สมาคมการขายตรงไทยจับมือภาครัฐ เปิดตัวแอนิเมชั่นเตือนภัยแชร์ลูกโซ่ ให้ความรู้ผู้บริโภค
สมาคมการขายตรงไทย ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) จัดทำสื่อวิดิทัศน์ในรูปแบบแอนิเมชั่น เพื่อส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับ “การแยกแยะธุรกิจขายตรงที่แท้จริงออกจากระบบแชร์ลูกโซ่” เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับประชาชน พร้อมเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับอุตสาหกรรมขายตรงไทย
ดร. ภคพรรณ ลีวุฒินันท์ นายกสมาคมการขายตรงไทย (คนที่ 4 จากซ้าย) เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมขายตรงไทยในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตต่อเนื่องดีขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2557 ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มมองหาโอกาสในการสร้างรายได้จากอาชีพเสริม ธุรกิจขายตรงจึงกลายเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ที่ผู้บริโภคตัดสินใจเลือก ทำให้มีผู้คนเข้ามาสู่ธุรกิจขายตรงเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยิ่งธุรกิจมีการเติบโตมากเท่าไหร่ ยิ่งมีความจำเป็นต้องสร้างความใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับธุรกิจขายตรง สมาคมฯ จึงร่วมมือกับภาครัฐเพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับประชาชน พร้อมเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับอุตสาหกรรมขายตรงไทย
“สมาคมการขายตรงไทย เตรียมเดินหน้าผนึกกำลังกับภาครัฐพร้อมทำงานเชิงรุก เพื่อขจัดปัญหาธุรกิจแชร์ลูกโซ่ที่กำลังแพร่ระบาดในสังคมไทย ในส่วนสมาคมฯ เราได้จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เพื่อเตือนภัยให้ประชาชนและผู้บริโภคไม่หลงตกเป็นเหยื่อธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ซึ่งมีการเผยแพร่ผ่านหลายช่องทางเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของเราให้มากที่สุด ในขณะที่ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง สคบ. จะเข้ามามีบทบาทในการช่วยคัดกรองบริษัทขายตรงที่ถูกกฏระเบียบ ผ่านการขึ้นบัญชีทะเบียนประกอบธุรกิจ อีกทั้งหากบริษัทขายตรงใดไม่ปฏิบัติตามระเบียบกฎเกณฑ์ที่วางไว้ หรือเข้าข่ายประกอบธุรกิจมิชอบ ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ก็จะเข้ามาทำหน้าที่ตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ถือได้ว่าเป็นการทำงานที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง เพื่อสกัดกั้นการฉวยโอกาสของธุรกิจแอบแฝงไม่ให้เข้ามาสร้างปัญหาได้อีกต่อไป” ดร. ภคพรรณ กล่าว
พญ.นลินี ไพบูลย์ อุปนายกฝ่ายรัฐสัมพันธ์ สมาคมการขายตรงไทย เปิดเผยว่า สมาคมการขายตรงไทย ได้เล็งเห็นถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากธุรกิจแชร์ลูกโซ่ จึงต้องการนำองค์ความรู้และประสบการณ์ รวมทั้งความน่าเชื่อถือของสมาคมการขายตรงไทยที่สั่งสมมาเป็นเวลายาวนานกว่า 30 ปี ได้เข้ามามีบทบาทในการช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาธุรกิจแชร์ลูกโซ่ให้หมดไปจากประเทศไทย โดยได้ยึดแนวนโยบายการบริหารงานหลักของสมาคมการขายตรงไทย ที่จะยังคงมุ่งเน้นการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับธุรกิจขายตรงไปยังทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ตลอดจนถ่ายทอดไปยังประชาชนและผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้รับทราบ รู้เท่าทันกลโกง และสามารถแยกแยะระหว่างธุรกิจขายตรงกับธุรกิจแชร์ลูกโซ่ได้อย่างชัดเจน
“เราภูมิใจที่มีส่วนร่วมสำคัญในการเข้ามามีบทบาทเพื่อช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาธุรกิจแชร์ลูกโซ่ สมาคมฯ จะเน้นการให้ความรู้กับสังคม เพื่อให้สามารถแยกแยะได้ระหว่างธุรกิจขายตรงกับแชร์ลูกโซ่ เพราะธุรกิจขายตรงกับแชร์ลูกโซ่นั้นมีการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ที่ผ่านมาธุรกิจแชร์ลูกโซ่ทำให้ทัศนะคติของผู้บริโภคถูกบิดเบือน มีการยื่นข้อเสนอที่ล่อตาล่อใจจนความเป็นจริง ในขณะที่ธุรกิจขายตรงเราเน้นย้ำเสมอว่า หากมีความตั้งใจในการทำธุรกิจ มีความขยัน ดูแลผู้บริโภคให้ดี คุณก็จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับความพยายามของแต่ละบุคคล ดังนั้นการจัดทำสื่อวิดิทัศน์ในรูปแบบแอนิเมชั่นนี้ จึงเป็นการนำเสนอเนื้อหาผ่านตัวการ์ตูนโดยใช้แกะขาวและแกะดำเป็นสัญลักษณ์ในการแยกแยะธุรกิจสีขาวและธุรกิจแอบแฝง ใช้เวลาในการรับชมเพียง 7 นาที ก็สามารถเข้าใจและแยกแยะว่าขายตรงที่แท้จริงเป็นอย่างไร”
นายอำพล วงศ์ศิริ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า จากกรณีแชร์ลูกโซ่ที่กำลังเป็นปัญหาในขณะนี้ ทาง สคบ. เราได้เพิ่มมาตรการให้ผู้ประกอบธุรกิจขายตรงเข้ามาขึ้นทะเบียนประกอบธุรกิจอย่างถูกต้องกับ สคบ. เพื่อเป็นการคัดกรองบริษัทที่มีคุณภาพมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ยังได้ร่วมมือกับสมาคมการขายตรงไทย จัดทำสื่อวิดิทัศน์ในรูปแบบแอนิเมชั่น เกี่ยวกับ “การแยกแยะธุรกิจขายตรงที่แท้จริงออกจากระบบแชร์ลูกโซ่” เพื่อเป็นสื่อประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนให้รู้จักวิธีสังเกตและตรวจสอบว่าธุรกิจนั้นเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือไม่ ประกอบกับแนะนำให้ผู้บริโภคควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบและศึกษาแผนธุรกิจด้วยความระมัดระวังก่อนตัดสินใจปะกอบธุรกิจ
“สคบ.เห็นว่ายังมีประชาชนอีกมากที่ไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างธุรกิจขายตรงกับแชร์ลูกโซ่ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราจะต้องรีบดำเนินการให้ความรู้ ป้องปรามไม่ให้ผู้บริโภคตกเป็นเหยื่อ ในขณะเดียวกันเพื่อป้องกันไม่ให้แชร์ลูกโซ่เข้ามาในระบบขายตรงได้ โดยสื่อประชาสัมพันธ์นี้จะเผยแพร่ไปยังกลุ่มประชาชนทั่วไป อีกทั้งมุ่งเน้นไปที่กลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่เพราะเป็นวัยที่เข้าถึงข้อมูลข่าวสารบนโลกออนไลน์ได้ง่ายและรวดเร็ว เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันและปลูกฝังให้เยาวชนมีความรู้ความเข้าใจ ตลอดจนสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปบอกต่อเพื่อเตือนภัยให้กับคนในครอบครัวและคนรอบข้างได้ นอกจากนี้ ทาง สคบ เตรียมนำวีดิทัศน์แอนิเมชั่นกระจายไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั่วทุกภาคของประเทศ อาทิ ศูนย์ดำรงธรรมทุกจังหวัด โรงเรียนประจำจังหวัด เครือข่ายภาคประชาชน ผู้นำชุมชน เพื่อปลุกพลังคนไทยร่วมกันขจัดแชร์ลูกโซ่ให้หมดไปจากสังคมไทย” นายอำพล กล่าว
ดร. ภคพรรณ กล่าวสรุปว่า สมาคมการขายตรงไทยยังคงมุ่งมั่นและยืนหยัดเจตนารมณ์ในการรักษามาตรฐานและความน่าเชื่อถือให้กับอุตสาหกรรมการขายตรงของประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาสมาคมฯ เราเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้บริโภคมาโดยตลอด อีกทั้งบริษัทสมาชิกดำเนินธุรกิจภายใต้จรรยาบรรณและความถูกต้องโปร่งใส ในขณะที่ความร่วมมือกับภาครัฐก็จะยังคงสานต่อความตั้งใจกับทุกภาคส่วนเพื่อช่วยกันทำให้ธุรกิจขายตรงเป็นธุรกิจสีขาว โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้บริโภคและความถูกต้องเป็นหลัก
สำหรับประชาชนที่สนใจสื่อวิดิทัศน์ในรูปแบบแอนิเมชั่น เพื่อส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับ “การแยกแยะธุรกิจขายตรงที่แท้จริงออกจากระบบแชร์ลูกโซ่” สามารถดาวน์โหลดหรือรับชมผ่านทางเว็บไซต์ www.tdsa.org และ www.ocpb.go.th หรือขอรับซีดีได้ที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และศูนย์ดำรงธรรมทุกจังหวัดทั่วประเทศ