ADS


Breaking News

พบกับสิ่งที่ไม่เคยพบ ปรากฏการณ์ใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย เปิดประตูสนามทดลองพลังอำนาจแห่งความคิดสร้างสรรค์ ‘สยามดิสคัฟเวอรี่’ ดีเดย์ 28 พฤษภาคม นี้

  • พบการนำเสนอสินค้าและบริการในรูปแบบใหม่ไม่เคยมีมาก่อน ครั้งแรกในประเทศไทย มอบความตื่นเต้นและสนุกสนาน บนพื้นที่พิเศษ ‘Discovery Lab’ ในทุกชั้น นำเสนอและจำหน่ายสินค้าและบริการต่างๆ ภายใต้ธีมและเรื่องราวตามความสนใจของผู้คนรวมไว้ในจุดเดียว พร้อมการบอกเล่าเรื่องราวที่มีคุณค่าและน่าสนใจสอดแทรกอยู่ทั่วพื้นที่

  • เปิดตัว ‘สยามดิสคัฟเวอรี่ แอพพลิเคชั่น’ เพื่อนสนิทที่รู้ใจที่พร้อมมอบสิ่งที่ดีให้แก่เพื่อน พลิกโฉมวงการค้าปลีกด้วยการมอบมอบประสบการณ์สุดล้ำและครบครันที่สุด เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ครั้งแรกในเอเชีย

  • ฉลองแกรนด์โอเพนนิ่งสุดยิ่งใหญ่ พบกิจกรรมสุดตื่นเต้นในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน จัดเต็มด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำยุค ค้นพบตัวตนที่แท้จริงกับนิทรรศการอินเตอร์แรคทีฟสุดล้ำ ‘My Social Discovery’ ถ่ายทอดการใช้โซเซียลมีเดียในแง่มุมร่วมสมัย สะท้อนตัวตนที่แต่ละคนสร้างขึ้นบนโลกออนไลน์
สยามพิวรรธน์ เปิด ‘สยามดิสคัฟเวอรี่ ดิเอ็กซ์พลอราทอเรี่ยม’ รอบสื่อมวลชน วันนี้ ก่อนเปิดให้บริการประชาชนทั่วไปวันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม 2559 โดย นางชฎาทิพ จูตระกูล (ซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และ นายโอกิ ซาโตะ (ขวา) หัวหน้านักออกแบบและผู้ก่อตั้ง nendo

กรุงเทพฯ (26 พฤษภาคม 2559) – บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ พาราไดซ์พาร์ค และเป็นหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของ ไอคอนสยาม อภิมหาโครงการเมืองแห่งการใช้ชีวิตสู่โลกอนาคต ประกาศวันนี้ว่า

สยามดิสคัฟเวอรี่ พร้อมแล้วที่จะเปิดประตูให้คนรุ่นใหม่หัวใจแรงได้เข้าสู่สนามทดลองพลังอำนาจแห่งความคิดสร้างสรรค์ ในวันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม 2559 นี้เป็นต้นไป โดยสยามดิสคัฟเวอรี่จะกลายเป็นไลฟ์สไตล์สเปเชี่ยลตี้สโตร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หลังจากพลิกเกมส์ครั้งยิ่งใหญ่ด้วยเงินลงทุน 4,000 ล้านบาท

นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “สยามดิสคัฟเวอรี่ - The Exploratorium เป็นการเปิดตัวคอนเซ็ปต์ค้าปลีกรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย เป็นที่สุดของจุดหมายปลายทางรูปแบบไฮบริดรีเทลแห่งแรกของประเทศไทย บันทึกเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของวงการค้าปลีก ตอกย้ำชื่อเสียงของสยามพิวรรธน์ในฐานะผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัยในวงการค้าปลีกของไทย ผู้เนรมิตจุดหมายปลายทางที่เป็นปรากฎการณ์ใหม่ของวงการ ซึ่งแข่งขันได้กับจุดหมายปลายทางที่เป็นสุดยอดของโลก โดยผู้มาเยี่ยมเยือนสยามดิสคัฟเวอรี่จะได้พบกับสิ่งที่ไม่เคยพบ และได้สัมผัสกับประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน ในขณะที่ได้สนุกไปกับการค้นหา และค้นพบตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง โดยสยามพิวรรธน์ทุ่มงบลงทุน 300 ล้านบาท จัดงาน  แกรนด์โอเพ่นนิ่ง รวมทั้งจัดโปรโมชั่นและกิจกรรมเฉลิมฉลองการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ ในรูปแบบและสไตล์ที่ไม่เคยมีมาก่อน จัดเต็มด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี พร้อมกิจกรรมอินเทอแรคทีฟสุดล้ำมากมายที่จะทำให้ทุกคนตกตะลึง และตกหลุกรักสยามดิสคัฟเวอรี่ตั้งแต่วันแรกที่ได้มาเยี่ยมเยือน”

สยามดิสคัฟเวอรี่เป็น The Biggest Arena of Lifestyle Experiments ที่เปรียบเสมือนสนามประลองพลังอำนาจแห่งความคิดสร้างสรรค์อันยิ่งใหญ่ ที่เต็มไปด้วยประสบการณ์สุดตื่นเต้นเร้าใจ เชิญชวนทุกคน ‘มาเล่นสนุกด้วยกัน’! โดยมอบพลังอำนาจในการสร้างสรรค์สไตล์ที่ใช่ของตัวเองให้กับผู้มาเยี่ยมเยือน เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้ามาค้นหา ทดลองไอเดียใหม่ๆ และผสมผสานสไตล์ที่มีอยู่อย่างหลากหลายในสยามดิสคัฟเวอรี่ เพื่อค้นพบตัวตนที่แท้จริง โดยทุกมิติของการนำเสนอ ครอบคลุมพื้นที่ 40,000 ตารางเมตร ถูกเนรมิตให้ ‘เข้าถึงใจ’ ลูกค้ามากที่สุด นำเสนอโดยผสมผสานหลากหลายกลุ่มสินค้าตามเรื่องราวและความสนใจของผู้คน เพื่อความสะดวกสบายและความสนุกสนานในการค้นหา มอบอำนาจความคิดสร้างสรรค์ให้กับลูกค้าสามารถเลือกมิกซ์แอนด์แมตช์ ทดลอง ปรับแต่ง พลิกแพลง และสร้างสรรค์สินค้าที่ซื้อ ให้เป็นไปตามความต้องการและรสนิยมเฉพาะตัวของแต่ละบุคคลได้ จากสินค้าที่มีอยู่มากกว่า 5,000 แบรนด์ ในทุกระดับราคาที่สามารถเข้าถึงได้ ทั้งแบรนด์ไทยและแบรนด์ระดับโลก”

นอกจากนี้ สยามพิวรรธน์ยังเตรียมนำเสนอที่สุดแห่งปรากฏการณ์ใหม่ของการรับประทานอาหาร ด้วยการผสมผสานร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันกับพื้นที่ค้าปลีกและพื้นที่กิจกรรมต่างๆ อย่างผสมกลมกลืน โดยได้จัดสรรพื้นที่มากกว่า 2,500 ตารางเมตรครอบคลุมทั่วทั้งสยามดิสคัฟเวอรี่ให้เป็นพื้นที่สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม และจะเปิดตัวแบรนด์ร้านอาหารชื่อดังที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลกครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นที่สุดของปรากฏการณ์ที่น่าตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

นำเสนอเรื่องราวที่มีคุณค่าและน่าสนใจ (Storytelling) เต็มรูปแบบ
พร้อมนำเสนอสินค้าและบริการในรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน – ‘Discovery Lab’
นางชฎาทิพ กล่าวว่า “สิ่งหนึ่งที่ทำให้สยามดิสคัฟเวอรี่โดดเด่นและแตกต่างไม่มีที่ใดเหมือน คือการมอบประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นเร้าใจมากมายซึ่งกระจายอยู่ทั่วสยามดิสคัฟเวอรี่ สินค้าต่างๆ จะนำเสนอเรื่องราวที่มีคุณค่าและน่าสนใจ บอกเล่าที่มาของแรงบันดาลใจและจินตนาการในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเกร็ดเล็กน้อยต่างๆ ที่เป็นเบื้องหลังการสร้างแบรนด์หรือนวัตกรรมน่าสนใจเกี่ยวกับสินค้า ยิ่งไปกว่านั้น ปรากฏการณ์ใหม่ซึ่งเป็นครั้งแรกของการนำเสนอสินค้าและบริการในรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน และเป็นการฉีกทุกกฎเกณฑ์ของวงการค้าปลีกไทยไปอย่างสิ้นเชิงก็คือ พื้นที่ที่เรียกว่า “Discovery Lab” ที่กระจายอยู่ในทุกชั้นของสยามดิสคัฟเวอรี่ โดยถูกสร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษสำหรับนำเสนอและจำหน่ายสินค้าและบริการภายใต้ธีมและเรื่องราวต่างๆ ซึ่งจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ โดยจะรวบรวมสินค้าและบริการ ตลอดจนกิจกรรมทุกประเภทที่เกี่ยวข้องกับธีมและเรื่องราวนั้นๆ ผสมผสานทุกแบรนด์มานำเสนอในพื้นที่เดียวอย่างครบครันที่สุด เพื่อให้ลูกค้าสามารถสนุกสนานไปกับการเลือกซื้อสินค้าและบริการที่ตรงกับไลฟ์สไตล์และความชื่นชอบของตัวเองได้ในบริเวณเดียว”

จัดเต็มด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ – เปิดตัว ‘สยามดิสคัฟเวอรี่ แอพพลิเคชั่น’
เพื่อมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคล และสื่อสารกับลูกค้าเสมือนเพื่อนที่รู้ใจ

อีกสิ่งหนึ่งในเรื่องการมอบประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นเร้าใจ ก็คือการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีของโลกยุคดิจิตอลมาผสมผสานกับบริการพิเศษในพื้นที่ เพื่อมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคล และสื่อสารกับลูกค้าเสมือนเพื่อนที่รู้ใจ ที่พร้อมจะเชิญชวนให้ทุกคนทดลองไอเดียใหม่ๆ พูดคุย แนะนำ บอกเล่าเรื่องราว เพื่อเติมเต็มความสนุกสนานในการมาเยี่ยมเยือนสถานที่แห่งนี้ โดยสยามดิสคัฟเวอรี่ได้นำเสนอการสื่อสารแบบมัลติคอมมูนิเคชั่นกับลูกค้าทุกคน ซึ่งนอกจากเครื่องมือสื่อสารที่ล้ำสมัย ทั้งสื่อมัลติมีเดียและ            มัลติสกรีนเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่จะปรากฏอยู่ในทุกๆ ชั้นภายในสยามดิสคัฟเวอรี่ ทำหน้าที่ทั้งสื่อสารและสร้างบรรยากาศที่น่าสนุกให้กับผู้มาเยี่ยมเยือน สยามดิสคัฟเวอรี่ยังได้คิดค้นเครื่องมือใหม่ล่าสุด นั่นคือ “สยามดิสคัฟเวอรี่ แอพพลิเคชั่น” ที่ครบครันมากที่สุด และเป็นมากกว่าโมบายแอพพลิเคชั่นทั่วไป โดยเป็นการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดครั้งแรกในเอเชีย ที่ Mobile Application และ Location Base Service (LBS) ทำงานประสานเชื่อมกันอย่างชาญฉลาด เพื่อสื่อสารกับลูกค้า และนำเสนอข้อมูล เรื่องราว สิทธิประโยชน์ ที่ออกแบบให้ตรงกับความต้องการเฉพาะบุคคล มอบประสบการณ์การช้อปปิ้งสุดล้ำ เป็นเสมือน Best Shopping Companion สื่อสารกับลูกค้าเสมือนเพื่อนสนิทที่รู้ใจ ที่พร้อมจะเชิญชวนให้ทุกคนทดลองไอเดียใหม่ๆ พูดคุย แนะนำ บอกเล่าเรื่องราว เพื่อเติมเต็มความสนุกสนานในการมาเยี่ยมเยือนสถานที่แห่งนี้ อาทิ ลูกค้าจะได้รับข้อมูลแนะนำคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด คอลเลคชั่นลิมิเต็ดอิดิชั่น หรือแม้แต่โปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์มากมาย ที่แตกต่างกันในแบบเฉพาะบุคคล มีฟังก์ชั่น Live Chat ให้ลูกค้าติดต่อกับทีม Customer Relation Management ได้โดยตรงอย่างสะดวกสบาย และสามารถจองเข้ารับบริการหรือขอรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ล่วงหน้าได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการสำรองที่จอดรถ, จองร้านอาหาร, Co-Working Space, Dressing  Room ฯลฯ หรือจะใช้เป็นเนวิเกเตอร์ช่วยนำทางในการค้นหาสินค้าที่ต้องการภายในสยามดิสคัฟเวอรี่ อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถแสดงความคิดเห็น หรือติชมผ่านแอพพลิเคชั่นได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบ Zone base notification หรือ Personalized offers based on locations ที่จะแจ้งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับข้อเสนอหรือโปรโมชั่นพิเศษตามความสนใจของแต่ละบุคคลในพื้นที่เฉพาะจุดภายในสยามดิสคัฟเวอรี่ซึ่งเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ครั้งแรก ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน เป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างก้าวล้ำไปกว่าโปรแกรมส่งเสริมการขายและลูกค้าสัมพันธ์ทุกแคมเปญที่เคยมีมา สร้างความผูกพันในระดับเพื่อนสนิทที่มอบแต่สิ่งดีๆ ให้แก่กัน
นางชฎาทิพ จูตระกูล (ซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และ นายโอกิ ซาโตะ (ขวา) หัวหน้านักออกแบบและผู้ก่อตั้ง nendo

ตื่นตะลึงกับการค้นพบตัวตนที่แท้จริงแบบอินเตอร์แรคทีฟล้ำยุค
พร้อมพบกับนิทรรศการที่น่าตื่นเต้นระดับโลก – ‘Social Discovery’

ในช่วงการเปิดตัวสยามดิสคัฟเวอรี่ ได้จัดให้มีการนำเสนอเรื่องราวที่ผสมผสานกับดิจิตอลเทคโนโลยี สร้างประสบการณ์แบบอินเตอร์แรคทีฟในธีม “When Obsession Becomes Identity” ที่เชิญชวนทุกคนมาร่วมค้นพบ และเข้าใจตัวตนที่แท้จริงของตนเองจากความสนใจเบื้องลึกของแต่ละคน โดยสยามดิสคัฟเวอรี่ ร่วมกับทีมนักออกแบบชื่อดังระดับโลกจากนิวยอร์คในนาม Black Egg สร้างสรรค์นิทรรศการและกิจกรรมสร้างประสบการณ์ร่วมแบบอินเตอร์แอคทีฟ โดยใช้ชื่อว่า “Social Discovery” กระจายตัวอยู่ทั่วสยามดิสคัฟเวอรี่ โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก คือ Their Social Discovery จัดแสดงรูปภาพอินสตาแกรมเมอร์ที่ถ่ายทอดตัวตน ไลฟ์สไตล์และความคลั่งไคล้ของตัวเองออกมาผ่านภาพถ่ายบน Instagram เพื่อแชร์ตัวตนกับคนทั่วโลก, My Social Discovery ผลงานศิลปะจัดวางในรูปแบบอินเตอร์แอคทีฟที่ออกแบบโดยทีม Black Egg นำรูปภาพทั้งในอดีตและปัจจุบันจากโซเชียลมีเดียของผู้เข้าชมมาเรียงร้อยจัดแสดงไทม์ไลน์ชีวิตบนจอภาพขนาดยักษ์ ที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจ เป็นเทคโนโลยีพิเศษสุดที่ทำให้ทุกคนสามารถเรียนรู้ตัวเองได้จากความสนใจของตนเอง เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของการเปิดสยามดิสคัฟเวอรี่ที่ทุกคนต้องเข้ามาสัมผัสประสบการณ์นี้ด้วยตนเอง , และ "A Million Montage of You" โฟโต้โมเสก ที่ประกอบภาพจากการถ่ายเซลฟี่เนรมิตเป็นพิกเซลเล็กๆ ฉายบนจอแอลอีดีขนาดยักษ์ เป็นการตีความสายใยแห่งความสัมพันธ์ระหว่างตัวตนของคุณและคนรอบข้างออกมาเป็นรูปธรรมผ่านเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสพิเศษครั้งแรกในประเทศไทย ที่ นายโอกิ ซาโตะ ผู้ก่อตั้ง nendo ดีโซน์สตูดิโอชื่อดังจากญี่ปุ่น เจ้าของรางวัลระดับโลกกว่า 20 รางวัล มาจัดนิทรรศการผลงานการออกแบบ nendo Exhibition ที่จะพาทุกคนท่องไปในโลก ‘designed by nendo’ ตื่นตากับผลงานโปรดักส์ดีไซน์ ศิลปะ และสถาปัตยกรรมที่รวบรวมจากทั่วทุกมุมโลก ประกอบด้วยผลงานการออกแบบชั้นยอด ทั้งด้านโพรดักส์ดีไซน์ อาร์ทอินสตอเลชั่น และงานออกแบบสถาปัตยกรรม ที่ผ่านการคัดสรรบรรจงจัดวางในกล่องแห่งไอเดียเป็นนิทรรศการที่ทำหน้าที่เป็น อินทีเรียดีไซน์ โดยจะเป็นแกลลอรี่แนวตั้ง จัดวางให้ลอยอยู่กลางอากาศอย่างโดดเด่นในพื้นที่โล่งใจกลางสยามดิสคัฟเวอรี่ ซึ่งจะทำให้ผู้ชมสามารถชื่นชมผลงานได้จากหลากหลายมุมมอง และจะทำให้ทุกคนต้องตกตะลึง
ภาพภายนอก สยามดิสคัฟเวอรี่

ทำความรู้จักกับเพื่อนสนิทที่รู้ใจให้มากขึ้น กับ Discovery Man Exhibition

สยามดิสคัฟเวอรี่ ซึ่งเปรียบเสมือนเพื่อนที่รู้ใจของทุกคน ที่จะถ่ายทอดเรื่องราวดีๆ มอบแต่สิ่งดีให้กับเพื่อนสนิท จึงได้ร่วมกับเนนโดะ (นายโอกิ ซาโตะ) ออกแบบและให้กำเนิด “ดิสคัฟเวอรี่แมน” (Discovery Man) คาแรกเตอร์ดีไซน์ที่ออกแบบเป็นหุ่นมีหัวเป็นรูปกล่องสี่เหลี่ยมสื่อความหมายถึงความพร้อมในการเปิดรับสิ่งใหม่ๆ มากมายที่จะเกิดขึ้น โดยดิสคัฟเวอรี่แมนจะเป็นตัวแทนในการนำทุกคนเข้ามาค้นหาและทดลอง (Experiment) , สร้างสรรค์ (Create) , และพัฒนา (Cultivate) ความพิเศษที่ทุกคนสัมผัสและสร้างขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง ซึ่งในโอกาสเปิดสยามดิสคัฟเวอรี่ ได้จัดให้มีนิทรรศการ Discovery Man ระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม – 31 สิงหาคมนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกับดิสคัฟเวอรี่แมนมากยิ่งขึ้น โดยเนนโดะ จับมือกับ 25 ศิลปินดังทั่วเอเชีย อาทิ ศรัณย์ เย็นปัญญา นักออกแบบผู้สร้างสรรค์ผลงานผ่านเรื่องราว, เอก ทองประเสริฐ ดีไซเนอร์ระดับแถวหน้าของไทย, ธีรนพ หวังศิลปคุณ นักออกแบบกราฟฟิกที่สร้างชื่อเสียงระดับโลก, ธัชมาพรรณ จันทร์จำรัสแสง หรือ ปอม ชาน นักวาดภาพประกอบดีกรีระดับสากล, อรรถพร คบคงสันติ สถาปนิกหนุ่มไฟแรงที่เคยร่วมงานกับสถาปนิกระดับโลกมาแล้ว, บรรจง ปิสัญธนะกูล ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง, วสุ วิรัชศิลป์ สถาปนิกหนุ่มผู้มีผลงานที่เป็นเอกลักษณ์, ธีรวัฒน์ เฑียรฆประสิทธิ์ นักวาดภาพประกอบชื่อดังที่ล่าสุดกำลังสนุกกับการทำงานในแวดวงแฟชั่น, กฤษดา ภควัตสุนทร เจ้าของธุรกิจและผลงานหลากหลายสาขา ทั้งงานกราฟฟิก แฟชั่น ภาพประกอบ และงานเพลง, ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ผู้กำกับภาพยนตร์แถวหน้าของไทย, Mick Saylom หัวหน้าแผนกภาพวาดประจำสถาบันวิจิตรศิลป์แห่งชาติลาว, Goh Beng Kwan ศิลปินชั้นครูจากสิงคโปร์ , Kubota Fumikazu นักวาดภาพสายเลือดญี่ปุ่นที่เคยจัดแสดงผลงานมาแล้วทั้งในออสเตรเลียและอเมริกา, Piao Shou Fan นักออกแบบมากประสบการณ์จากประเทศจีน, PG Timbang นักออกแบบชาวบรูไนเจ้าของรางวัลการประดิษฐ์ตัวอักษรแบบร่วมสมัย, Ilseon Ryu ดีไซเนอร์สัญชาติเกาหลีเจ้าของรางวัลระดับนานาชาติ เคยจัดแสดงผลงานมาแล้วทั่วโลก, Peap Tarr & Lisa Mam ศิลปินคู่หูชื่อดังชาวกัมพูชาที่เชี่ยวชาญงานกราฟฟิตี้และสตรีทอาร์ท, Tiama Sirait ดีไซเนอร์สาวชาวอินโดนีเซียผู้เชี่ยวชาญงานด้านแฟชั่นและสิ่งทอ , Simon Tan จากสมาคมศิลปะ พิพิธภัณฑ์ และหอศิลป์แห่งปีนัง ประเทศมาเลเซีย, Mon Thet ศิลปินหน้าใหม่จากเมียนมาร์, Florence Cinco ศิลปินชาวฟิลิปปินส์เจ้าของรางวัลระดับประเทศ และ Trinh Tuan ศิลปินชาวเวียดนามที่เคยจัดแสดงผลงานมาแล้วทั่วโลก มาร่วมกันสร้างสรรค์ตัวแทนแห่งการค้นพบที่ไม่สิ้นสุด นำเสนอดิสคัฟเวอรี่แมนในสไตล์พิเศษเพียง 25 ชิ้นในโลก

เนรมิตสยามดิสคัฟเวอรี่เป็น ‘อาคารแห่งศิลปะ (Art Building)’

สยามพิวรรธน์ได้ก้าวข้ามข้อจำกัดของการพัฒนาพื้นที่ค้าปลีกทั่วไป ด้วยการเนรมิตสยามดิสคัฟเวอรี่ให้เป็นอาคารแห่งศิลปะ (Art Building) ที่ผสมผสานงานออกแบบจากฝีมือศิลปินระดับโลกมากมาย อยู่ในทุกรายละเอียดทั่วทั้งสยามดิสคัฟเวอรี่ อาทิ Art Installation ที่เป็นแชนเดอเลียร์ขนาดใหญ่ ทำจากแก้วคริสตัลและกระจกดีไซน์พิเศษโดยเฉพาะ Lasvit แบรนด์ผู้ออกแบบและผลิตเครื่องแก้วและกระจกชั้นนำจากสาธารณรัฐเช็ก ที่ได้รับการยกย่องจากทั่วโลกว่าผลงานทุกชิ้นซึ่งเป็นงานแบบแฮนด์เมด ล้วนแล้วแต่มีความวิจิตรงดงามและให้ความรู้สึกหรูหราล้ำค่า โดยติดตั้งอยู่บริเวณล็อบบี้ทางเข้า ที่พร้อมรอต้อนรับและสร้างความตื่นตะลึงและประทับใจให้กับผู้มาเยี่ยมเยือนทุกคนทันทีที่ก้าวเข้าสู่สยามดิสคัฟเวอรี่

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับเนนโดะ (นายโอกิ ซาโตะ) ดีไซเนอร์ชั้นนำของโลกซึ่งได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน 100 ชาวญี่ปุ่นที่ได้รับการยอมรับนับถือมากที่สุดโดยนิตยสารนิวส์วีค เข้ามามีส่วนร่วมในฐานะหัวหน้าที่ปรึกษางานออกแบบอาคารและงานออกแบบตกแต่งภายใน และเป็นผู้มอบแรงบันดาลใจด้านคอนเซ็ปต์รูปแบบโดยรวมของสยามดิสคัฟเวอรี่ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของสยามพิวรรธน์ ที่มุ่งสร้างสรรค์ประสบการณ์เหนือความคาดหมายให้แก่ลูกค้า ซึ่งมีทั้งคนไทยและลูกค้าที่มาจากทั่วทุกมุมโลก ตลอดจนมุ่งเน้นการเนรมิตจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้นและสามารถแข่งขันกับจุดหมายปลายทางที่เป็นที่สุดของโลกได้
ภาพภายใน สยามดิสคัฟเวอรี่

ทั้งนี้แรงบันดาลใจการออกแบบมาจากคอนเซ็ปต์ไฮบริดรีเทลที่มุ่งเน้นการมอบประสบการณ์ที่ตื่นเต้น และการมอบพลังอำนาจในการใช้ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งไม่เพียงแค่สภาพแวดล้อมโดยรวมเท่านั้น แต่รวมถึงพื้นที่ทั้งหมดของสยามดิสคัฟเวอรี่ พร้อมเชื่อมผสานพื้นผิวทั้งหมดให้กลมกลืน ลดรอยต่อบนพื้นและเพดานในพื้นที่ส่วนกลางและร้านค้าต่างๆ โดยทำให้ดูค่อยๆ กลมกลืนกัน สื่อสะท้อนถึงการผสมวัสดุที่แตกต่างกันในห้องทดลอง เป็นไปตามธีมของ Lifestyle Lab

ให้ความสำคัญต่อการใส่ใจสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืนอย่างเต็มรูปแบบ
พร้อมเชิญทุกคนมีส่วนร่วมเพื่อสังคม

ความพิเศษของสยามดิสคัฟเวอรี่รูปโฉมใหม่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ภายใต้การบริหารสยามพิวรรธน์ สยามดิสคัฟเวอรี่ยังมีนโยบายที่ดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญต่อการใส่ใจสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยทุกกระบวนการคิดในทุกมิติ จะคำนึงถึง Sustainability นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมหลากหลายสำหรับบุคคลที่ใส่ใจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม อาทิ แคมเปญ “To Sharing For Green World” ร่วมกับมูลนิธิประเทศสีเขียว โดยทุกบิลการจับจ่ายของลูกค้าที่ช้อปปิ้งตั้งแต่ 6,000 บาทขึ้นไป สยามดิสคัฟเวอรี่จะสมทบทุนจำนวน 10 บาทให้แก่ โครงการปลูกป่าทั่วประเทศมูลนิธิประเทศสีเขียว เพื่อประโยชน์การวิจัยและส่งเสริมการอนุรักษ์ดิน น้ำ และสิ่งแวดล้อม, แคมเปญการรณณงค์ลดการใช้ถุงที่มอบสิทธิ์พิเศษสำหรับผู้ร่วมโครงการ นับเป็นการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนของสยามดิสคัฟเวอรี่ ที่พร้อมจะเป็นเพื่อนสำหรับทุกคน รวมถึงเป็นเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างยั่งยืน


อีกทั้งยังมีกิจกรรมที่เชิญชวนทุกคนได้มีส่วนร่วมเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม อาทิ  “Design Select :   Run for Another Life" ชวนนักวิ่งทุกคนร่วมกันเปลี่ยนพลังแห่งการวิ่ง เป็นพลังแห่งการพัฒนาพื้นที่สีเขียว โดยชวนทุกคนมาร่วมวิ่งสะสมระยะทางทุกๆ 500 เมตร สยามดิสคัฟเวอรี่จะมอบเงิน 10 บาท ให้กับกรุงเทพมหานคร เพื่อใช้ในการทะนุบำรุงสวนลุมพินี ปอดใจกลางเมืองของคนกรุงฯ, โครงการ“Personalise  : I create my own dream Bangkok" ร่วมกันต่อ 3D Puzzle สร้างเมืองจำลองแห่งความฝัน และมอบเป็นของเล่นให้น้องที่ห้องสมุดของเล่น  โดยนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายสินค้า Nano Block and Black Smith 3D Puzzle ร้าน Loft จะนำไปมอบให้กับมูลนิธิมีชัย วีระไวทยะ เพื่อสร้างจิตสาธารณะมอบของเล่นให้แก่ห้องสมุดของเล่นประจำหมู่บ้าน และ โครงการ “Eco Select  : Save Our Planet" เพื่อรณรงค์ปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม  ด้วยการเรียนรู้การประดิษฐ์สิ่งของชิ้นใหม่จากวัสดุเหลือใช้ Eco Gift Set  โดยมีวิทยากรให้คำปรึกษา  โดยรายได้ที่ได้จากการจำหน่าย Eco Gift Set  นำไปร่วมสมทบทุนการปลูกป่ากับมูลนิธิประเทศสีเขียว 
ภาพภายใน สยามดิสคัฟเวอรี่

สำหรับการจัดงานแกรนด์โอเพ่นนิ่งแห่งปีที่มีสไตล์และรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร สยามพิวรรธน์ ใช้งบประมาณกว่า 300 ล้านบาท โดยกำหนดเปิดสยามดิสคัฟเวอรี่ให้คนรุ่นใหม่ไฟแรงและบุคคลทั่วไปได้เข้าสู่สนามประลองพลังอำนาจแห่งความคิดสร้างสรรค์อันยิ่งใหญ่ได้ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2559 เป็นต้นไป พร้อมจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่เหนือความคาดหมาย พลาดไม่ได้ !!! ลูกค้า 1,000 แรก รับทันทีบัตรกำนัลเงินสดมูลค่า 500 บาท  และโปรโมชั่นมากมาย อาทิ รับของรางวัลและ SIAM GIFT CARD รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท , รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 20% จาก 7 บัตรเครดิต , และ รับคะแนนสะสม 10 เท่า สำหรับบัตร VIZ Card และ Platinum M Card ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม –  3 กรกฎาคมนี้ เป็นต้น

