ADS


Breaking News

ฮอลิเดย์ อินน์ เผยผลสำรวจ“ผู้คนทำงานเยอะและมีเวลาเล่นน้อยเกินไปในช่วงวันหยุด”

ผลสำรวจล่าสุดเผยผลกระทบจากการทำงานในช่วงวันหยุดของครอบครัว
และเหตุผลว่าทำไมทุกคนควรทำอะไรที่รักให้มากขึ้นในช่วงวันหยุด
  • มากกว่าครึ่งของคนที่เดินทางในวันหยุดมีเป็นบางครั้งหรือหลายๆ ครั้งที่ต้องทำงานไปด้วย
  • มากกว่าครึ่งของคนกลุ่มนี้ จำเป็นต้องยกเลิกหรือเลื่อนทริปซึ่งมีสาเหตุจากงาน
  • มีเพียง 1 ใน 10 ของผู้คนที่ถูกสำรวจที่สามารถ “ปิดตัวเอง” จากการทำงานได้อย่างเต็มที่ในช่วงวันหยุด และจำไม่ได้แล้วว่าเคยมีวันหยุดที่ไม่มีงานเข้ามาขัดจังหวะ
     หลายคนใช้เวลาในช่วงวันหยุดไปกับการทำงานแทนที่จะไปพักผ่อนกับคนในครอบครัว นี่คือผลการสำรวจที่ “ฮอลิเดย์อินน์” ได้ค้นพบ โดยจากการสำรวจครั้งสำคัญครั้งนี้ ฮอลิเดย์อินน์พบว่ามีคนเพียง 1 ใน 10 คนเท่านั้นที่สามารถ “ปิดตัวเอง” จากการทำงานในช่วงวันหยุด และมีคนอีกเป็นจำนวนมากที่จำไม่ได้แล้วว่า เคยมีวันหยุดที่ไม่มีงานเข้ามาขัดจังหวะ


     การสำรวจชุด “ทำในสิ่งที่รักให้มากขึ้น” (Do More of What You Love) ของโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เป็นการรวบรวมข้อมูลเชิงลึกจากนักเดินทางทั่วภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เพื่อสำรวจว่าแขกผู้เข้าพักชอบทำอะไรและชอบดูอะไรในระหว่างวันหยุดพักผ่อนกับเพื่อนๆ หรือคนในครอบครัว ผลการสำรวจระบุว่า ในโลกที่ทุกอย่าง “ไม่เคยหยุดนิ่งและเชื่อมต่อตลอดเวลา” ของนักเดินทางยุคปัจจุบัน พวกเขาพบว่าเป็นเรื่องที่ยากและท้าทายมากที่จะตัดตนเองออกจากการทำงานได้อย่างแท้จริง


     มากกว่าครึ่ง (56%) ของนักเดินทางในการสำรวจครั้งนี้บอกว่า บางครั้งหรือหลายๆ ครั้งที่พวกเขาต้องทำงานในช่วงที่เดินทางไปพักผ่อนในวันหยุด และมากกว่า 55% ของคนกลุ่มนี้บอกว่าเคยต้องยกเลิกหรือเลื่อนทริปออกไปเพราะมีงานเร่งด่วนในนาทีสุดท้ายเข้ามาให้ต้องรับผิดชอบ


     กลุ่มผู้ถูกสำรวจในการสำรวจครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง มีลูกแล้วหรือยังไม่มี ต่างก็ตอบออกมาตรงกันว่าการหยุดพักผ่อนอย่างสบายนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำให้สำเร็จ:


  • ผู้ชาย (จำนวน 57%) มากกว่าผู้หญิง (42%) ที่บ่อยครั้งต้องทำงานในวันหยุด
  • ผู้ชายมากกว่าผู้หญิงที่ตอบแบบสำรวจ (56% และ 43% ตามลำดับ) เผยว่าพวกเขาจำเป็นต้องยกเลิกหรือเลื่อนทริปออกไปเพราะมีงานด่วนเข้ามากะทันหัน
  • ในกลุ่มคนที่ต้องยกเลิกหรือเลื่อนทริปเนื่องจากติดงานนั้น กลุ่มที่ไม่มีลูกคือกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด (63%)


     นักเดินทางบางส่วนพยายามค้นหาหนทางที่จะทำให้สามารถทำงานได้ในช่วงวันหยุด โดยเกือบ 1 ใน 3 (30%) บอกว่าพวกเขาเช็คอีเมล์และข้อความเกี่ยวกับงานเฉพาะช่วงเวลาที่ลูกหลับ นอกจากนี้การสำรวจยังพบอีกว่า ผู้หญิง (61%) มีระเบียบแบบแผนมากกว่าผู้ชาย (38%) ในประเด็นนี้


     สำหรับการเปรียบเทียบผลสำรวจในภูมิภาคต่างๆ พบว่าผู้ถูกสำรวจที่มีลูกจากญี่ปุ่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอินเดีย ได้คะแนนสูงกว่าภูมิภาคอื่นๆ ตรงที่จะเช็คงานเฉพาะในช่วงที่ลูกๆ หลับ ในขณะที่กลุ่มที่มาจากตะวันออกกลางอยู่ในกลุ่มที่ได้คะแนนต่ำที่สุดในเรื่องนี้ กล่าวคือมีจำนวนเกือบครึ่ง (47%) ที่เผยว่าต้องยกเลิกหรือเลื่อนทริปของครอบครัวไปเลยเพราะเรื่องงาน


     มร.ลี หลิน เตียว ผู้อำนวยการฝ่ายการจัดการแบรนด์ ฮอลิเดย์ อินน์ ภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา อินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ลส์ กรุ๊ป (ไอเอชจี) กล่าวว่า “แม้ว่าจะมีนักเดินทางจำนวนมากยอมรับว่า งานเข้ามารุกล้ำช่วงเวลาของวันหยุด แต่ผลสำรวจที่เราค้นพบนี้ก็ยังบอกเราด้วยเช่นกันว่า มีนักเดินทางอีกกลุ่มที่พบหนทางในการปิดตนเองได้ และเปิดโอกาสให้ตนเองได้พักผ่อนและสนุกกับวันหยุดอย่างเต็มที่”


    “สำหรับฮอลิเดย์ อินน์ เราต้องการนำความสุขในการเดินทาง ความรู้สึกพิเศษของการได้ทำในสิ่งที่รักให้มากขึ้นกับคนที่คุณรักที่สุด โดยเฉพาะคนในครอบครัว กลับมาให้คุณอีกครั้ง”
     สำหรับนักเดินทางรุ่นเล็กทั่วทั้งภูมิภาคที่ได้รับการสำรวจนั้นหลายคนกล่าวว่า เห็นพ่อและแม่ของตัวเองทำงานในช่วงวันหยุดพักผ่อนมากกว่าที่จะใช้เวลาอย่างมีคุณภาพกับพวกเขา ในความเป็นจริง มากกว่า 1 ใน 10 ที่บอกว่า ผู้ปกครองของพวกเขานั้นทำงานในช่วงวันหยุดอยู่เสมอ ข้อมูลนี้ถือว่าน่านำไปขบคิดต่อหากพิจารณาว่าเกือบ 1 ใน 4 (23%) ของเด็กๆ บอกว่ารู้สึกเสียใจที่เห็นพ่อแม่ต้องทำงานในช่วงวันหยุด และบอกว่าพวกเขาเพียงต้องการใช้เวลาร่วมกันหรือเล่นด้วยกันกับพ่อแม่มากกว่า


     “โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์มีจุดยืนสำคัญเรื่องการนำเสนอความสนุกสนานและบรรยากาศที่เหมาะกับการพักผ่อนช่วงวันหยุดสำหรับครอบครัว เพื่อช่วยสลายความเครียดให้กับแขกผู้เข้าพักในช่วงหยุดพักผ่อน เพราะเรารู้ดีว่านั่นคือสิ่งทื่แขกของเราต้องการ”


     “เราเป็นเครือโรงแรมแบรนด์แรกในโลกที่ให้ความสำคัญกับการพักผ่อนอย่างไม่ต้องมีความวุ่นวายใดๆ มารบกวน ด้วยแพ็คเกจ “Kids Stay and Eat Free” และสำหรับช่วงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการทำงานช่วงวันหยุดได้ ห้อง Kids Club และห้อง KidSuite® จะช่วยให้แขกผู้เข้าพักตัวน้อยสามารถมีความสุขและสนุกสนานไปกับทุกอย่างในห้องจนกว่าจะถึงช่วงเวลาที่ทั้งครอบครัวจะได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อไปเล่นน้ำทะเลด้วยกันหรือไปทำกิจกรรมอื่นๆ ร่วมกัน” มร.ลี หลิน เตียว กล่าวเพิ่มเติม


     ทั้งนี้ในประเทศไทย เครือฮอลิเดย์อินน์ โฮเท็ลส์ แอนด์ รีสอร์ตส มีโรงแรมจำนวน 7 แห่ง ฮอลิเดย์อินน์มีโรงแรมและรีสอร์ทเปิดให้บริการทั้งสิ้นเกือบ 1,200 แห่ง และมีอีก 260 แห่งที่จะเปิดให้บริการในช่วงเวลา    3-5 ปีจากนี้
***********************


เกี่ยวกับการสำรวจ: การสำรวจชุด “ทำในสิ่งที่รักให้มากขึ้น” ของโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์จัดทำขึ้นในช่วงเดือนเมษายน – กรกฎาคม 2559 ผ่านทางเว็บไซต์ SoGoSurvey.com มีผู้เข้ามาตอบแบบสำรวจทั้งหมด 521 คน ทั้งจากออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ ไทย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น อินเดีย ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และแอฟริกาใต้


