Yezcoin ตลาดแลกเปลี่ยนเงินสกุลอินเตอร์เน็ต ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับวันนี้และอนาคตเปิดตัวในประเทศไทยแล้ว
การเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจดิจิตอลได้เริ่มขึ้นแล้ว โดยมีบล็อกเชนเป็นหนึ่งกุญแจสำคัญในการสร้างโครงสร้างของอินเตอร์เน็ตใหม่ทางด้านความปลอดภัยให้กับสิ่งที่มีความมูลค่า ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์หรือทรัพย์สินทางปัญญา ที่มีผู้ซื้อและผู้ขายสามารถทำธุรกรรมกันได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ข้อมูลสินทรัพย์รวมถึงข้อมูลของผู้ซื้อและผู้ขายจะถูกบันทึกอยู่บนอินเตอร์เน็ตและสามารถทำธุรกรรมข้ามพรมแดนผ่านระบบดิจิตอลที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกขณะ โดยเทคโนโลยีที่เรียกว่า บล็อกเชน (Blockchain)
บล็อกเชน (Blockchain) คือ คอมพิวเตอร์จำนวนหนึ่งที่จัดเก็บและติดตามความเป็นเจ้าของข้อมูลในระบบดิจิตอล คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องมีข้อมูลดิจิตอลเหมือนกัน เมื่อเชื่อมต่อเป็นเครือข่ายลูกโซ่คอมพิวเตอร์เหล่านี้ สามารถขยายได้เท่ากับจำนวนคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในโลกนี้ และช่วยกันตรวจสอบข้อมูลใหม่ผ่านการโหวตเสียงข้างมาก 51% และเมื่อได้รับการยืนยันแล้วจะมีการเพิ่มข้อมูลใหม่ลงในบล็อกเชน ซึ่งข้อมูลดิจิตอลใดๆ ที่เก็บไว้ในบล็อกเชนจะถือว่าปลอดภัยโดยการตรวจสอบด้วยระบบอัตโนมัติของคอมพิวเตอร์ทั้งหมดในห่วงโซ่
โดยระบบนิเวศของบล็อกเชน เงินสกุลอินเตอร์เน็ต เช่น บิทคอยน์ (Bit Coin) ที่ถูกเปิดตัวในปี 2009 เพื่อสร้างเครือข่ายที่เป็นอิสระและได้รับความนิยมทั่วโลก โดยในกระบวนคนกลางอย่างธนาคารถูกลบออกไปและคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่เป็นผู้ตรวจสอบและยืนยันว่าถูกต้องจะได้รับค่าตอบแทนจากการทำธุรกรรม นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมามีจำนวนเงินสกุลอินเตอร์เน็ตเกิดขึ้นอย่างมากมาย ซึ่งถูกแลกเปลี่ยนซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนเงินสกุลอินเตอร์เน็ต แต่ตลาดเหล่านี้ไม่สามารถปฏิบัติตามกฎข้อมูลข้อบังคับของกรมกำกับดูแลได้อย่างเคร่งครัดซึ่งก็คือ KYC (Know Your Customer) การรู้จักลูกค้า และ AML (Anti Money Laundering) การต่อต้านการฟอกเงิน โดยตลาดเหล่านี้ยังมีแนวโน้มที่จะถูกโจมตีจากนักโจรกรรมข้อมูล ทำให้ลูกค้าต้องเลือกระหว่างระบบธุรกรรมที่มีความเร็วหรือความปลอดภัย ทำให้ลูกค้าขาดความพึงพอใจ ดังนั้นเพื่อแก้ไขจุดอ่อนที่มีอยู่ เงินสกุลอินเตอร์ Yezcoin จึงได้เกิดขึ้น ระบบบล็อกเชนของเราสามารถปฏิบัติตามกฎข้อบังคับของหน่วยงานกำกับดูแลได้อย่างเต็มรูปแบบทั้ง KYC และ AML ระบบสามารถตรวจสอบความมีตัวตนที่แท้จริงด้วยข้อมูลชีวภาพเพื่อใช้ยืนยันในการเข้าระบบอื่นๆ
บริษัท Yezcoin ได้พัฒนาตลาดแลกเปลี่ยนแบบผสมผสานซึ่งมีทั้งความรวดเร็วและมีมาตรการรักษาความปลอดภัยระดับโลก อีกทั้งยังเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยโดยการตรวจสอบผู้ซื้อขายด้วยระบบข้อมูลชีวภาพและยังป้องกันไม่ให้ผู้ซื้อขายขายส่งเงินสกุลอินเตอร์เน็ตไปยังนักต้มตุ๋น รวมถึงผู้ที่อยู่ในรายชื่อบุคคลต้องห้ามในระดับสากล และเนื่องจากตลาดแลกเปลี่ยนและเป็นเป้าหมายในการจู่โจมของนักโทษประจำอยู่เสมอ เราจึงมุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนด และให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยอย่างจริงจัง เพื่อให้คุณสามารถมั่นใจได้ว่าสินทรัพย์บนอินเตอร์เน็ตของคุณนั้นจะปลอดภัยเมื่ออยู่กับเรา นอกจากนี้บริษัท Yezcoin ยังสามารถนำไปใช้เป็นส่วนลดค่าธรรมเนียมในการซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนของเรา รวมถึงค่าบริการบล็อกเชนที่เรามีอยู่ อีกทั้งยังได้รับส่วนลดรู้จักร้านจากร้านคู่ค้าของเรา
ทั้งนี้บริษัท Yezcoin เตรียมที่จะเปิดตัวตลาดแลกเปลี่ยนเงินสกุลดิจิตอล พร้อมนำเสนอนวัตกรรมที่ล้ำหน้าที่จะช่วยให้ผู้ใช้ทำธุรกรรมได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งในขณะนี้กำลังพัฒนาระบบการจัดการความมีตัวตน และจะเก็บข้อมูลความมีตัวตนในระบบบล็อกเชน โดยข้อมูลเหล่านี้จะถูกเก็บอย่างปลอดภัย และมีเพียงเจ้าของข้อมูลเท่านั้นที่มีกุญแจไขรหัสเพื่อเข้าถึงข้อมูล ระบบการจัดการเช่นนี้ยังเปิดโอกาสให้เจ้าของข้อมูลสามารถเลือกได้ว่าต้องการจะแบ่งปันข้อมูลให้กับใครให้ได้เห็น หรือแม้กระทั่งสามารถได้รับผลตอบแทนจากผู้เสนอราคาเพื่อเข้าถึงข้อมูลที่ผู้เสนอซื้อสนใจ ระบบที่เอ่ยถึงของ Yezcoin นี้ได้สร้างทางออก และก่อให้เกิดการปรับปรุงสำหรับปัญหาในเรื่องการหาข้อมูลโดยองค์กรขนาดใหญ่เพียงบางกลุ่ม รวมถึงปัญหาในการล่วงละเมิดสิทธิ์ในข้อมูลที่บริหารอยู่
บริษัท Yezcoin ยังใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการแก้ปัญหาข้อกำหนด การรู้จักลูกค้า (KYC – Know Your Customer) และการต่อต้านการฟอกเงิน (AML – Anti Money Laundering) ให้กับบริษัทที่ต้องการที่จะปฏิบัติได้ตามข้อกำหนด ยิ่งไปกว่านั้นบริษัท Yezcoin ได้วางแผนจะเติบโตไปเป็นบริษัทที่เป็นโครงสร้างส่งเสริมให้บริษัทที่เสนอการระดมทุนด้วยเงินดิจิตอลสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนด KYC และ AML ได้เช่นกัน โดยบริษัทตั้งเป้าว่าภายในปี 2019 ระบบเครื่องจักรสมองกล และระบบการยืนยันความมีตัวตนด้วยข้อมูลชีวภาพ จะช่วยให้ให้บริษัทสามารถที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางด้านความปลอดภัยอย่างที่บริษัทได้มุ่งหมายไว้
ทั้งนี้บริษัทมีความมุ่งมั่นอย่างมากที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างภาพพจน์ในทางบวกให้กับเทคโนโลยีบล็อกเชน และได้เห็นโอกาสในการพัฒนาระบบเพื่อเติบโตร่วมกับหน่วยงานทางภาครัฐ และทางภาคเอกชน ทางด้านการบริหารการจัดการความมีตัวตนเพื่อส่งเสริมสิทธิมนุษยชน โดยใช้ข้อมูลดิจิตอลเป็นตัวกำหนดความมีตัวตน นอกเหนือจากนั้นบริษัทยังมีโอกาสใช้ระบบบริหารความมีตัวตนทางด้านดิจิตอลที่มีอยู่ช่วยเหลือคนมากกว่าสองพันล้านคนทั่วโลกให้สามารถเข้าถึงการบริการทางการเงิน และสิ่งเหล่านี้จะช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของผู้ด้อยโอกาส
