เบรกเกอร์ชู “ฮอร์นบิล” เรือธงลุยตลาดแฟชั่น ปั้นแบรนด์ลบภาพรองเท้านักเรียนจับวัยรุ่น
“เบรกเกอร์”รุกตลาดรองเท้าแฟชั่น มองตลาดแฟชั่นมีศักยภาพในการเติบโตสูง ขณะที่ตลาดรองเท้านักเรียนมีข้อจำกัดในการทำตลาดมากกว่า ล่าสุดเตรียมเปิดตัวรองเท้าคอลเล็กชั่นใหม่ “Breaker Hornbill (เบรกเกอร์ ฮอร์นบิล)” เพื่อเป็นสินค้าเรือธงรุ่นใหม่ของแบรนด์ ที่นอกจากจะช่วยขยายฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่ ยังเป็นการต่อยอดภาพลักษณ์ใหม่ของเบรกเกอร์สู่การเป็นแบรนด์รองเท้าแฟชั่นไลฟสไตล์ พร้อมชูจุดเด่นเรื่องดีไซน์ และเดินกลยุทธ์ผ่านกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม
นายสมฤกษ์ วงศ์วีระนนท์ชัย กรรมการผู้บริหาร บริษัท เอส.ซี.เอส สปอร์ตสแวร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรองเท้า “เบรกเกอร์” เปิดเผยว่า เบรกเกอร์มีแผนที่จะรุกตลาดในกลุ่มรองเท้าแฟชั่นและไลฟสไตล์มากขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้มีสินค้าเฉพาะในกลุ่มรองเท้านักเรียนและรองเท้ากีฬา เนื่องจากมองเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของตลาดที่มีอยู่ค่อนข้างมาก แม้การแข่งขันจะค่อนข้างสูงก็ตาม โดยจากการเริ่มต้นเข้าสู่ตลาดนี้เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาได้รับกระแสตอบรับที่ดี จึงมีแนวคิดที่จะเข้ามาทำตลาดอย่างจริงจัง
สำหรับการเข้ามาทดลองตลาดรองเท้าแฟชั่นของเบรกเกอร์ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา เป็นการร่วมงานกับพรีเซนเตอร์คนดัง คือ โจอี้ บอย โดยใช้ชื่อรองเท้ารุ่นพิเศษนี้ว่า “เบรกเกอร์เจ” เป็นการผลิตที่มีจำนวนจำกัดเพียง 500 คู่ ซึ่งในช่วงเปิดตัวเบรกเกอร์เจมีกระแสตอบรับดีมาก มีการจองซื้อทางออนไลน์และจำหน่ายหมดภายในเวลาไม่ถึง 5 นาที ซึ่งเป็นผลมาจากดีไซน์และคุณภาพที่โดนใจกลุ่มเป้าหมาย ในราคาที่เข้าถึงได้ อีกทั้งรายได้จากการจำหน่ายรองเท้ารุ่น “เบรกเกอร์เจ” ทั้งหมดยังได้นำไปมอบให้มูลนิธิชัยพัฒนาเพื่อนำไปใช้ในโครงการเพื่อป่าไม้และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ล่าสุด เพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จของการขยายฐานลูกค้าและการเดินหน้ากลยุทธ์ปั้นแบรนด์เบรกเกอร์มาสู่กลุ่มรองเท้าแฟชั่นมากขึ้น บริษัทได้เปิดตัวรองเท้ารุ่นใหม่ในชื่อคอลเลคชั่น “เบรกเกอร์ ฮอร์นบิล” ภายใต้แนวคิดที่ต้องการผูกโยงสินค้ากับพันธกิจอีกด้านของแบรนด์ในเรื่องของกิจกรรมเพื่อสังคม หรือ ซีเอสอาร์ โดยมีแนวคิด ในการปลูกฝังให้คนรุ่นใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยเลือกเรื่องของการปลูกป่าเป็นธีมหลัก จึงเป็นที่มาของชื่อรุ่น เบรกเกอร์ ฮอร์นบิล ที่แปลว่า นกเงือก เพราะนกเงือกถือ เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ของป่า เรียกว่านกเงือกกับป่าเป็นสิ่งที่อยู่คู่กัน หากไม่มีป่าก็ไม่มีนกเงือก อีกทั้งปัจจุบันนกเงือกก็มีจำนวนเหลือน้อยมาก ดังนั้น หากอยากให้นกเงือกกลับมาป่าก็ต้องสมบูรณ์ก่อน
“ในปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่ารองเท้าผ้าใบแฟชั่นเป็นที่นิยมมากในทุกช่วงวัยและทุกไลฟสไตล์ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น และคนกลุ่มนี้ก็มีความคุ้นเคยกับแบรนด์เบรกเกอร์มาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของการขยายกลุ่มลูกค้าและเพิ่มไลน์สินค้าของกลุ่มรองเท้าผ้าใบแฟชั่นเข้ามา โดยกลยุทธ์การตลาดจะเน้นการขยายการรับรู้ควบคู่ไปกับการริเริ่มทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อโลกและสังคม โดยเน้นเรื่องของสิ่งแวดล้อมและป่าไม้เป็นธีมหลัก ซึ่งได้มีการวางแนวทางการทำกิจกรรมด้านการปลูกป่าแบบยั่งยืนภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรสำคัญคือ มูลนิธิราชพฤกษ์ ที่มีความเชี่ยวชาญและทำงานด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าไม้มาอย่างยาวนาน โดยทุกๆ กิจกรรมที่ทำจะเน้นการมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้เกิดประสบการณ์และความเข้าใจเกี่ยวกับการฟื้นฟูป่าไม้ที่ถูกต้อง”
นายสมฤกษ์กล่าวต่อว่า การขยายกลุ่มลูกค้าจากกลุ่มนักเรียนมาสู่กลุ่มวัยรุ่นและคนทำงานรุ่นใหม่ เนื่องจากตลาดรองเท้านักเรียนเป็นสินค้าที่ขายได้เฉพาะฤดูกาล หรือช่วงเปิดเทอมใหญ่ประมาณ 2 เดือน ในขณะที่โอกาส การเติบโตของตลาดรองเท้าแฟชั่นนั้นมีสูงกว่า เนื่องจากตลาดกว้างกว่าหลายเท่าตัว ข้อจำกัดในการทำตลาดน้อยสามารถพัฒนาและใส่นวัตกรรมให้กับสินค้าได้อย่างไม่มีข้อจำกัด และแม้การแข่งขันจะสูงมาก แต่พฤติกรรมของ คนรุ่นใหม่จะให้ความสำคัญกับการแต่งตัว มีการใช้จ่ายในเรื่องของเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายค่อนข้างสูง ส่งให้ผลให้โอกาสในการแข็งขันของเบรกเกอร์มีความเป็นไปได้อย่างแน่นอน
“สิ่งแรกที่เราต้องสร้างคือ จุดยืนของแบรนด์ และตำแหน่งของแบรนด์ให้ชัดเจนก่อน เราต้องการทำให้ เบรกเกอร์ไม่ติดภาพของแบรนด์รองเท้านักเรียน จึงนำแบรนด์นี้มาทำเป็นรองเท้าแฟชั่น รองเท้าลำลอง ซึ่งเดิม เบรกเกอร์มีรองเท้ากีฬาอยู่แล้วด้วย”
นายสมฤกษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า เบรกเกอร์ได้วางกลยุทธ์ให้รองเท้ารุ่น เบรกเกอร์ ฮอร์นบิล เป็นสินค้าหลักในการทำตลาดกลุ่มรองเท้าแฟชั่น โดยผูกโยงกับกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งในรุ่นแรกได้มีการเปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยเป็นรุ่นพิเศษที่ทำออกมาเพียง 40 คู่เพื่อมอบให้กับทีมอาสาสมัครจากเบรกเกอร์แฟนเพจ ที่เข้าร่วมกิจกรรม Breaker Save Rainforest ซึ่งเป็นกิจกรรมปลูกป่าและฟื้นฟูป่าร่วมกับมูลนิธิราชพฤกษ์ที่ศูนย์พัฒนา โครงการหลวงหนองหอย อ.ม่อนแจ่ม และ ม่อนล่อง จ.เชียงใหม่ โดยจะเป็นรองเท้าผ้าใบสีขาวที่มีลายปักรูปนกเงือก สีเขียว และล่าสุดได้เตรียมเปิดตัวรองเท้าเบรกเกอร์ ฮอร์นบิล รุ่นที่ 2 ที่จะมีให้เลือกด้วยกันถึง 2 สี คือ สีขาวและสีเทา จำหน่ายในราคาคู่ละ 495 บาท โดยรุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่เปิดตัวเพื่อทำตลาดอย่างจริงจัง โดยตามแผนงานในปีนี้จะออกสินค้ามาทำตลาดรวม 3-4 รุ่น ส่วนการใช้สื่อโฆษณาก็จะเน้นไปที่สื่อออนไลน์เป็นหลัก เพื่อให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย คนรุ่นใหม่ ซึ่งได้วางงบประมาณไว้ 10 ล้านบาทในปีนี้ ขณะที่ในปีที่ผ่านมา เบรกเกอร์มียอดขายเพิ่มขึ้น 13%
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการผลิตรองเท้านักเรียนและรองเท้าแฟชั่นมีข้อแตกต่างกันพอสมควร เพราะรองเท้าแฟชั่นจะไม่ใช่การผลิตแบบซ้ำๆ เดิมๆ ต้องดีไซน์ใหม่เข้ามาตลอดเวลา มีการเปลี่ยนแปลงตามกระแสนิยมอย่างรวดเร็ว ต้องนำเรื่องการออกแบบมาผสมกับฟังก์ชั่นการใช้งานควบคู่กับความสวยงาม
ปัจจุบันตลาดรองเท้านักเรียนมีมูลค่า 5 พันล้านบาท มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 5% โดยในส่วนของ เบรกเกอร์มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 30% อยู่อันดับที่ 2-3 ในตลาด ขณะที่ตลาดรองเท้าแฟชั่นมีมูลค่าสูงกว่าแน่นอนโดยคาดว่าตัวเลขรวมน่าจะไม่น้อยกว่า 8 พันล้านบาท