เกี่ยวกับโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์
     โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ ก่อตั้งขึ้นกว่า 60 ปีมาแล้วและปัจจุบันมีสาขาอยู่มากกว่า 1,200 แห่งทั่วโลก แบรนด์โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์เป็นแบรนด์โรงแรมที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลก ฮอลิเดย์ อินน์ยังเป็นแบรนด์โรงแรมแบรนด์แรกที่เปิดตัวระบบการจองห้องพักด้วยคอมพิวเตอร์ขึ้นในปี 1965 เป็นแบรนด์โรงแรมระดับนานาชาติแบรนด์แรกที่เข้าไปเปิดโรงแรมสาขาในประเทศจีนในปี 1984 และเป็นโรงแรมแรกเช่นกันที่เปิดให้มีการจองห้องพักทางออนไลน์ในปี 1995


     โปรแกรม “Kids Eat & Stay Free” ที่มีให้เลือกสำหรับแขกผู้เข้าพักในโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ และห้อง KidSuite®  ในโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่บ่งบอกถึงความมุ่งมั่นของฮอลิเดย์ อินน์ในการมอบความสุขให้กับแขกผู้เข้าพักที่มากันเป็นครอบครัว โดยทางโรมแรมจัดบรรยากาศที่สะดวกสบายมามอบให้เพื่อให้ทุกคนได้เข้ามาพักผ่อนหย่อนใจกันได้อย่างเต็มที่


แบรนด์ฮอลิเดย์ อินน์อยู่ใน “อันดับสูงสุดในเรื่องความพึงพอใจของแขกผู้เข้าพักในกลุ่มเครือโรงแรมฟูลเซอร์วิสขนาดกลาง” ในการจัดอันดับของเจ ดี เพาเวอร์ ภายใต้การสำรวจดัชนีความพึงพอใจของแขกผู้เข้าพักในโรงแรมในภูมิภาคอเมริกาเหนือด้วย


รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ และฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท รวมถึงการจองห้องพัก เข้าไปดูได้ที่        เว็บไซต์ www.holidayinn.com หรือทางทวิตเตอร์ที่ www.twitter.com/holidayinn หรือทางเฟซบุ๊คที่ www.facebook.com/holidayinnhotels


เกี่ยวกับไอเอชจี (อินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ลส์ กรุ๊ป)
ไอเอชจี (อินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ลส์ กรุ๊ป) เป็นบริษัทระดับโลกผู้บริหารงานเครือโรงแรมแบรนด์ต่างๆ ได้แก่ อินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ลส์ แอนด์ รีสอร์ทส์, คิมตัน โฮเต็ลส์ แอนด์ เรสเตอร์รองต์ส, ฮัวลักซ์ โฮเต็ลส์ แอนด์ รีสอร์ทส์, คราวน์ พลาซ่า โฮเต็ลส์ แอนด์ รีสอร์ทส์, โฮเต็ล อินดิโก, อีเวน โฮเต็ลส์, ฮอลิเดย์ อินน์ โฮเต็ลส์ แอนด์ รีสอร์ทส์, ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส, สเตย์บริดจ์ สวีทส์ และแคนเดิลวู้ด สวีทส์


ไอเอชจี ให้บริการแฟรนไชส์ ให้สัญญาเช่า บริหารงาน และเป็นเจ้าของโรงแรมกว่า 5,000 แห่ง รวมเป็นจำนวนห้องพัก 750,000 ห้องในเกือบ 100 ประเทศทั่วโลก โดยยังมีโรงแรมอีกเกือบ 1,400 แห่งที่กำลังดำเนินการก่อสร้าง ไอเอชจียังเป็นผู้บริหารไอเอชจี รีวอร์ดส์ คลับ ซึ่งเป็นลอยัลตี้โปรแกรมสำหรับการใช้บริการโรงแรมโปรแกรมแรกและโปรแกรมที่ใหญ่ที่สุดของโลก ที่มีสมาชิกอยู่มากกว่า 96 ล้านคนทั่วโลก


อินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ลส์ กรุ๊ป เป็นบริษัทโฮลดิ้งที่ควบรวมในสหราชอาณาจักรและจดทะเบียนในประเทศอังกฤษ และเวลส์ ไอเอชจีมีพนักงานทำงานอยู่มากกว่า 350,000 คนในโรงแรมและสำนักงานของไอเอชจีทั่วโลก


     ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงแรมในเครือและการจองห้องพัก ที่เว็บไซต์ www.ihg.com และรายละเอียดเกี่ยวกับ      ไอเอชจี  รีวอร์ด คลับที่ www.ihgrewardsclub.com สำหรับข้อมูลอัพเดทล่าสุดเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ www.ihg.com/media, www.twitter.com/ihg, www.facebook.com/ihg หรือ www.youtube.com/ihgplc