นวัตกรรมการเชื่อมต่อและแสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานให้อุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศไทย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ทั้งผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นล้ำยุค อาทิ โซลูชั่นกริดอัจฉริยะช่วยให้ระบบไฟฟ้ามีความต่อเนื่อง, Smart Panel โซลูชั่นที่จะเปลี่ยนตู้ไฟฟ้าธรรมดาให้เชื่อมต่อในรูปแบบ IoT ระบบปฏิบัติการคอมมานด์ คอนโทรล สำหรับเมืองอัจฉริยะ ช่วยในการมอนิเตอร์สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในเมือง รวมถึงระดับของมลภาวะได้ และโซลูชั่นอื่นๆ อีกมากมาย
งาน IEEE PES GTD ASIA 2019 เป็นงานระดับโลกที่องค์กรธุรกิจหลายภาคส่วนให้ความสนใจ มีเนื้อหาครอบคลุมทุกด้านเกี่ยวกับระบบผลิต ระบบส่ง ระบบจำหน่าย พลังงานทดแทนและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง โดยที่ผ่านมาชไนเดอร์ อิเล็คทริค มีบทบาทในเวทีโลกในการคิดค้นและเผยแพร่เทคโนโลยีด้านการจัดการพลังงานและออโตเมชั่น ในความเชี่ยวชาญที่ครอบคลุม พลังงาน ไอที อาคาร อุตสาหกรรม เครื่องจักร โครงข่ายไฟฟ้า เพื่อช่วยให้ภาคธุรกิจได้ใช้นวัตกรรมต่างๆ ในการ ‘เปลี่ยนแนวทางแบบเดิม ไปสู่ดิจิทัลทรานฟอร์เมชั่นอย่างสมบูรณ์และยั่งยืน’ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลผลิต ยกระดับการแข่งขันไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล พร้อมกับการสร้างความยั่งยืนไปพร้อมกัน
นายมงคล ตั้งศิริวิช รองประธานฝ่ายธุรกิจพลังงาน ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย เผยว่า ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้เลือกโซลูชั่นที่มีความโดดเด่นและเป็นประโยชน์พร้อมช่วยขับเคลื่อนธุรกิจยุคดิจิทัลได้จริง มีทั้งในส่วนของเทคโนโลยีและบริการ เพื่อให้องค์กรภาครัฐและเอกชนที่สนใจที่จะเปลี่ยนไปสู่ยุค 4.0 ได้อย่างเต็มรูปแบบ ในคอนเซ็ปต์สมาร์ทกริด สมาร์ทซิตี้ ซึ่งมีทั้งโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์มากมาย อาทิ
- สมาร์ทกริด ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เตรียมจัดแสดง EcoStruxure™ ADMS (Advanced Distribution Management System) ช่วยให้ระบบ Utility มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในเรื่องของกริดอัจฉริยะที่สามารถตรวจจับปัญหาและบริหารจัดการพลังงานมีความต่อเนื่องในทุกพื้นที่อย่างเพียงพอ พร้อมสามารถบริหารจัดการแหล่งพลังงานแบบกระจาย (Distributed Energy Resource: DER) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมองเห็นได้ทั้งระบบสามารถทำงานร่วมกับระบบเดิม หรือแบรนด์อื่นๆ ได้อย่างไร้รอยต่อ นอกจากนี้ในส่วนของสมาร์ทกริดยังมีโซลูชั่นสวิตช์เกียร์อัจฉริยะ MCset สำหรับโครงข่ายไฟฟ้าต้นทาง และอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เช่น น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ สนามบิน ฯลฯ ช่วยปกป้องระบบจ่ายพลังงานในเครือข่ายให้มีความต่อเนื่อง สามารถมอนิเตอร์สถานะผ่านสมาร์ทโฟนได้ง่าย พร้อมการแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุ และยังมี RM6 ซึ่งเป็นสวิตช์บอร์ดไฟฟ้าแรงดันปานกลาง แบบริงเมนยูนิต (Ring Main Unit) สำหรับเครือข่ายสถานีย่อยทั้งบนดินและใต้ดิน สามารถเพิ่มการรองรับแรงดันสูงได้ถึง 24 kV พร้อมประสิทธิภาพการเชื่อมต่อระบบ IoT ในการมอนิเตอร์และแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินได้ผ่านสมาร์ทโฟน โดยทั้ง MCset และ RM6 สามารถทำงานร่วมกับ EcoStruxure™ ADMS ได้เพื่อการวิเคราะห์แนวโน้มต่างๆ ของพลังงานได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์สำคัญด้านซอฟต์แวร์ที่จะช่วยบริหารจัดการกริดได้มีประสิทธิภาพอย่างสมบูรณ์
