ADS


Breaking News

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ประกาศความสำเร็จจากโครงการ “Designers’ Room”

พร้อมโชว์ผลงานสุดสร้างสรรค์ของนักออกแบบในกลุ่มสินค้าแฟชั่นไทยคลื่นลูกใหม่ 23 แบรนด์
ที่พร้อมก้าวสู่เวทีโลกในงานแสดงสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ‘BIFF&BIL 2016’

สถาบันส่งเสริมการออกแบบและนวัตกรรมเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์เดินหน้าประกาศความสำเร็จของนักออกแบบในกลุ่มสินค้าแฟชั่น  23 แบรนด์ ที่น่าจับตามองจากโครงการ “Designers’ Room” พร้อมก้าวสู่เวทีการค้าโลก นำเสนอผลผลิตของความคิดสร้างสรรค์อันเป็นจุดเด่นสำคัญของนักออกแบบและผู้ประกอบการไทย ที่ได้รับความสนใจและการยอมรับในระดับสากล พบกับผลงานคอลเล็กชั่นสุดพิเศษ ในงานแสดงสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนังใหญ่ที่สุดในอาเซียน “BIFF&BIL 2016” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 - 13 มีนาคม 2559 ณ ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพค เมืองทองธานี พร้อมประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญในการนำผลงานนักออกแบบรุ่นใหม่ไทยไปจัดแสดงในงานแฟชั่นระดับโลก Who’s Next ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และงาน MQ Vienna Fashion Week ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
ม.ล. คฑาทอง ทองใหญ่ ผู้อำนวยการ สถาบันส่งเสริมการออกแบบและนวัตกรรมเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงยุทธศาสตร์เชิงรุกในการผลักดันการค้าระหว่างประเทศที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล คือ การพัฒนาและส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มและการสร้างแบรนด์สินค้าและบริการของไทย (Value Creation, Innovation and Branding) โดยกรมได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าไทยให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาด  การสร้างแบรนด์สินค้าและบริการเป็นอย่างมาก รวมทั้งให้ความสำคัญกับการพัฒนานักออกแบบควบคู่กันไป โดยได้ดำเนินโครงการส่งเสริมนักออกแบบไทยสู่ตลาดโลก (Designers’ Room & Talent Thai) ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการไทยในการสร้างสรรค์สินค้าและนวัตกรรม ที่ตอบสนองความต้องการของตลาดโลก ทั้งนี้ประเทศไทยมีความได้เปรียบในด้านคุณภาพสินค้าของไทยที่มีความประณีต ครอบคลุมประเภทสินค้าที่หลากหลายและสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในสินค้า (Value Creation) ให้แตกต่างจากคู่แข่ง และเรามีสถาบันการศึกษาด้านการออกแบบที่มาตรฐานสูง สามารถพัฒนาบุคลากรด้านการออกแบบที่มีคุณภาพเข้าสู่อุตสาหกรรมแฟชั่น ซึ่งโอกาสต่างๆเหล่านี้ช่วยขับเคลื่อนและยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมสินค้าแฟชั่นไทยได้เป็นอย่างดี  

  • Designers’ Room: โครงการส่งเสริมนักออกแบบแฟชั่นไทยสู่ตลาดโลก และ Talent Thai: โครงการส่งเสริมนักออกแบบสินค้าไลฟ์สไตล์สู่ตลาดโลก  ที่ดำเนินการและประสบความสำเร็จมาตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี       ในการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันและยกระดับมาตรฐานของนักออกแบบไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล  กรมสนับสนุนให้นักออกแบบรุ่นใหม่ให้เข้าใจการทำธุรกิจเพื่อการส่งออก ผ่านกิจกรรมต่างๆ อาทิ การอบรมและสัมมนาเพื่อพัฒนาธุรกิจในเชิงลึก รวมถึงกิจกรรมให้คำปรึกษารายบริษัท โดยผู้เชี่ยวชาญที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจส่งออก เพื่อให้นักออกแบบ เข้าใจแนวทางการพัฒนาสินค้า การทำตลาด การสร้างแบรนด์ และการเจรจาต่อรองธุรกิจ เป็นต้น เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่นักออกแบบสู่เส้นทางการเป็นผู้ประกอบการมืออาชีพ  รวมถึงโอกาสในการเข้าร่วมการเจรจาการค้า ในงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติทั้งในต่างประเทศและต่างประเทศ โดยมีตัวอย่างนักออกแบบที่เข้าร่วมโครงการที่ประสบความสำเร็จได้รับการยอมรับในเวทีระดับนานาชาติและมีสินค้าเข้าสู่ตลาดต่างประเทศแล้ว อาทิ แบรนด์ Curated แบรนด์ WonderAnatomie แบรนด์ Painkiller และ แบรนด์ ROTSANIYOM

