ADS


Breaking News

แสนสิริเปิดแผนธุรกิจ “Sansiri Transformation” สู่การขับเคลื่อนองค์กรครั้งใหญ่ ผนึกแผนครึ่งหลังเปิดอีก 16 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 39,260 ลบ.

พร้อมโชว์ผลงานครึ่งปีแรกกวาดยอดขายกว่า 15,000 ลบ. เติบโตเกือบ 20%
เผยตลาดต่างชาติตอบรับดี สร้างยอดขายทะลุ 3,700 ล้านบาท
     แสนสิริ เปิดแผนธุรกิจ  “Sansiri Transformation กลยุทธ์ขับเคลื่อนองค์กรครั้งใหญ่ ภายใต้ 4 ด้านหลัก ได้แก่ การบริหารการเงิน - การบริหารการพัฒนาโครงการ –การบริหารกลยุทธ์การตลาด และการบริหารด้านเทคโนโลยี ก้าวสู่การเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำด้านเทคโนโลยีที่ครอบคลุมทุกแง่มุมของอสังหาริมทรัพย์และการอยู่อาศัย พร้อมเตรียมเปิดตัวอีก 16 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 39,260 ล้านบาท มุ่งสานต่อพัฒนาโครงการร่วมทุนกับบีทีเอส พร้อมเล็งหาพันธมิตรทางธุรกิจเพิ่มเติม - รุกตลาดต่างชาติต่อเนื่อง – เปิดตัว “บ้านแสนสิริ” super hi-end ของแบรนด์บ้านเดี่ยวในไตรมาส 4 - ลุยปั้นแบรนด์ “HAUS” หลังลูกค้าตอบรับดี และเดินหน้าส่งมอบนวัตกรรมเพื่อที่อยู่อาศัยใหม่ๆ เตรียมเปิดตัวผลงาน PropTech ชิ้นแรกเร็วๆ นี้ ขณะที่ผลประกอบการครึ่งแรกปี 2560 แข็งแกร่งน่าพอใจ ด้วยยอดขายรวมกว่า  15,000  ล้านบาท เติบโตเกือบ 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ยอดขายตลาดต่างชาติโตต่อเนื่องกว่า 3,700 ล้านบาท มั่นใจสามารถบรรลุเป้าหมายยอดขายรวมทั้งปีที่ 36,000 ล้านบาทที่วางไว้ในปีนี้
      นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา แสนสิริมีผลประกอบการที่น่าพึงพอใจ ด้วยยอดขายรวมประมาณ 15,000  ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วกว่า 20% และคิดเป็นกว่า 42% ของเป้าหมายยอดขายรวม 36,000 ล้านบาทที่ตั้งไว้ในปีนี้ สำหรับตลาดต่างชาติซึ่งเป็นตลาดสำคัญก็มียอดขายไปถึงประมาณ 3,700  ล้านบาท คิดเป็น 46% ของเป้าหมายยอดขายตลาดต่างชาติที่วางไว้ 8,000 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเติบโตตามเป้าหมาย โดยในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจะเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่อีกประมาณ 16 โครงการ มูลค่ารวม 39,260 ล้านบาท พร้อมเปิดแผนธุรกิจ “Sansiri Transformationสู่การขับเคลื่อนองค์กรครั้งใหญ่ โดยมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่วางไว้ นอกจากนี้ในปัจจุบัน แสนสิริยังมี Presale backlog หรือยอดขายรอรับรู้รายได้รวมทั้งหมดถึง 37,500 ล้านบาท ซึ่งสามารถรองรับการรับรู้รายได้ไปถึงอีก 4 ปีข้างหน้า

 

     “ไฮไลต์สำคัญของการดำเนินธุรกิจของแสนสิริในครึ่งปีหลังคือการเดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรตามกลยุทธ์ Sansiri Transformation หรือการรุกปรับองค์กรอย่างเต็มรูปแบบใน 4 ด้านเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง โดยมีการจัดทัพทีมผู้บริหารที่มากประสบการณ์ในแต่ละด้าน ที่จะมาช่วยบริหารสู่การเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำด้านเทคโนโลยีที่ครอบคลุมทุกมิติของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการอยู่อาศัยอย่างเต็มรูปแบบ” นายอภิชาติกล่าว

     สำหรับกลยุทธ์ที่สำคัญ Sansiri Transformation มุ่งเน้นใน 4 ด้าน คือ การบริหารการเงิน - การบริหารการพัฒนาโครงการ –การบริหารกลยุทธ์การตลาด และการบริหารด้านเทคโนโลยี
          Financial Transformation การบริหารด้านการเงิน นำโดยคุณวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ (Chief Financial Officer) หนึ่งในผู้บริหารที่ร่วมก่อตั้งบริษัทแสนสิริ
•          Project Transformationการบริหารการพัฒนาโครงการทั้งปัจจุบันและในอนาคต นำโดย  คุณอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฎิบัติการ (Chief Operating Officer)
Marketing Transformationการบริหารด้านกลยุทธ์การตลาด เพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ตรงกลุ่มและหลากหลายมากขึ้น นำโดยคุณอรุณภรณ์ ลิ่มสกุล รองกรรมการผู้จัดการสายงานการตลาด (Executive Vice President - Marketing Division)
•          Technology Transformationการบริหารด้านเทคโนโลยีเพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำด้านเทคโนโลยีที่ครอบคลุมอสังหาริมทรัพย์และการอยู่อาศัยอย่างเต็มรูปแบบ นำโดย ดร. ทวิชา ตระกูลยิ่งยง ประธานผู้บริหารสายงานเทคโนโลยีและวิเคราะห์ข้อมูล (Chief Technology Officer)
     นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ (Chief Operating Officer) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2560 เรามีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 19 โครงการ มูลค่ารวม 44,460 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 9 โครงการมูลค่ารวม 19,400 ล้านบาท โครงการคอนโดมิเนียม 8 โครงการ มูลค่ารวม 24,200 ล้านบาท และโครงการทาวน์เฮ้าส์ 2 โครงการ มูลค่า 860 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกแสนสิริได้พัฒนาไปแล้ว 3 โครงการ ส่งผลให้มียอดขาย (พรีเซลล์) รวมในช่วงครึ่งปีแรกประมาณ 15,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 42% จากเป้าหมายยอดขายรวม 36,000 ล้านบาทที่ตั้งไว้ในปีนี้แม้จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ค่อนข้างน้อยซึ่งแสดงถึงความสำเร็จจากการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจะเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่อีกประมาณ  16 โครงการ มูลค่ารวม 39,260 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 7 โครงการ มูลค่า 22,350 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 8 โครงการ มูลค่า 16,150 ล้านบาท และทาวน์เฮาส์ 1 โครงการ มูลค่า 760 ล้านบาท
     นอกจากการพัฒนาโครงการใหม่ ปัจจัยที่ทำให้ยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกประสบความสำเร็จตามที่คาดหวัง ยังมาจากการรุกตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งปีแรก สามารถทำยอดขายได้ถึง 3,700 ล้านบาท คิดเป็น 46% ของเป้ายอดขายต่างชาติที่วางไว้เป็น 8,000 ล้านบาท โดยโครงการที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติมากที่สุด ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียมภายใต้ความร่วมมือระหว่างแสนสิริและบีทีเอส “แบรนด์ เดอะ ไลน์” โครงการเดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101 โครงการ และเดอะ ไลน์ พหลฯ – ประดิพัทธ์ รวมถึงโครงการเดอะ เบส พัทยากลาง ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าชาวฮ่องกงและ จีน ลูกค้าชาวสิงคโปร์ และลูกค้าชาวไต้หวัน อีกปัจจัยที่สำคัญคือ การเปิดตัวโครงการ 98 WIRELESS มูลค่าโครงการรวม 8,700 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นแฟล็กชิพคอนโดมิเนียมของแสนสิริที่เปิดการขายอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 60% รวมถึงโครงการคอนโดมิเนียมใน Affordable Segment ที่มียอดขายเพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อน โดยสามารถปิดการขายโครงการคอนโดมิเนียม “ดีคอนโด” ได้ทั้งหมด 4 โครงการ ได้แก่ ดีคอนโด นิม เชียงใหม่, ดีคอนโด อ่อนนุช-พระราม 9, ดีคอนโด กาญจนวณิช และ ดีคอนโด กะทู้-ป่าตอง นอกจากนี้ยังสามารถปิดการขายโครงการคอนโดมิเนียมเดอะ เบส เซ็นทรัล พัทยา และบ้านเคียงฟ้า หัวหิน ในตลาดต่างจังหวัดอีกด้วย
     ทั้งนี้ แนวทางสำคัญในการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบด้วย
1. การสานต่อความสำเร็จของโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส ด้วยการเดินหน้าตามแผนการเปิดโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอสในระยะยาว โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาพัฒนาไปแล้ว 8 โครงการ มูลค่ารวม 30,000 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกนี้เปิดเพิ่มอีก 1 โครงการ ได้แก่เดอะ เบส เพชรเกษม มูลค่าโครงการ 1,900 ล้านบาท และในช่วงครึ่งปีหลังนั้นมีแผนจะเปิดเพิ่มอีก 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 10,000 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังมองหาพันธมิตรธุรกิจเพิ่มเติม เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจในอนาคตอีกด้วย

 

2.การรุกตลาดระดับบน โดยเล็งเปิดตัว “บ้านแสนสิริ ซึ่งเป็นโครงการระดับ super hi-end ของแบรนด์บ้านเดี่ยวในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ หลังจากที่เคยประสบความสำเร็จจากโครงการ “บ้านแสนสิริ สุขุมวิท 67” ในปี 2549

3.การเดินหน้าบุกตลาดต่างประเทศอย่างเต็มพิกัด เพื่อรักษาความเป็นผู้นำบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไทยที่ลูกค้าต่างชาติให้การไว้วางใจจนครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดเป็นปีที่ 4 โดยช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา สามารถสร้างยอดขายได้แล้วถึง 3,700 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถบรรลุเป้ายอดขายตลาดต่างชาติในปีนี้ที่ตั้งไว้ 8,000 ล้านบาทในช่วงครึ่งปีหลัง

4. ต่อยอดการพัฒนาคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “HAUS ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ท ที่มีส่วนกลางเป็นสวนขนาดใหญ่ ท่ามกลางธรรมชาติ ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จไปแล้ว 2 โครงการ คือ ฮาสุ เฮาส์  (Hasu HAUS) โครงการแรก ตามด้วย โมริ เฮาส์ (Mori HAUS) ซึ่งเป็นโครงการที่ 2 ที่สามารถตอบไลฟ์สไตล์ลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ชิดธรรมชาติกลางเมืองใหญ่ โดยกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์  HAUS นั้น ส่วนใหญ่จะซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง รวมถึงทั้ง 2 โครงการที่เปิดขายยังมีชาวญี่ปุ่นให้ความสนใจจำนวนมาก

 
5.การเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ด้าน Property Technology อย่างเต็มรูปแบบเป็นรายแรกของไทย โดยในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะได้เห็นการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยี    ใหม่ๆ เข้ามาใช้ ทั้งในการดำเนินธุรกิจ การพัฒนาโครงการและบริการใหม่ ๆ สำหรับลูกค้า อาทิ “Delivery Robot” หุ่นยนต์ที่สามารถส่งอาหารหรือสิ่งของถึงหน้าประตูห้องของลูกบ้าน โดยวางแผนนำร่องใช้ในโครงการ เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า เป็นโครงการแรก ในช่วงปลายปีนี้
     “ทั้งนี้จากผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของบริษัทที่เติบโตขึ้นเกือบ 20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ผนวกกับภาพรวมแผนธุรกิจของ แสนสิริในการก้าวสู่ Sansiri Transformation อย่างเต็มรูปแบบโดยทีมผู้บริหารที่แข็งแกร่ง รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ที่เกื้อหนุนต่อการเติบโตขององค์กร แสนสิริจึงมั่นใจกว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้สำหรับปีนี้คือ 36,000 ล้านบาทได้อย่างแน่นอนนายอภิชาติ กล่าวปิดท้าย
เกี่ยวกับ Sansiri Transformation 2017


1. Financial Transformation - การบริหารด้านการเงิน
  • ผู้บริหารที่จะดูแลในส่วนนี้คือ คุณวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ (Chief Financial Officer) หนึ่งในผู้บริหารที่ร่วมก่อตั้งบริษัทแสนสิริ
  • ล่าสุดในการใช้ dashboard ที่สามารถเรียกดูข้อมูลตัวเลขในการพัฒนาโครงการต่างๆ ได้ทันที เพื่อให้สามารถ Monitor และควบคุมด้านการเงินได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ รวมทั้งยังมุ่งเน้นการบริหารด้านการเงินเชิงลึกในทุกรายละเอียด ทั้งด้าน Financial growth ของแสนสิริโดยเฉพาะ ด้านการการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ รายได้ รวมถึงการลดสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย เพิ่มยอดโอนและเน้นการสร้างกำไรเพิ่มขึ้น ต่อยอดจากนโยบาย EFG หรือ Engineering for Growth ที่แสนสิริทำต่อเนื่องตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา รวมถึงด้านหุ้น การจัดโรดโชว์ในต่างประเทศ การจัดสรรงบประมาณในส่วนต่างๆ ฯลฯ เพื่อให้บริษัทเติบโตอย่างยั่งยืนและมีความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างทางการเงิน


2. Project Transformation - การบริหารการพัฒนาโครงการ
  • ผู้บริหารที่จะดูแลในส่วนนี้คือ คุณอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฎิบัติการ (Chief Operating Officer) ที่มีประสบการณ์พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวสูงและแนวราบกับแสนสิริมากว่า 22 ปี
  • มุ่งดูแลในด้านการพัฒนาโครงการทั้งโครงการใหม่และโครงการเก่า ที่มีอยู่ในปัจจุบันทั่วประเทศ รวมถึงการมองหาโอกาส/นวัตกรรมทางธุรกิจและกระบวนการธุรกิจใหม่ๆ ที่มีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัทแสนสิริ และจะมีส่วนช่วยผลักดันธุรกิจหลักของแสนสิริให้มีประสิทธิภาพและมีความคล่องตัวยิ่งขึ้น อย่างเช่นการลงทุนใน PropTech เป็นต้น เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของบริษัทรวมทั้งสอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละเซ็กเมนต์ที่แตกต่างกัน (Customer-insights) เติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบให้แก่ลูกบ้านแสนสิริทุกคน


3. Marketing Transformation – การบริหารกลยุทธ์การตลาด
  • ผู้บริหารที่จะดูแลในส่วนนี้คือ คุณอรุณภรณ์ ลิ่มสกุล รองกรรมการผู้จัดการสายงานการตลาด(Executive Vice President – Marketing Division)
  • นอกจากการรักษาตำแหน่งการเป็น Market Shaper ในตลาดแล้ว แสนสิริจะปรับแผนการตลาดโดยมุ่งเน้นกลยุทธ์ของแสนสิริ เริ่มต้นด้วยการใช้กลยุทธ์ Customer Living Experience มอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าแสนสิริ โดยการทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับมุมมองด้านไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้า (customer-centric) และแบ่งแยก Segmentation ของลูกค้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น รวมทั้งเน้นการใช้สื่อดิจิทัลในการสื่อสารกับลูกค้า ทำให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ตรงกลุ่มและหลากหลายมากขึ้น ทั้งผู้บริโภคในไทยและต่างประเทศ เพื่อปูแผนกลยุทธ์การตลาดของแสนสิริให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและโดดเด่นเหนือกว่าผู้เล่นรายอื่นใน แวดวงอสังหาริมทรัพย์


4. Technology Transformation – การบริหารด้านเทคโนโลยีดิจิทัล
  • ผู้บริหารที่จะดูแลในส่วนนี้คือ ดร. ทวิชา ตระกูลยิ่งยง ประธานผู้บริหารสายงานเทคโนโลยีและวิเคราะห์ข้อมูล  (Chief Technology Officer)
     ด้วยไลฟ์สไตล์ลูกค้าที่เปลี่ยนไปสู่ยุค Digital Lifestyle แสนสิริจึงมีการต่อยอดในการสร้างความเข้าใจลูกค้าด้านข้อมูลในเชิงรุก รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้สร้างจุดขายและสร้างความแตกต่างในตลาดอสังหาริมทรัพย์ เพื่อยกระดับแสนสิริสู่การเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำด้านเทคโนโลยีที่คลอบคลุมอสังหาริมทรัพย์และการอยู่อาศัยอย่างเต็มรูปแบบ