- แพลตฟอร์ม Asset Performance Management หรือ APM พลิกโฉมการบำรุงรักษาสินทรัพย์ในแบบดิจิทัลช่วยให้องค์กรเปลี่ยนจากการบำรุงรักษาแบบเชิงรับมาเป็นแบบกลยุทธ์การคาดการณ์ล่วงหน้า (predictive maintenance)หรือ PdM เพื่อป้องกันก่อนเกิดความล้มเหลวในการทำงานของเครื่องจักรต่างๆ ที่ส่งผลต่อด้านค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่สูง โดยใช้ประโยชน์จากการเก็บข้อมูลองค์กร คลาวด์ AR และการวิเคราะห์ควบคู่ไปกับการดำเนินการเพื่อให้ได้การบำรุงรักษาที่ดีที่สุดและผลกำไรที่ดีขึ้น
- โซลูชั่น PRiSM Predictive Asset Analytics ช่วยในการแจ้งเตือนล่วงหน้าและการวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ตั้งแต่รายวัน รายสัปดาห์ รายหรือเดือน ก่อนเกิดข้อผิดพลาด ช่วยลดการหยุดทำงานของอุปกรณ์เพิ่มความน่าเชื่อถือและปรับปรุงประสิทธิภาพ ในขณะที่ลดการปฏิบัติงานและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา
- โซลูชั่น Digital Asset Visualisation ช่วยให้เข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายผู้ใช้สามารถจับภาพและทำงานกับข้อมูลทุกประเภทและจากทุกแหล่ง รวมถึงเอกสาร ภาพวาดวิศวกรรม แบบจำลอง 3 มิติ เลเซอร์สแกนและฐานข้อมูลการดำเนินงาน
- สมาร์ทซิตี้ ช่วยในการควบคุมและมอนิเตอร์เมืองได้ในจุดเดียวด้วย ‘ระบบปฏิบัติการคอมมานด์ คอนโทรล สำหรับเมืองอัจฉริยะ’ (Operations Command Control for Smart City) พร้อมแสดงลำดับขั้นตอนการทำงาน,สถานะ, ผู้รับผิดชอบ ในจุดที่เกิดปัญหาต่างๆ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการปัญหาได้อย่างรวดเร็ว เช่น กล้อง CCTV รถเมล์อัจฉริยะ ถังขยะอัจฉริยะ อาคาร ที่จอดรถ ระบบสาธารณูปโภค อาทิ น้ำปะปา ไฟฟ้า ฯลฯ และที่สำคัญสามารถ ‘มอนิเตอร์มลภาวะทางอากาศ’ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของคนเมืองทั้งไลฟ์สไตล์และสุขภาพ
- Asset Connect โซลูชั่นตรวจจับความร้อนความชื้นของตู้ระบบไฟฟ้าได้อย่างอัตโนมัติ ทั้งตู้สวิตช์เกียร์ หม้อแปลง ทำให้สามารถคาดการณ์แนวโน้มและแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที
- PowerLogic™ ION9000’ series ที่มีความถูกต้องที่สุดในโลก (Accuracy Class 0.1S) สามารถวิเคราะห์ปัญหาคุณภาพไฟฟ้า ได้ในตัวเครื่องและสามารถใช่ร่วมกับซอฟต์แวร์ Power Monitoring Expert เพื่อดูรูปคลื่น (waveform) ที่มิเตอร์บันทึกไว้ได้ในระดับ millisecond และที่ขาดไม่ได้กับเมืองยุคใหม่ด้วย
- โซลูชั่น EcoStruxure™ Building Operation โซลูชั่นระบบการจัดการอาคาร เปลี่ยนอาคารธรรมดาให้เป็นอาคารอัจฉริยะ มอบความยืดหยุ่นและความมีเสถียรภาพของระบบ สามารถควบรวมระบบต่างๆ ไว้ในแพลตฟอร์มเดียวได้ ทำให้สามารถมอนิเตอร์พร้อมบริหารจัดการ ควบคุมอาคารได้ในหนึ่งเดียวแบบเรียลไทม์ ทั้งระบบทำความร้อน/ความเย็น (HVAC) ระบบควบคุมอุณหภูมิภายในอาคาร ระบบการจัดการพลังงาน ระบบรักษาความปลอดภัย ระบบแสงสว่าง ระบบ Smart Meeting อีกทั้งสามารถเลือกดูภาพรวม แดชบอร์ดเปรียบเทียบค่าการปลดปล่อยคาร์บอนและค่าพลังงานอื่นๆได้ พร้อมความสามารถในการวิเคราะห์ แจ้งเตือน คาดการณ์แนวโน้มการใช้งานส่วนต่างๆ ผ่าน Schneider Electric Service Bureau เพื่อให้เกิดความสมดุลและความคุ้มค่าด้านการใช้พลังงาน และประสิทธิภาพของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในอาคาร พร้อมความสามารถเหนือระดับในการมอนิเตอร์อาคารในเครือทั้งหมดที่มีอยู่ทั่วโลกได้ในจุดเดียว นอกจากนี้ยังสามารถทำงานร่วมกับระบบอื่นๆ ที่มีอยู่แล้วได้อย่างไร้รอยต่ออีกด้วย ครอบคลุมกลุ่มธุรกิจโรงแรม อาคารพานิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม เฮลธ์แคร์ หรืออาคารต่างๆ
- เน็ตเชลเตอร์ ซีเอ็กซ์ ( Netshelter CX) เป็นไมโครดาต้าเซ็นเตอร์สุดโมเดิร์นแห่งยุคดิจิทัล สะดวกต่อการเคลื่อนย้าย และติดตั้ง ประหยัดค่าใช้จ่ายเพราะไม่ต้องทำห้องไอทีโดยเฉพาะ ช่วยให้ประหยัดพื้นที่ สามารถติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ภายในได้อย่างลงตัว เช่นเซิร์ฟเวอร์ สตอเรจ ระบบสำรองไฟ อุปกรณ์เครือข่ายและการเชื่อมต่อ โดยสามารถเก็บเสียงรบกวนจากอุปกรณ์ไอทีภายในได้อย่างดี อีกทั้งยังมีระบบ Forced Air Ventilation ช่วยระบายความร้อนเป็นเยี่ยม โดยใช้หลักการหมุนเวียนอากาศ สามารถช่วยประหยัดค่าไฟได้ มาพร้อมรูปลักษณ์ที่สวยงาม ภายนอกเป็นลายไม้ สามารถเข้ากับเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ภายในห้องได้อย่างมีสไตล์
นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีอื่นๆ มาร่วมเสริมความเป็น 4.0 อาทิ EVlink Charging Station แท่นชาร์จพลังงานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ช่วยปกป้องแบตเตอรี่ไม่ให้เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร และยังมี Smart Panel ที่เป็นโซลูชั่นในการเปลี่ยนตู้จ่ายไฟฟ้าให้มีความเป็นอัจฉริยะ
ชไนเดอร์ อิเล็คทริคเชื่อว่าการนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์นั้น ไม่ได้เพียงช่วยให้ธุรกิจสร้างรายได้แต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องช่วยให้ประเทศของเราขับเคลื่อนไปสู่เศรฐกิจดิจิทัลได้อย่างมีศักยภาพเพื่อการแข่งขันในเวทีโลกด้วย นอกจากนี้เทคโนโนโลยีของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังมีความโดดเด่นในเรื่องการมอบความยั่งยืน สร้างความสมดุลให้ทั้งองค์กรและพนักงาน ในการใช้ชีวิตและการทำงาน รวมทั้งสร้างความยั่งยืนให้โลก ด้วย EcoStruxure ช่วยให้ใช้ทรัพยากรน้อยลง แต่ให้ประสิทธิภาพมากขึ้น
# # #
เกี่ยวกับชไนเดอร์ อิเล็คทริค
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในการจัดการพลังงาน และระบบออโตเมชั่น ตั้งแต่ บ้าน อาคาร ดาต้าเซ็นเตอร์ ระบบโครงสร้างพื้นฐาน และอุตสาหกรรมต่างๆ ด้วยการยืนหยัดอยู่ในเวทีระดับโลกในกว่า 100 ประเทศ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เป็นผู้นำที่โดดเด่นในด้านการจัดการพลังงาน ทั้งแรงดันไฟฟ้าขนาดกลาง-ต่ำ และระบบสำรองไฟฟ้า รวมถึงระบบออโตเมชั่นต่างๆ เรานำเสนอโซลูชั่นแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพ ด้วยการผสานการทำงานร่วมกันทั้งในส่วนของพลังงาน ระบบออโตเมชั่น และซอฟต์แวร์ เรามีระบบนิเวศทั่วโลก ซึ่งเป็นการประสานความร่วมมือกับคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด รวมถึงชุมชนนักพัฒนาและผู้วางระบบบนแพลตฟอร์มเปิด เพื่อมอบประสิทธิภาพด้านการดำเนินงาน และการควบคุมในแบบเรียลไทม์ เราเชื่อว่าด้วยผู้คนที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้ และพันธมิตรของเรา จะช่วยให้ชไนเดอร์ อิเล็คทริคเป็นบริษัทที่เยี่ยมยอด พร้อมกับคำมั่นสัญญาของเราที่มุ่งมั่นในเรื่องการสร้างนวัตกรรม ความหลากหลาย และความยั่งยืนช่วยให้ทุกคนมั่นใจได้ว่า “Life is On” ในทุกที่สำหรับทุกคน และทุกช่วงเวลา www.schneider-electric.co.th