แสนสิริประสบความสำเร็จแบรนด์ “คณาสิริ” โกยยอดขายกว่า 1,000 ลบ.
ล่าสุด Sold Out “คณาสิริ พระราม 2- วงแหวน” เฟสแรกหมดเกลี้ยง
คาดปัจจัยบวกเศรษฐกิจ-การเมืองปี’61 ดันตลาดบ้านเดี่ยวรุ่ง
เตรียมต่อยอดเปิดแบรนด์คณาสิริต่อเนื่องปีหน้า
แสนสิริประสบความสำเร็จแบรนด์ “คณาสิริ” โกยยอดขายแบรนด์ทั้งหมดกว่า 1,000 ล้านบาท เผยดีมานด์บ้านเดี่ยวระดับราคา 3-5 ล้านบาทยังพุ่งแรง ล่าสุดปิดขาย “คณาสิริ พระราม 2-วงแหวน” เฟสแรกหมดเกลี้ยง กวาดยอดขายกว่า 50 ล้านบาท ชี้ที่มาความสำเร็จเพราะทำเลดีเดินทางสะดวกติดถนนใหญ่พระราม 2 และจุดเด่นดีไซน์บ้านสไตล์ Mid Century 70’s ผสานสถาปัตยกรรมวันวานกับชีวิตสไตล์ใหม่อย่างลงตัว พร้อม Cooliving Designed Home นวัตกรรมบ้านระบายความร้อนด้วยโซล่า เซลล์ ไม่ใช้ไฟฟ้า ไฮไลท์ฟังก์ชั่น Breeze Panel ช่องลมสำหรับถ่ายเทอากาศภายในบ้านทำให้ปลอดโปร่ง Roof Shade ขนาดยาวกันแดดและฝนมากขึ้น คาดปัจจัยบวกเศรษฐกิจ-การเมืองปี’61 หนุนตลาดบ้านเดี่ยวโต เตรียมรุกต่อเปิดตัวแบรนด์คณาสิริโครงการใหม่ปีหน้า
นายสมเกียรติ หงษ์ทรัพย์ภิญโญ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทประสบความสำเร็ จแบรนด์บ้านเดี่ยว “คณาสิริ” เป็นอย่างมาก โดยมียอดขายแบรนด์รวมทั้งสิ้ นกว่า 1,000 ล้านบาท โดยแบรนด์ดังกล่าวขายดีตั้งแต่ ต้นปี ปิดการขาย “คณาสิริ วงแหวน – พระราม 5” จำนวน 311 ยูนิต ด้วยยอดขาย965 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 3 ได้ปิดการขาย “คณาสิริ ปิ่นเกล้า-กาญจนา” เฟสแรก จำนวน 22 ยูนิต โกยยอดขายไป 100 ล้านบาท และล่าสุดได้ปิดการขายเฟสแรก “คณาสิริ พระราม 2- วงแหวน” จำนวน 9 ยูนิต มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท
“คณาสิริ พระราม 2-วงแหวน ขายดีตั้งแต่วันแรกที่เปิดขาย เนื่องจากมีดีมานด์สูงของลูกค้ าโซนพระราม 2 – มหาชัย ที่ต้องการขยายครอบครัว และ สร้างครอบครัวใหม่ ประกอบกับทำเลศักยภาพที่ติ ดถนนใหญ่พระราม 2 เดินทางสะดวก เข้าเมืองด้วยทางด่วนดาวคะนอง- พระราม 3, ถนนกาญจนาภิเษก ใกล้ศูนย์การค้า เซ็นทรัลมหาชัย เซ็นทรัล พระราม 2 และดีไซน์บ้านที่โดดเด่นแตกต่าง มีการผสานสถาปัตยกรรมวันวานกั บชีวิตสไตล์ใหม่อย่างลงตัว ด้วยแบบบ้านสไตล์ Mid Century 70’s ที่มีหลังคาจั่ว ตัดกัน Fin แนวตั้งของบ้านทำให้เกิดรูปร่ างสี่เหลี่ยมหัวตัดออกมาเป็นรู ปทรงที่สวยงาม ผลานกับสีบ้านพาสเทล ทำให้รู้สึกอบอุ่น มีชีวิตชีวา พร้อมด้วยนวัตกรมเพื่อการอยู่ อาศัย Cooliving Designed Home อาทิ Breeze Panel ช่องลมสำหรับถ่ายเทอากาศภายในบ้ านทำให้ปลอดโปร่ง ฝ้าระบายอากาศรอบบ้าน Roof Shade ที่ออกมาให้ยื่นยาวเพื่อกั นแดดและฝนมากขึ้น หลอดไฟ LED ทั้งหลังเพื่อประหยัดและมีอายุ การใช้งานที่ยาวนานขึ้น ด้วยการตอบรับที่ดีดังกล่าว จึงได้เตรียมเปิดเฟส 2 จำนวน 20 ยูนิต มูลค่า 92 ล้านบาท ตอบสนองความต้องการของลูกค้าเพิ่ มเติม”