นอกจากนี้ ภายในงาน BIFF&BIL 2015 ยังมีไฮไลท์พิเศษที่ไม่ควรพลาด พบกับโปรเจ็คพิเศษ  Bangkok Showroom  รวบรวมผลงานคอลเล็กชั่นล่าสุด ของกลุ่มนักออกแบบแฟชั่นแบรนด์ไทย ที่มีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์และมีผลงานน่าจับตามอง ที่ได้ไปเปิดตัว ในช่วงสัปดาห์ Paris Men's Fashion Week S/S เมื่อปลายเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา   ชมผลงานล่าสุดของแบรนด์ไทยทั้ง 10แบรนด์ ที่จัดแสดงในลักษณะ Showroom จากแบรนด์ Six P.M., Curated, Timo Trunks,             Q Design and Play, Tube Gallery, Lalalove, Rotsaniyom, Rubber Killer, Missile, Ake Ake ที่บริเวณคูหา Bangkok Showroom  บริเวณ Designers’ Room Zone แถวที่ 15
โครงการ “Designers’ Room” ในงาน “BIFF&BIL 2016”  ซึ่งปีนี้ได้จัดขึ้นภายใต้แนวความคิด “Catching the Creative Spirit” โดยได้รับความร่วมมือของ 15 สมาคมกลุ่มผู้ผลิตและผู้ประกอบการ ในการมุ่งมั่นให้เป็น Fashion Platform ของอาเซียน  โดยเป็นเวทีการค้าสำคัญของอาเซียนที่เปี่ยมด้วยพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ และเป็นจุดนัดพบสำหรับผู้ผลิตสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนัง จึงถือเป็นโอกาสสำคัญของนักออกแบบแฟชั่นไทย ที่จะได้แสดงผลงานและได้รับโอกาสในการต่อยอดในเชิงพาณิชย์ที่จะได้จากการได้พบปะเหล่าบายเออร์ทั้งไทยและต่างประเทศ (Business Matching) ที่จะส่งเสริมให้เกิดเครือข่ายทางธุรกิจในอุตสาหกรรมแฟชั่นและเครื่องหนัง ระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้เข้าร่วมงานจากต่างชาติ รวมถึงในปีนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษที่โดดเด่นอีกคือ
  • รูปแบบของงานได้จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Container” โดยใช้สีในการกำหนดโซนแสดงสินค้าได้มีปรับใหม่ตามสไตล์ของแฟชั่น แบ่งเป็น 4 โซน ไว้ 4 สี ได้แก่
(1) The Urban โทนสีน้ำเงินอมเทา สะท้อนความเป็นสไตล์ทางการและรสนิยม
(2) The Casual โทนสีส้ม บ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์สดใสมีชีวิตชีวา
(3) The Heritage โทนสีเขียว แสดงถึงความเป็นธรรมชาติให้กับสินค้าเอกลักษณ์ในแต่ละท้องถิ่น
(4) The Source โทนสีน้ำตาล สื่อถึงความเป็นกลุ่มสินค้าวัตถุดิบและเชื่อมโยงกับสไตล์ของแฟชั่นในงาน และภายในงานยังมีการจัดประกวดและมอบรางวัล Fashion Designer of The Year, Best Visual Merchandize of the Year ให้แก่ผู้เข้าร่วมงานที่สมัครเข้าร่วมประกวด
  • โซนแสดงสินค้าตามสไตล์ของแฟชั่นและอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าแฟชั่นทุกชนิด เพื่อให้ผู้ซื้อสามารถเข้าถึงสินค้าที่ต้องการได้ง่าย ทำให้เกิดการตัดสินใจทางธุรกิจที่รวดเร็วและช่วยสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการที่มาแสดงงานสามารถต่อยอดธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น จำนวน 4 โซน ได้แก่
(1) The Urban สินค้าแฟชั่นเครื่องหนังที่เป็นทางการ (Formal/Business Attire)
(2) The Casual สินค้าแฟชั่นเครื่องหนังลำลอง (Casual wear)
(3) The Heritage สินค้าแฟชั่นเครื่องหนังสไตล์เอกลัษณ์ของแต่ละประเทศ อาทิ ผ้าไหม สิ่งทอพื้นเมือง ฯลฯ
(4) The Source กลุ่มสินค้าวัตถุดิบ เส้นใยสิ่งทอผลิตภัณฑ์สิ่งทอ วัสดุตกแต่ง เครื่องจักร เคมีภัณฑ์ สำหรับอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าแฟชั่นทุกชนิด
  • ความร่วมมือครั้งสำคัญของผู้จัดงาน Who’s Next  ซึ่งเป็นหนึ่งในอีเวนต์งานที่สำคัญของวงการแฟชั่นโลก ที่มีการเปิดโอกาสให้ดีไซน์เนอร์หน้าใหม่ก้าวขึ้นมาในวงการ โดยจัดขึ้นมาแล้วกว่า 20 ปี เป็นงานที่รวบรวมสินค้าแฟชั่นอย่างครบวงจรทั้งเสื้อผ้าสตรีและบุรุษ แฟชั่น แอกเซสซอรี่ รองเท้า กระเป๋าและเครื่องประดับ โดยทางผู้จัดงานได้ให้ความสำคัญกับประเทศไทยมาก ได้ให้ความร่วมมือกับสถาบันส่งเสริมการออกแบบและนวัตกรรมเพื่อการค้า การส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จึงเดินทางมาคัดเลือกนักออกแบบแฟชั่นจากโครงการ Designers’ Room ไปเข้าร่วมแสดงผลงานและเจรจาการค้าในงานแสดงสินค้า Who’s Next 2016 ที่จะจัดขึ้นในเดือนกันยายนนี้ ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และผู้จัดงาน MQ Vienna Fashion Week  2016 ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าแฟชั่นชั้นนำระดับโลก ก็จะเดินทางมาคัดเลือกผลงานของนักออกแบบเช่นกัน