  • ทุกสิ่งภายในสยามดิสคัฟเวอรี่รูปโฉมใหม่ ล้วนมีเรื่องราวที่มีคุณค่าและน่าสนใจ  บอกเล่าที่มาของแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ และจินตนาการในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเกร็ดเล็กน้อยต่างๆ ที่เป็นเบื้องหลังการสร้างแบรนด์หรือนวัตกรรมน่าสนใจเกี่ยวกับสินค้า นอกจากนี้ยังสร้างสรรค์เรื่องราว ตามเทรนด์และความสนใจของคนยุคมิลเลนเนียนผ่านรูปแบบของการนำเสนอสินค้าในพื้นที่ Discovery Lab  นอกจากนี้กระบวนการสื่อสารทางการตลาดและการจัดกิจกรรมต่างๆ ภายในสยามดิสคัฟเวอรี่จะเข้าถึงใจเปรียบเสมือนเป็นเพื่อนสนิทของลูกค้าที่เชื้อเชิญให้มาร่วมสนุกกันอย่างเต็มที่ นับเป็นกลยุทธ์การทำการตลาดในรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน

  • สยามพิวรรธน์ เป็นผู้นำในการสร้างมาตรฐานใหม่ในวงการค้าปลีกมาต่อเนื่อง และครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่ล้ำหน้า  ด้วยการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีของโลกยุคดิจิตอลมาผสมผสานกับบริการสุดพิเศษในพื้นที่สยามดิสคัฟเวอรี่ เพื่อมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคล  และสื่อสารกับลูกค้าเปรียบเสมือนเพื่อนที่รู้ใจ ที่พร้อมจะเชิญชวนให้ทุกคนทดลองไอเดียใหม่ๆ  พูดคุย  แนะนำ บอกเล่าเรื่องราว เพื่อเติมเต็มความสนุกสนานในการมาเยี่ยมเยือนสถานที่แห่งนี้

  • สยามดิสคัฟเวอรี่ จะเป็นศูนย์กลางแห่งการพบปะ แลกเปลี่ยน และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน ได้มาพูดคุย แบ่งปันประสบการณ์ Start Up เริ่มต้นแนวคิดสร้างธุรกิจ สร้างมิตรภาพ ก่อให้เกิดคอมมูนิตี้ของกลุ่มคนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักออกแบบ นักกีฬา นักสะสม นักอนุรักษ์นิยม และนักเดินทาง รวมถึงกลุ่มคนที่มีจิตสาธารณะได้มาร่วมสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อสังคมในหลากหลายรูปแบบอีกด้วย

  • สยามดิสคัฟเวอรี่ โฉมใหม่ เป็นอีกครั้งหนึ่งของการพลิกประวัติศาสตร์ เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่สยามพิวรรธน์ทุ่มงบประมาณลงทุน 1,800 ล้านบาทพลิกโฉมสยามเซ็นเตอร์ ครั้งยิ่งใหญ่ให้เป็นเมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์เมื่อสามปีที่แล้วมา และประสบความสำเร็จเป็นปรากฏการณ์ที่เขย่าวงการ ซึ่งในครั้งนั้น ได้ปฏิวัติวงการค้าปลีกด้วยคอนเซ็ปต์แปลกใหม่ไม่เคยมีมาก่อน โดยร่วมทำงานกับบรรดาร้านค้าและเจ้าของแบรนด์ เพื่อมอบเอกลักษณ์ที่เป็นเอกภาพทั้งอาคาร โดยคอนเซ็ปต์ดังกล่าวเป็นที่ยอมรับและกล่าวขวัญไปทั่วโลก ได้รับรางวัลระดับนานาชาติจำนวน 8 รางวัล รวมทั้งได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 5 ศูนย์การค้าที่ออกแบบดีที่สุดในโลก จากสมาคมชั้นนำของโลกทางด้านธุรกิจค้าปลีก คือ สมาคมศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (International Council of Shopping Centers – ICSC)