ADS


Breaking News

เปิดตัว Moto Parilla อย่างเป็นทางการในงาน Motor Expo

     บริษัทแม่ เจ้าของแบรนด์รถจักรยานยนต์พรีเมี่ยมคลาสสิค  บินลัดฟ้าเปิดตัว “ Moto Parilla ” ร่วมกับ ฟิล์มรัฐภูมิ ในฐานะตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในไทย หลังลงทุนกว่า 50 ล้านบาท ขึ้นแท่นซีอีโอ ตั้งบริษัทฯ โชว์รูม  รองรับการขยายตัวของตลาดให้คนไทย ในราคาที่สัมผัสได้ ฟุ้งใช้ไทยเป็นฐานการผลิตแบนรนด์ดังกล่าวเพื่อส่งออกกทั่วโลก หลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Motor Expo 2017 ภายใต้แนวคิด “ Scooter Classic never died ” ผู้ที่จองในงานจะได้ราคาแนะนำที่พิเศษที่สุดไม่ถึงหลักแสน เผยตั้งเป้าจำหน่ายปีแรกที่ 1,200 คัน
นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมโต พาริลล่า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า  จากแรงบันดาลใจที่ตนเองเป็นคนที่ชอบขับรถจักรยานยนต์อยู่แล้ว จนได้มีโอกาสพบ มร. ซีโน่ ดีไซเนอร์ชื่อดังเจ้าของแบรนด์รถจักรยานยนต์พรีเมี่ยมคลาสสิค “ Moto Parilla ” สัญชาติอิตาลี จึงตัดสินใจลงทุนกว่า 50 ล้านบาท ตั้งบริษัท ฯ และอยู่ระหว่างการสร้างสำนักงานใหญ่ และโชว์รูม เพื่อจำหน่ายรถจักกรยานยนต์แบรนด์ดังกล่าว โดยวางตำแหน่งสินค้าที่เข้าถึงผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย ให้สามารถเป็นเจ้าของในราคาที่สัมผัสได้ ภายในแนวคิด "ความมีระดับ ที่สัมผัสได้" โดยเปิดให้จองอย่างเป็นทางการแล้วในงาน  Motor Expo 2 รุ่น คือ ขนาด 150 ซีซี รุ่นโมโนโทน สีล้วน และรุ่นท้อป ทูโทน ในราคาแนะนำเริ่มต้นที่ 69,900 บาท เฉพาะในงาน Motor Expo  ครั้งนี้เท่านั้น
“Moto Parilla เป็นทางเลือกใหม่ของคนที่ชื่นชอบสกู๊ตเตอร์คลาสสิคสไตล์ อิตาลี ผมรู้สึกว่ามันใช่เลย ด้วยรูปทรงรถ ด้วยตำนานของเค้า คนที่นิยมรถแบรนด์นี้จะทราบว่า ราคาจริงหลายแสน แต่ผมสามารถทำรถจักรยานยนต์ให้ดูดีมีระดับ และให้คนไทยสามารถเป็นเจ้าของได้อย่างง่ายดาย ในราคาไม่ถึงแสน ด้วยขนาดเครื่องยนต์ถึง 150  ซีซี ใช้ได้ทั้งชายและหญิง ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา ไปถึงคนวัยทำงาน ที่มีความชื่นชอบรถจักรยานยนต์สไตล์คลาสสิค หรือแม้กระทั่งกลุ่มที่ชอบตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น เพราะสามารถตกแต่งลวดลาย หรือสีสันตามที่ลูกค้าชื่นชอบ ผมชอบทำธุรกิจอยู่แล้วจึงมั่นใจว่าแบรนด์นี้ไปได้แน่นอน จะเห็นได้จากสถิติการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย พบว่า เป็นรถ  scooter สูงถึง 45%  นอกจากนี้ ในอนาคตเราจะสร้างเป็น Scooter Club  จัดกิจกรรมที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์อย่างสร้างสรรค์ร่วมกันต่อไป” นายรัฐภูมิกล่าว
นายรัฐภูมิ กล่าวถึงรูปแบบธุรกิจว่า จะเป็นการนำเข้าชิ้นส่วนรถมาประกอบที่โรงงานของ เดอะ  สตาเลียน แบรนด์มอเตอร์ไซค์ของคนไทย แต่ระบบการประกอบ การดูแลหลังการขาย จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลจากบริษัทแม่ต้นสังกัด  Moto Parilla   ส่วนแผนธุรกิจ จะเริ่มต้นด้วยการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34 หรือ Motor Expo  บูธ จี 12 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 11 ธันวาคมนี้ที่ชาเลนเจอร์ฮอลล์  1-3 เมืองทองธานี เพื่อนำเสนอและเปิดจองและรับสินค้าหลังจบงาน 30 วัน
พร้อมกันนี้ อยู่ระหว่าง แต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย การสร้างพันธมิตร ไฟแนนซ์  ดีลเลอร์ รวมถึงลูกค้า  การจัดกิจกรรมการตลาด การบริการดูแลหลังการขาย  ในส่วนของ สำนักงานใหญ่  และโชว์รูม คาดว่าจะเสร็จในเดือนธันวาคมนี้  ตั้งอยู่บนพื้นที่ 300 ตารางวา ใจกลางห้าแยกวัชรพล  ในสไตล์ตู้คอนเทนเนอร์ ติดตั้งระบบโซล่าเซล พลังงานประหยัด  และจะเป็นสถานีทดลองชาร์ตของรถไฟฟ้าที่ใช้โซล่าเซลล์แห่งแรกของประเทศไทย ระหว่างนี้จะใช้ศูนย์บริการหลังการขายของ เดอะ สตาเลี่ยนในกรุงเทพและปริมณทล ด้วยบริการรถเคลื่อนที่ 24 ชั่วโมง  แจ้งตรงทาง call center ของศูนย์ Moto Parilla
มร. ซีโน่  พานาลารี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมโต พาริลล่า จำกัด บริษัทแม่ในอิตาลี กล่าวว่า ตนรู้จักคุณฟิล์มมาก่อนหน้านี้ ได้เห็นความเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ ที่มีวิสัยทัศน์ และเล็งเห็นโอกาสในการนำรถรุ่นนี้มาขยายตลาดในประเทศไทย จึงพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ และหากตลาดไปได้ดี ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะใช้ไทยเป็นฐานการผลิตส่งออกทั่วโลก ยิ่งไปกว่านั้น การที่เราใช้โรงงานประกอบชิ่นส่วนยานยนต์ของ สตาเลี่ยน กรุ๊ป ซึ่งมีประสบการณ์อย่างยาวนานหลายปี จึงมั่นใจว่า คุณภาพในการประกอบจะไม่ด้อยไปกว่าการนำเข้ารถทั้งคัน ซึ่งการประกอบในประเทศได้นี้เอง จึงทำราคาที่ตั้งไว้ไม่สูงเกินกว่าที่ทุกคนจะเป็นเจ้าของได้
นางอารีรัตน์ ศรีประทาย ประธานกรรมการบริหาร  บริษัท พาวเวอร์  สตาเลียน จำกัด  ในเครือ สตาเลียนกรุ๊ป กล่าวว่า  การที่บริษัท โมโต พาริลล่า (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับความเชื่อมั่นจากบริษัทแม่ที่อิตาลีให้ขยายตลาดในภูมิภาคนี้ และด้วยสตาเลียนกรุ๊ป ซึ่งมีโรงงานผลิต และประกอบรถจักรยานยนต์ถึง 2 แห่ง ที่ชลบุรี และสมุทรปราการ  เราจึงมีศักยภาพการผลิตและรองรับการขยายการเติบโตได้อีกในอนาคต อีกทั้งเรายังเห็นความสำคัญในเรื่องคุณภาพสินค้า เป็นหัวใจสำคัญ  จึงยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะร่วมมือกับโมโต พาริลล่า ( ประเทศไทย ) และบริษัทแม่ ซึ่งจะส่งผลให้สตาเลียนแข็งแกร่ง พัฒนาเติบโต และยกระดับพัฒนามาตรฐานสินค้ายิ่งขึ้น ตลอดจนการเป็นฐานผลิตให้กับแบรนด์ต่างชาติที่มีชื่อเสียงต่อไป 
“เรามีแผนรุก ปรับโครงสร้างด้านการพัฒนาคุณภาพ พัฒนาสินค้า  การบริการหลังการขาย ที่จะตอบสนองความต้องการ ที่เกินความคาดหมายลูกค้า รวมถึงแผนการขายแผน การตลาดทั้งระยะสั้น ระยะกลาง  แผนการขยายการเติบโต ทั้งในและต่างประเทศ เรามั่นใจว่าสตาเลียนจะสามารถทำยอดขายที่สูงขึ้น บริการที่รวดเร็วและประทับใจมากขึ้นอย่างแน่นอนหลังจากที่ร่วมมือกันในรูปแบบไตรภาคีครั้งนี้” นางอารีรัตน์ กล่าว