ADS


Breaking News

AMAZING THAILAND COUNTDOWN 2019 สุดยอดอภิมหาปรากฏการณ์ความเรืองรองบนผืนน้ำเจ้าพระยา ตระการตาด้วยพลุไฟความยาวสูงสุด การแสดงโขนชุดยิ่งใหญ่อลังการ พร้อมมหกรรมการแสดงศิลปินทั้งไทยและต่างประเทศมอบความบันเทิงต้อนรับปี 2562

ไอคอนสยาม กรุงเทพฯ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด, บริษัท ดิไอคอนสยามเรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด, บริษัท ดิไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด พันธมิตร ทั้งภาครัฐ เอกชน ได้แก่ สมาคมการค้าธุรกิจในแม่น้ำเจ้าพระยา, กรมเจ้าท่า, ธนาคารไทยพาณิชย์, บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), ธนาคารกสิกรไทย, สมาคมเรือไทย, บางกอกริเวอร์พาร์ทเนอร์ และชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา จัดกิจกรรม “ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ Amazing Thailand Countdown 2019” ภายใต้แนวคิด “แม่น้ำแห่งความรุ่งเรือง” นับเป็นมหาปรากฏการณ์ความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่ของพลังหัวใจไทยที่สร้างสรรค์งานเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในสเกลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตอกย้ำให้แม่น้ำเจ้าพระยาสายประวัติศาสตร์นี้เป็น NATIONAL ICONIC LANDMARK และจุดหมายปลายทางสำคัญของโลก สัมผัสความตื่นตาตื่นใจกับการแสดงพลุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่รับชมได้ตลอดสายน้ำความยาว 1,400 เมตร การแสดศิลปะโขนในชุด พระรามคืนนคร ครองเมือง” และสนุกสนานกับคอนเสิร์ตจากทัพศิลปินดังทั้งไทยและต่างประเทศ เพื่อมอบความสุขในเทศกาลปีใหม่ให้แก่คนไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ณ  ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2562 นี้ ททท.ได้เตรียมของขวัญปีใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในหลายรูปแบบ และหนึ่งกิจกรรมที่เป็นไฮไลท์ทุกปี คือ กิจกรรม Amazing Thailand Countdown 2019 ซึ่งในปีนี้เราจัดทั้งในกรุงเทพฯ และพร้อมกันกับอีก 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย นครพนม ราชบุรี และสตูล สำหรับการจัดงานเคาน์ดาวน์ร่วมกับไอคอนสยาม และพันธมิตรอีกหลายหน่วยงานครั้งนี้ นับเป็นความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่และถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เป็นการจัดงานเคาน์ดาวน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาใจกลางกรุงเทพมหานคร ที่มีเสน่ห์และเต็มไปด้วยความน่าตื่นตาตื่นใจ ในบรรยากาศความหลากหลายของวิถีชีวิตชุมชนและวัฒนธรรม ซึ่งตนเชื่อว่าจะสามารถมอบประสบการณ์ที่ล้ำค่าให้กับนักท่องเที่ยว ตลอดจนผู้ที่เยี่ยมชมงานนี้ได้มากทีเดียว นับเป็นการช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว ของประเทศไทยสู่นานาประเทศทั่วโลก”
ขณะที่ นางพาสินี  ลิ่มอติบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวถึง การจัดงาน Amazing Thailand Countdown 2019 ว่า “ในฐานะที่ไอคอนสยามเป็นจุดหมายปลายทางแห่งใหม่ของประเทศไทยบนพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และ ททท. ได้เลือกให้ไอคอนสยามเป็นสถานที่จัดงานในครั้งนี้ เรามีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และพันธมิตรทุกภาคส่วน และต้องขอขอบคุณที่ทุกฝ่ายได้ร่วมมือร่วมใจสร้างสรรค์งานเคาน์ดาวน์ในค่ำคืนนี้ได้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี โดยเชื่อมั่นว่ากิจกรรม AMAZING THAILAND COUNTDOWN 2019 จะสามารถเชิดชูความยิ่งใหญ่ของแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นการจุดประกายความเรืองรองของสายน้ำเจ้าพระยาให้สว่างไสวในสายตาของชาวไทยและชาวต่างชาติได้อย่างสมบูรณ์”
สำหรับไฮไลท์ของงานในค่ำคืนนี้ ที่ยิ่งใหญ่ตระการตาท่ามกลางผู้คนนับแสนที่ร่วมในงานครั้งนี้ การแสดงโชว์พลุที่ทำจากข้าวเหนียวไทย นับเป็นการสร้างสรรค์พลุโดยใช้นวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด “แม่น้ำแห่งความรุ่งเรือง” ที่แสดงถึงประวัติศาสตร์เรื่องราวของแม่น้ำเจ้าพระยา สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิต อารยธรรมและตำนานของความเป็นสยามประเทศ ความยาวประมาณ 5 นาทีโดยมีเรือ เป็นจุดยิงพลุทั้งสิ้น 5 จุด โอบรอบโค้งน้ำ ระยะทางกว่า 1,400 เมตร ซึ่งถือเป็นการแสดงพลุที่มีระยะทางยาวที่สุดเท่าที่เคยมีมาของการแสดงพลุบนแม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วยพลุจำนวนทั้งสิ้น 5  องก์ ได้แก่
  • องก์ที่ 1 - สัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรืองอันเป็นนิรันดร์ (The River of Prosperity) นำเสนอพลุสีเงิน ทอง และนาก ที่เรียงต่อเป็นแนวเดียวกัน ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรืองมั่งคั่งตามความเชื่อของทั้งชาวไทย และชาวโลก  จึงเป็นการเริ่มต้นวินาทีแรกของศักราชใหม่ เพื่อจะฉาบให้ลำน้ำเจ้าพระยาเรืองรองสุกสว่าง เป็นแม่น้ำที่จะอยู่คู่ชีวิตอันร่มเย็น และนำพาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ประเทศไทย ดังเช่นที่เคยเป็นมาเสมอ
  • องก์ที่ 2 - มณีแห่งสยาม (The Siam Treasure)  นำเสนอผ่านพลุที่มีรูปแบบและสีสันอันงดงามสะท้อนภาพของอารยธรรมไทยที่มีความสัมพันธ์กับแม่น้ำเจ้าพระยา เชื่อมโยงทุกมิติของชีวิตคนไทยเข้าไว้ด้วยกัน ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งน้ำเพื่อการดำรงชีพและสัญจรของคนริมสองฝั่ง แต่ยังเป็นเส้นทางเดินเรือของคณะทูตที่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรี, เป็นเส้นทางเดินเรือขนส่งสินค้าเพื่อการค้าขายตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงปัจจุบัน, เป็นลำน้ำที่ใช้ประกอบพิธีกรรมในประเพณีที่เกี่ยวข้องกับศาสนาและความเชื่อ, และเป็นเส้นทางสัญจรไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอันงดงามริมสองฝั่ง ที่นำรายได้มาสู่ประเทศ
  • องก์ที่ 3 - บุปผชาติแห่งผืนน้ำ (The Blossom of Joy) นำเสนอพลุที่สร้างความสนุกสนานที่หลากหลายรูปแบบ สีสันนานา ประกอบเพลงจังหวะสนุกแบบไทย สะท้อน เอกลักษณ์ของความเป็นไทยที่เป็นที่หลงใหลของคนทั่วโลก คือ ความสนุกสนาน อารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส เมื่อมาเยือนประเทศไทย ก็จะได้รับรอยยิ้มกลับไปเสมอ ให้สมกับความสุขในวันปีใหม่และการเริ่มศักราชใหม่ริมแม่น้ำสายหลักของไทย   
  • องก์ที่ 4 - สันติภาพบนผืนโลก (One World) เป็นพลุสีธงชาติของทุกประเทศบนโลก แสดงถึง ความเชื่อมโยง เกี่ยวพันกันทั่วโลกผ่านการท่องเที่ยว การค้า การศึกษา เรียนรู้และแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน บนพื้นฐานของความเสมอภาค และเป็นการเริ่มต้นปีด้วยความสัมพันธ์อันดีงามที่จะยั่งยืนตลอดไป
  • องก์ที่ 5 - รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย (Thailand)  พลุสีธงชาติไทย สร้างขึ้นเป็นธงไตรรงค์ผืนใหญ่ตลอดโค้งน้ำ ด้วยสีแดง ขาว น้ำเงิน สะท้อนถึงสิ่งที่ทำให้ไทยยังคงเป็นชาติมาจนปัจจุบัน ก็คือ ความสามัคคี เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
นอกจากนี้ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ยังร่วมสร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่กับการนับถอยหลังส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ณ แม่น้ำเจ้าพระยาสู่สายตาชาวโลก  ด้วยการจัดแสดง Lighting Show : The New Beginning of 2019 บนอาคารคอนโดมิเนียม แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟร้อนท์ เรสซิเดนซ์ ณ ไอคอนสยาม และ เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ  ซึ่งเปรียบเสมือนแสงแรกแห่งปี 2019 ที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองของประเทศไทย ความสวยงามแห่งสายน้ำ และความเป็นเอกภาพของชาติไทย ผ่านสีสันของแสง และเส้นสายของอาคาร  
โดยประชาชนนับล้านคนร่วมเฉลิมฉลองชมพลุริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้จากจุดต่างๆ ทั้ง 2 ริมฝั่งน้ำ ในระยะทาง 2 กิโลเมตร   ทั้งจากโรงแรม อาทิ โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน, โรงแรมเพนนินซูล่า, โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน, โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล, โรงแรม แชงกรี-ลา, โรงแรมเลอบัว แอท สเตททาวเวอร์, โรงแรมแบงค็อก แมริออท เดอะสุริวงศ์ จากจุดชมพลุบนพื้นที่สาธารณะ อาทิ โบสถ์กาลหว่าร์ โรงเรียนกุหลาบวิทยา, สถานีตำรวจน้ำ 2, ท่าเรือสาทรฝั่งบางรักและเจริญนคร, ท่าเรือวัดสุวรรณ, ท่าเรือคลองสาน, ท่าเรือม่วงแค, สวนป่าเฉลิมพระเกียรติ รวมทั้งจุดชมพลุพื้นที่หน่วยงานราชการ / เอกชน อย่าง อาคารกสท.โทรคมนาคม (CAT TOWER), ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้, ล้ง 1919, คิง เพาเวอร์ มหานคร, ลานจอดรถสำเพ็ง รวมทั้งจากร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีกมากมาย
ขณะเดียวกัน ในงานยังได้จัดการแสดงโขนชุดยิ่งใหญ่อลังการ ในตอน "พระรามคืนนคร ครองเมือง นับเป็นการแสดงเพื่อเฉลิมฉลองในเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2562 และยังเป็นการร่วมเชิดชู โขนไทย ศิลปะที่องค์การยูเนสโกประกาศ ยกย่องรับรองให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันจับต้องไม่ได้ โดยการแสดงครั้งนี้ได้นำเครื่องแต่งกายโขนแบบโบราณที่ปักด้วยความประณีต วิจิตรบรรจงของคณะละครอาภรณ์งามที่มีมูลค่านับล้านบาท รวมทั้งการแต่งหน้าตัวละครแบบโบราณเพื่อเป็นการอนุรักษ์โดยอาจารย์พีรมณฑ์ ชมธวัช และ ดร.สุรัตน์ จงดา ผู้ฟื้นฟูการแสดงโขนแบบโบราณมากว่า 25 ปี
สำหรับโขนตอน “พระรามคืนนคร ครองเมือง” เป็นการชนะศึกของพระรามต่อทศกัณฐ์ และกองทัพอสูร เหล่าทหารวานรและกองทัพยักษ์ของพิเภกได้แห่แหนเชิญพระรามกลับกรุงศรีอยุธยา พระพรต พระสัตรุดได้อัญเชิญพระรามขึ้นปกครองกรุงศรีอยุธยาให้มีความสุข เหล่าเทวดานางฟ้าร่วมรำอวยพร รื่นเริง เป็นการเฉลิมฉลองด้วยการแสดง "ระบำอู่ทอง" ที่มีความงดงามตามแบบการร่ายรำอวยพรของนาฏศิลป์ไทย
นอกจากนี้ ในส่วนของมหกรรมบันเทิงคอนเสิร์ตจาก 21 ศิลปินดังทั่วฟ้าเมืองไทยและต่างประเทศ ก็ได้เริ่มต้นบรรเลงกันตั้งแต่ 5 โมงเย็น ประเดิมการแสดงจากทรู AF และ The Voice อาทิ ต้น ธนษิต- เอม สาธิดา-โบ๊ท สิริโรจน์ -โอ ศิร์ภูมิ และ ไอซ์ ธมลวรรณ ต่อด้วยศิลปินชุดใหญ่จาก GMM Grammy ฮั่น อิสริยะ แกงส้ม ธนทัต- แก้ม วิชญาณี และ กัน นภัทร รวมทั้งการแสดงของ Cute Guys จากเอ็กแซ็กท์ ได้แก่ ฟิล์ม ธนภัทร -ไบร์ท นรภัทร- ตงตง วุฒิภัทร- กั้ง วรกร -ริท เรืองฤทธิ์- เซิน รัชพงศ- แฟรงค์ ฉัตรชัย และ พระเอกจากวิก 3 เกรท วรินทร ร่วมด้วย น้องเกล โสพิชา และศิลปินป็อปชื่อดังจากไต้หวัน JANICE YAN และ นนท์ ธนนท์ พร้อมปิดท้ายกับความสนุกรับวันใหม่ไปกับแดนซิ่งควีนเมืองไทย คริสติน่า อากีล่าร์ นับเป็นบรรยากาศการเฉลิมฉลองขึ้นปีใหม่ที่จะประทับใจและอยู่ในความทรงจำของคนไทยและนักท่องเที่ยวอย่างไม่รู้ลืม