“ทั้งนี้ แบรนด์คณาสิริ มีคอนเซ็ปต์ “Feel Complete” บ้านคณาสิริ ความรู้สึกของความสุข หรือความสุขที่ไม่สิ้นสุด สำหรับการเริ่มต้นสร้างครอบครั วกับบ้านหลังแรก ตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างมี ความสุขในทุกฟังก์ชั่ นของโครงการ เป็นบ้านเดี่ยวระดับราคา 3-5 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับราคาที่มีดีมานด์ สูงจากผู้บริโภค เนื่องจากเป็นระดับราคาที่ไม่สู งจนเกินไปนัก เหมาะกับครอบครัวขนาดปานกลางที่ กำลังสร้างครอบครัวและมองหาจุ ดเริ่มต้นสำหรับชีวิตครอบครัวที่ ดี ในสังคมคุณภาพ พร้อมยังมี นวัตกรรม Cooliving Designed Homeบ้านระบายความร้อนด้วยโซล่า เซลล์ ไม่ใช้ไฟฟ้า ปลอดภัยและ Go green ที่ทันสมัยและตอบโจทย์การใช้ งานอย่างเต็มเปี่ยม จึงทำให้แบรนด์คณาสิริได้รั บการตอบรับที่ดีมาอย่างต่อเนื่ อง ดังนั้นจึงได้เตรียมเปิ ดโครงการภายใต้แบรนด์นี้อีกในปี 2561 แต่จะเป็นทำเลใดนั้นต้องติ ดตามกันต่อไป” นายสมเกียรติ กล่าว
สำหรับแนวโน้มตลาดบ้านเดี่ ยวในปี 2561 นายสมเกียรติ กล่าวว่า คาดว่าจะมีแนวโน้มที่สดใสกว่าปี นี้ แม้ว่าจะยังไม่มีมาตรการสนับสนุ นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยตรงจากทางภาครัฐเพิ่มเติม แต่จากปัจจัยบวกที่รัฐบาลมี ความชัดเจนในการลงทุ นในโครงการเมกะโปรเจค โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการรถไฟฟ้ า ที่เริ่มเป็นรูปธรรมและมีความคื บหน้าในการก่อสร้างมากขึ้น เช่น สายสีเขียว (หมอชิต –สะพานใหม่ – คูคต) รวมไปถึงสายสีเหลือง (ลาดพร้าว – สำโรง) สายสีชมพู (แคราย – มีนบุรี) และสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี) ที่คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2562 จึงทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริ โภคกลับมาดีขึ้น กำลังซื้อมีทิศทางที่ดี นอกจากนี้ยังคาดว่าปี’ 61เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ร้อยละ 4.2 เนื่องจากรัฐบาลได้ประกาศการเลื อกตั้งชัดเจนในปี 2562 ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ภาคอสั งหาริมทรัพย์เติบโตไปได้ด้วยดี ขณะที่ผู้ประกอบการเริ่มทยอยที่ จะเปิดโครงการใหม่ออกสู่ ตลาดและให้ความสำคัญกั บการทางการตลาดอย่างเข้มข้น ทำให้คาดการณ์ว่าตลาดบ้านเดี่ ยวจะดีขึ้นทั้งในฝั่งอุ ปทานและอุปสงค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ที่ รถไฟฟ้าผ่าน ซึ่งเป็นทำเลที่มีความน่ าสนใจและมีศักยภาพในการพัฒนาบ้ านเดี่ยวต่อไป อีกทั้งบ้านเดี่ยวระดับราคาที่ น่าจะยังขยายตัวต่อไปได้คือบ้ านเดี่ยวระดับราคา 3 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีปัญหาหนี้ ภาคครัวเรือนน้อย และมีโอกาสถูกปฏิเสธสินเชื่อเพื่ อที่อยู่อาศัยในระดับต่ำ ดังนั้นจึงจะเติบโตได้ดี”
ติดตามอัพเดตข่าวสารที่น่ าสนใจเกี่ยวกับแสนสิริเพิ่มเติม ได้ที่