ผู้ที่สนใจชมผลงานของนักออกแบบโครงการ ‘Designers’ Room สามารถเข้าชมได้ในงานแสดงสินค้าแฟชั่นและงานแสดงสินค้าเครื่องหนัง ครั้งที่ 34 หรือ BIFF&BIL 2016
วันเจรจาธุรกิจ 9 – 11 มี.ค. 58  เวลา 10.00 – 18.00 น
วันจำหน่ายปลีก 12 – 13 มี.ค. 58  เวลา 10.00 – 21.00 น  
ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1 – 2 อิมแพค เมืองทองธานี โดยคูหาของโครงการ ‘Designers’ Room อยู่บริเวณ Designers’ Room Zone แถวที่ 15 มีผลงานจัดแสดงทั้งหมด 23 แบรนด์ ได้แก่ La Jewellry, Handschrift, NAVY, Q Design and Play, Taste Products, Leisure Project Store, Janfive Studio, Noon Studio, A Pale Petal, Pasu it's alive, Arquetype, 31 Thanwa, Everywhere is runway, Thammada Studio, TEETA, DEFY, Simpl, PLINN, ORNAMENTS & l'OR, Just-in-case Shoes, CHAT Jewelry, Jittrakarn และ JirawatLeathergoods

ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว รวมทั้งกิจกรรมดีๆ ของ ‘โครงการส่งเสริมการสร้างนักออกแบบไทย’ ได้ที่ www.designers360.net, www.ditp-design.com หรือ Facebook:Talent Thai & Designers' Room ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป