“สร้าง-ซ่อม-เสริม” เมล็ดพันธุ์แห่งการเรียนรู้ เมื่ออาสาสมัคร กรุงศรี ออโต้ กลับมาเยี่ยมโรงเรียนบ้านเสลา
ตัวแทนอาสาสมัครกรุงศรี ออโต้ ชวนน้องๆ โรงเรียนบ้านเสลาอ่านหนังสือเล่มใหม่
กรุงเทพฯ, 26 มิถุนายน 2560 – มองเผินๆ แล้วตึกสีเหลืองสดใส ซึ่งคอยต้อนรับผู้คนที่ผ่านไปมาบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านเสลา อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ อาจเป็นเพียงห้องสมุดธรรมดาที่พบเห็นได้ทั่วไป แต่สำหรับเหล่านักเรียนแล้ว มันคือสถานที่ที่พวกเขาแวะมาอ่านนิทานเล่มโปรด หามุมใหม่ๆ เล่นซ่อนแอบกับเพื่อน และพักหลบฝนขณะรอคุณพ่อคุณแม่มารับ สำหรับเด็กๆ พื้นที่เพียงไม่กี่ตารางเมตรนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งจินตนาการ ความรู้ และมิตรภาพมากมายที่พร้อมจะผลิดอกออกผล
หนังสือใหม่ที่อาสาสมัครนำมามอบให้ในโครงการสร้าง ซ่อม เสริม ห้องสมุด กรุงศรี ออโต้
ห้องสมุด กรุงศรี ออโต้ แห่งที่ 1 โรงเรียนบ้านเสลา หลังการซ่อมและเสริม
ห้องสมุดโรงเรียนบ้านเสลาถือเป็นห้องสมุดแห่งแรกภายใต้โครงการ “ห้องสมุด กรุงศรี ออโต้” ซึ่งริเริ่มขึ้นในปี 2553 เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชนในพื้นที่ห่างไกล และเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เหล่าอาสาสมัครได้กลับมาที่โรงเรียนบ้านเสลาอีกครั้ง เพื่อปรับปรุงห้องสมุด ตลอดจนสนับสนุนสื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัยขึ้น
นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา โครงการฯ ได้สร้างห้องสมุดมาแล้ว 13 แห่งทั่วประเทศ พวกเรารู้สึกดีใจที่ได้เห็นห้องสมุดเหล่านี้เป็นทั้งคลังความรู้ สถานที่จัดกิจกรรมและต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ของเด็กๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ห้องสมุดก็ทรุดโทรมลง และความรู้ก็เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา อาสาสมัครกรุงศรี ออโต้ รวมถึงเครือข่ายดีลเลอร์รถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ในแต่ละภูมิภาค จึงได้กลับมาพัฒนาห้องสมุดของโครงการฯ ภายใต้แนวคิด ‘สร้าง-ซ่อม-เสริม’ และได้ตอบแทนท้องถิ่นของตนอีกครั้ง โดยเริ่มจากโรงเรียนบ้านเสลาเป็นที่แรก”
นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
นางสาวสิริพร ศุภรัชตการ ประธานคณะกรรมการอาสาสมัคร กรุงศรี ออโต้ ประจำปี 2560 กล่าวเสริมว่า “กรุงศรี ออโต้ ให้ความสำคัญกับการให้พนักงานในทุกแผนกและทุกระดับได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ในส่วนการต่อยอดโครงการห้องสมุดกรุงศรี ออโต้ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงและยั่งยืน ซึ่งผลตอบรับจากกิจกรรมที่โรงเรียนบ้านเสลาก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีมาก โดยมีพนักงานจิตอาสากว่า 70 คนจาก 4 จังหวัดในภาคอีสานตอนล่างมาร่วมกันสร้าง ซ่อม เสริม ห้องสมุดแห่งนี้”
นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ (ขวา) มอบของที่ระลึกให้ว่าที่พันตรี มนตรี แก้วมะเริง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเสลา (ซ้าย)
ผู้ที่อยู่กับห้องสมุดแห่งนี้มาตั้งแต่วันแรกๆ และเห็นการใช้งานที่เปลี่ยนแปลงไปคงหนีไม่พ้น ว่าที่พันตรี มนตรี แก้วมะเริง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเสลา ผอ.เล่าให้ฟังว่า “ตอนที่ห้องสมุดสร้างขึ้นใหม่ๆ คุณครูเป็นฝ่ายกระตุ้นให้นักเรียนเข้ามาศึกษาค้นคว้า แต่ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เราเริ่มเห็นนักเรียนมายืมหนังสือไปอ่านเองที่บ้านมากขึ้น คุณครูเองก็ใช้พื้นที่และหนังสือในการจัดกิจกรรมนอกชั้นเรียน แม้แต่ผู้ปกครองก็ใช้เป็นที่นั่งพักและพูดคุยกันระหว่างรอรับบุตรหลาน นอกจากนี้ อัตราการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนยังเพิ่มขึ้นจาก 70% เมื่อ 7 ปีที่แล้วก่อนที่จะมีห้องสมุด เป็น 100% ในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเรามีห้องสมุดที่น่านั่งน่าใช้ และจุดประกายให้เด็กๆ รักการอ่าน ทางโรงเรียนต้องขอขอบคุณกรุงศรี ออโต้ และอาสาสมัครทุกคนที่กลับมาเยี่ยมเยียน และสนับสนุนสื่อการเรียนรู้ใหม่ๆ ให้กับโรงเรียนของเรา”
