ADS


Breaking News

ยูบีเอ็มร่วมสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ฯและม.เกษตร จัดประกวดนวัตกรรมอาหาร เล็งผลระยะยาว ปั้นสตาร์ทอัพด้านอาหารขับเคลื่อนตลาด

ยูบีเอ็มจับมือสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) และคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดการประกวดนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม (Start-up Innovative F&B Products Competition) เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในการใช้นวัตกรรมสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม เตรียมพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการก้าวเป็นครัวโลกยั่งยืนและเมืองนวัตกรรมอาหารของภูมิภาค
นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธาน บริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยระหว่างการเป็นประธานเปิดโครงการประกวดนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม (Start-up Innovative F&B Products Competition) ว่า อุตสาหกรรมอาหารของประเทศไทย เป็นอุตสาหกรรมศักยภาพที่ถูกยกระดับความสำคัญจากทั้งภาคนโยบายของรัฐและการตอบรับของเอกชน โดยมีจุดมุ่งหมายอันใกล้คือการก้าวขึ้นเป็นครัวโลกอย่างเต็มภาคภูมิ และการเป็นเมืองนวัตกรรมอาหารที่ได้รับการยอมรับในระดับภูมิภาค โดยในปี 2559 ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมอาหารของประเทศไทยสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้ด้วยการส่งออกเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) และเป็นผู้ส่งออกอาหารสำเร็จรูปอันดับที่ 13 ของโลก โดยการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารของไทยในปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่ารวม 900,000 ล้านบาท จากการคาดการณ์แนวโน้มอุตสาหกรรมอาหารในปี 2560 ที่จะเติบโตขึ้นอีกร้อยละ 8 จากปีที่ผ่านมา
“ปัจจัยส่งเสริมที่ทำให้อุตสาหกรรมอาหารของไทยเป็นอุตสาหกรรมศักยภาพ คือ การมีทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตทางการเกษตรที่หลากหลาย สามารถเก็บเกี่ยวได้ตลอดปี มีภูมิศาสตร์ในการเป็นศูนย์กลางของประเทศแถบอาเซียน รวมไปถึงการมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิตที่ช่วยเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร ดังนั้น ในการผลักดันและส่งเสริมผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมอาหารอันเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จึงต้องสนับสนุนให้เกิดการเกษตรแบบยั่งยืน และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างสร้างสรรค์ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ตอบรับแนวนโยบายของประเทศ ไทยแลนด์ 4.0”
ด้านนางสาวรุ้งเพชร ชิตานุวัตร์ ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการ-ภูมิภาคอาเซียน บริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดโครงการประกวดนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม (Start-up Innovative F&B Products Competition) กล่าวเพิ่มเติมว่า จุดร่วมของความสำเร็จในอุตสาหกรรมอาหารทุกภูมิภาคของโลก อันดับแรกคือ สินค้าอาหารและเครื่องดื่มมีจุดเด่น ดึงดูดความสนใจและจุดประกายความต้องการซื้อของผู้บริโภคให้ได้ เนื่องจากในปัจจุบัน การแข่งขันในอุตสาหกรรมอาหารนั้นสูงมาก เพราะเป็นตลาดที่ใหญ่และเป็นความต้องการพื้นฐานในการใช้ชีวิตของมนุษย์ ดังนั้น การที่จะทำให้สินค้าอาหารและเครื่องดื่มสามารถแข่งขันในตลาดได้ จึงต้องอาศัยการสร้างจุดเด่นและความน่าสนใจให้กับสินค้าเหล่านั้น จุดร่วมต่อมา คือการใช้นวัตกรรมในการสร้างสรรค์และผลิตจะทำให้อาหารและเครื่องดื่มได้รับความสนใจมากกว่า เนื่องจากผู้บริโภคในปัจจุบันมีพฤติกรรมและความต้องการที่เปลี่ยนไปจากเดิม โดยมุ่งเน้นไปยังการรักษาสุขภาพรักษาสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงาน และมองไปถึงความยั่งยืนในอนาคต ดังนั้น การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาประยุกต์ใช้ในการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม จะเป็นการตอบสนองต่อพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค อีกทั้งยังสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นในธุรกิจอีกด้วย
“ซึ่งการจัดโครงการประกวดนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม (Start-up Innovative F&B Products Competition) ในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยตระหนักถึงความสำคัญของนวัตกรรมในวงการอุตสาหกรรมอาหาร นอกจากนี้ โครงการนี้ยังมุ่งหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอีไทยที่มีศักยภาพในการแข่งขันให้สามารถก้าวเข้าสู่ตลาดทั้งในระดับประเทศ ภูมิภาค และโลกได้ เพราะเราคงไม่อยากให้เกิดการผูกขาดจากบริษัทใหญ่แค่ 4-5 รายในตลาด เพราะนอกจากจะไม่เกิดการแข่งขันที่จะนำประโยชน์มาสู่ผู้บริโภคแล้ว ก็ยังทำให้เกิดการไม่พัฒนา เนื่องจากขาดสิ่งแปลกใหม่ โดยโครงการนี้จะทำให้สตาร์ทอัพและเอสเอ็มอีไทยกลายเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นสู่การเป็นครัวโลกและเมืองนวัตกรรมอาหารได้อย่างเต็มภาคภูมิในที่สุด เพราะไม่ใช่แค่ตำแหน่งและชื่อเสียงที่จะได้รับ หากจะส่งผลให้ประเทศไทยเป็นมหาอำนาจด้านอุตสาหกรรมอาหาร และสามารถสร้างเม็ดเงินไปจนถึงการเข้ามาลงทุนจากต่างชาติให้กับประเทศได้” นางสาวรุ้งเพชรกล่าวปิดท้าย
นางภัทรา อะหมะดี พีรซะหีด ผู้อำนวยการศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมอาหารสุขภาพ วว.กล่าวเพิ่มเติมว่า วว.เป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเพื่อสนับสนุนและให้บริการ สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมอาหารมานานกว่า 30 ปี วว.วิจัยและพัฒนาด้านอาหารตั้งแต่วัตถุดิบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ส่วนผสมอาหารจากธรรมชาติ (natural functional ingredients) รวมถึงการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ทั้งในรูปแบบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Dietary supplement) ผลิตภัณฑ์อาหารเชิงหน้าที่ (Functional Foods) จนถึงการผลิตสู่เชิงพาณิชย์ ตัวอย่างเช่น การพัฒนาสารสกัดแอสตาแซนทินจากสาหร่าย ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ   
“วว.พร้อมให้การสนับสนุนผู้ประกอบการสตาร์ทอัพด้วยการให้บริการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ รวมทั้งบริการวิเคราะห์ ทดสอบ สอบเทียบ รับรองระบบคุณภาพ ตลอดจนการให้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่  โรงงานนำร่องสำหรับสายการผลิตเครื่องดื่ม โรงงานนำร่องสำหรับสายการผลิตผลไม้แช่อิ่มอบแห้ง สำหรับผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจสตาร์ทอัพหรือเอสเอ็มอีสามารถมาใช้บริการทดลองและทดสอบผลิตจริง เพื่อผลิตภัณฑ์ไปสู่เชิงพาณิชย์” นางภัทรา กล่าว
ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์รัชด ชมพูนิช รักษาการแทนคณบดี คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า โครงการประกวดนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม (Start-up Innovative F&B Products Competition) ครั้งนี้จะมีส่วนช่วยในการพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้มีความคิดเชิงนวัตกรรม กระตุ้นให้เกิดความคิดริเริ่ม ซึ่งทั้งสองปัจจัยนี้มีความสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยเป็นอย่างมาก  
การยกระดับประเทศไทยจากประเทศผู้ผลิต และให้บริการ มาสู่ประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมตามนโยบาย 4.0 ของรัฐนั้น ต้องใช้เวลาในการพัฒนาบุคลากรมากพอสมควร ซึ่งสถาบันการศึกษามีส่วนสำคัญในการค้นคว้าวิจัยให้เกิดองค์ความรู้และต่อยอดสู่ธุรกิจ โดยในอนาคต อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มจะมุ่งเน้นไปที่ การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Health and Wellbeing), การรักษาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม (Eco Living), และสังคมผู้สูงอายุ (Aging Society)โครงการประกวดนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม (Start-up Innovative F&B Products Competition)  จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้นำองค์ความรู้และนวัตกรรมใหม่ ๆ มาเผยแพร่สู่สังคมให้เกิดประโยชน์ ต่อยอดสู่การนำไปใช้จริงให้เกิดมูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐกิจ” ผู้ช่วยศาสตราจารย์รัชดกล่าว
     โครงการประกวดนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม (Start-up Innovative F&B Products Competition) เปิดรับสมัครสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอีไทยแล้ววันนี้และจะหมดเขตรับสมัครในวันที่ 15 สิงหาคม 2560 โดยจะมีการประกาศผลผู้ชนะเลิศวันที่ 14 กันยายน 2560 ภายในงานฟู้ดอินกรีเดียนท์เอเชีย 2017 ผู้ที่สนใจสามารถทำการสมัครหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-642-6911 ต่อ 515 และ www.fiasia.com