TEAMG ทิ้งทวนโรดโชว์กรุงเทพฯ อวดโรดโชว์ 16 จังหวัดนักลงทุนเข้าฟังข้อมูลแน่น
“ทีมกรุ๊ป” เดินสายปิดท้ายการนำเสนอข้อมูลบริษัทแก่นักลงทุน วันนี้ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กรุงเทพฯ อวดผลงานโรดโชว์ 16 จังหวัดนักลงทุนให้การตอบรับดี เข้าร่วมฟังข้อมูลคึกคัก
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG เปิดเผยว่า ในวันนี้ TEAMG มีการปิดท้ายการนำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุนและประชาชน หรือ โรดโชว์ ที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นจังหวัดที่ 16 โดยก่อนหน้านี้ผู้บริหารของ TEAMG พร้อมด้วยทีมที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์ ได้มีการเดินสายโรดโชว์ตามจังหวัดต่างๆ ไปแล้วจำนวน 15 จังหวัด เพื่อแนะนำข้อมูลธุรกิจและข้อมูลทางการเงินของบริษัทก่อนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (Initial Public Offering: IPO) สำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี และมีนักลงทุนเข้าร่วมรับฟังข้อมูลของ TEAMG อย่างหนาแน่น
ทั้งนี้ TEAMG จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 180 ล้านหุ้น คิดเป็น 26.47% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออก และเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ซึ่งปัจจุบัน TEAMG มีทุนจดทะเบียนเท่ากับ 340 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 680 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาทต่อหุ้น โดยมีทุนเรียกชำระแล้ว 250 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 500 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาทต่อหุ้น โดยในขณะนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาแบบคำขออนุญาตการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนจากสำนักงาน ก.ล.ต. (SEC) เพื่อที่จะยื่นเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ต่อไป
ด้านนายชวลิต จันทรรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จํากัด (มหาชน) หรือ TEAMG กล่าวว่า บริษัทฯเป็นผู้ให้บริการในการเป็นที่ปรึกษาด้านวิศวกรรม และสิ่งแวดล้อมแบบบูรณาการ (Integrated Consulting Services) และจัดทำรายงานประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) โดยสามารถให้บริการแบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียว (One-stop Service) ให้แก่ลูกค้าได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ และรวดเร็ว ซึ่งสามารถแบ่งประเภทการให้บริการตามลักษณะการประกอบธุรกิจ ได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1.ธุรกิจการศึกษา ออกแบบ และจัดทำรายงาน หรือ Study & Design) 2.ธุรกิจการบริหารโครงการและควบคุมการก่อสร้าง (Project Management & Construction Supervision: PMSC) และ 3.ธุรกิจเกี่ยวเนื่อง (Related business) โดยมีกลุ่มลูกค้าแบ่งได้เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ลูกค้าภาครัฐ (Government) ลูกค้าภาคเอกชน (Private) ลูกค้าต่างประเทศ (International) และลูกค้าธุรกิจเกี่ยวเนื่อง (Related Business)
“บริษัทได้เดินสายโรดโชว์ในครั้งนี้ ก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของบริษัท และการนำเสนอข้อมูลต่างๆ ของบริษัทฯ เพื่อให้นักลงทุนได้ทำความเข้าใจในตัวบริษัทมากยิ่งขึ้น โดยการตัดสินใจเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในครั้งนี้ ก็เพราะบริษัทมีแผนธุรกิจที่จะขยายฐานลูกค้าไปยังต่างประเทศมากขึ้น เพื่อก้าวไปสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำของธุรกิจที่ปรึกษาทางวิศวกรรมและสิ่งแวดล้อมในอาเซียน (ASEAN) ต่อไป” นายชวลิตกล่าว
ขณะที่นายเสกสรรค์ ธโนปจัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG กล่าวอีกว่า TEAMG ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่ปรึกษาทางวิศวกรรมและสิ่งแวดล้อมชั้นนำของประเทศ ด้วยประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจมานานกว่า 40 ปี มีฐานะทางการเงินที่มั่นคง และมีโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจ สำหรับการระดมทุนในครั้งนี้ TEAMG มีแผนที่จะนำไปเสริมสภาพคล่อง ขยายธุรกิจทั้งใน และต่างประเทศ รวมทั้งการลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อขยายขีดความสามารถในการให้บริการที่ปรึกษาแบบบูรณาการและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ให้ได้มาตรฐานสากลมากยิ่งขึ้น พร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าในระดับภูมิภาคต่อไป
นอกจากนี้นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ FINANSIA ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์ กล่าวเสริมว่า การเดินสายโรดโชว์ในครั้งนี้ ก็เพื่อให้นักลงทุนมีความเข้าใจในตัวธุรกิจของ TEAMG และรับทราบถึงข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงิน พร้อมวิสัยทัศน์ในการบริหารงานของผู้บริหาร รวมถึงจุดเด่นต่างๆ ของ TEAMG อาทิเช่น การให้บริการที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมและสิ่งแวดล้อมที่ครบวงจรด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และศักยภาพในการเติบโตของบริษัทที่สอดคล้องกับการขยายตัวของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ด้วยปัจจัยเหล่านี้ จึงทำให้เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสำหรับการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้