น้องเอิญ ชั้นป.2 รู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษกับการกลับมาของพี่ๆ อาสาสมัคร เพราะนั่นหมายความว่าจะมีหนังสือนิทานใหม่ๆ มากมายมาเติมเต็มห้องสมุด “หนูชอบเข้ามานั่งอ่านนิทานตอนพักกลางวัน” น้องเอิญเอ่ยขึ้นพร้อมหยิบหนังสือหลายเล่มออกมาจากชั้น เช่น สลัดผักเพื่อนรัก และปฏิบัติการดาวเนยแข็ง ก่อนจะชี้ไปที่นิทานชื่อ ดอกไม้ใจดีกับผีเสื้อขี้อ้อน “เล่มนี้หนูชอบที่สุด แต่เล่มใหม่ๆ ปกสวยมาก ไม่แน่หนูอาจจะเปลี่ยนใจ” น้องเอิญพูดเล่นอย่างอารมณ์ดี
น้องเอิญ นักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนบ้านเสลา และหนังสือเล่มโปรด
แต่สำหรับน้องคิว ชั้นป.3 ห้องสมุดมีความหมายมากกว่านั้น เพราะนี่คือสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยมุมสำหรับเล่น “ซุก” (ซ่อนแอบในภาษาท้องถิ่น) มากมาย “มีอยู่ที่หนึ่งที่ยังไม่มีใครหาเจอเลย” น้องคิวพูดอย่างภาคภูมิใจ และยืนกรานที่จะไม่บอกว่ามุมที่ว่านั้นคือตรงไหน เพราะกลัวความลับจะถูกเปิดเผย เมื่อถามว่าเขาตื่นเต้นกับหนังสือหรืออุปกรณ์การเรียนใหม่ที่พี่ๆ อาสาสมัครนำมาฝาก น้องคิวชี้ไปที่คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่เอี่ยมอย่างไม่ลังเล
สำหรับอาสาสมัครแล้ว การได้กลับมาที่โรงเรียนบ้านเสลาอีกครั้ง และเห็นว่าสิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเมื่อ 7 ปีก่อนสร้างประโยชน์ให้กับผู้คนมากมายถือเป็นความภาคภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ความสำเร็จจากหน้าที่การงาน ทั้งตัวห้องสมุดเอง หรือต้นไม้ที่ได้ช่วยกันปลูกก็ออกดอกออกผลงดงาม กล้วยเบรกแตกที่น้องๆ มอบให้เป็นของที่ระลึกก็มาจากต้นกล้วยเมื่อ 7 ปีก่อนนี้เอง
นักเรียนโรงเรียนบ้านเสลาขณะร่วมกิจกรรมซึ่งจัดโดยอาสาสมัครกรุงศรี ออโต้
เรื่องราวของโรงเรียนบ้านเสลาและอาสาสมัครกรุงศรี ออโต้ คงเปรียบได้กับเมล็ดพันธุ์เล็กๆ ที่ค่อยๆ เติบโตเป็นต้นกล้าที่แข็งแรง แต่เมื่อเวลาผ่านไปต้นไม้ได้แผ่กิ่งก้านสาขากว้างใหญ่กว่าที่เราวาดหวังไว้ อีกทั้งยังมอบอากาศบริสุทธิ์ อาหารอุดมสมบูรณ์ และร่มเงาให้สัตว์น้อยใหญ่ได้พักพิง เฉกเช่นห้องสมุด ที่วันนี้ได้กลายเป็นพื้นที่ที่เด็กๆ ได้มาเรียนรู้ เล่นกับเพื่อนๆ พักผ่อนหย่อนใจและเติบโตไปพร้อมกัน
นักเรียนโรงเรียบ้านเสลาและอาสาสมัครกรุงศรี ออโต้
###
ประสบการณ์ใหม่กับ กรุงศรี ออโต้
“กรุงศรี ออโต้” ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ เครือกรุงศรี ให้บริการสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร ได้แก่ สินเชื่อเพื่อคนมีรถ “คาร์ ฟอร์ แคช” สินเชื่อรถบ้าน ”กรุงศรี รถบ้าน” สินเชื่อรถใหม่ “กรุงศรี นิว คาร์” สินเชื่อรถเต็นท์ “กรุงศรี ยูสด์ คาร์” สินเชื่อรถบรรทุกใหม่ “กรุงศรี ทรัค” สินเชื่อซื้อรถยนต์ไว้ใช้ในกิจการ “กรุงศรี ฟลีท แอนด์ ลีสซิ่ง” ซึ่งให้บริการโดยกลุ่มงานธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สินเชื่อรถจักรยานยนต์ “กรุงศรี มอเตอร์ไซค์” สินเชื่อบิ๊ก ไบค์ “กรุงศรี บิ๊ก ไบค์” สินเชื่อบิ๊ก ไบค์ มือสอง “กรุงศรี ยูสด์ บิ๊ก ไบค์” และสินเชื่อผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ “กรุงศรี อินเวนทอรี่ ไฟแนนซ์” ซึ่งให้บริการโดยบริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน)