"รักใครให้ Riceberry" กระทรวงพาณิชย์เปิดโครงการ ชวนบริโภคข้าวไรซ์เบอร์รี่เพื่อสุขภาพที่ดี
"พาณิชย์" เปิดตัวโครงการข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ เพื่อส่งเสริมและแนะนำข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์แก่นักธุรกิจ และประชาชนทั่วไปให้เป็นที่รู้จัก พร้อมสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคทราบถึงคุณประโยชน์ และเชิญชวนให้หันมาบริโภคข้าวไรซ์เบอร์รี่เพื่อสุขภาพที่ดี และส่งต่อให้คนที่รัก ภายใต้แคมเปญ "รักใคร ให้ Riceberry" เล็ง! เตรียมขยายตลาดสู่ต่างประเทศ
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบในการส่งเสริมตลาดเกษตรอินทรีย์ ได้ร่วมกับ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในการดำเนินกิจกรรมยกระดับมาตรฐานคุณภาพและการตลาดผลิตภัณฑ์ข้าวไรซ์เบอร์รี่เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรในเชิงเศรษฐกิจ โดยเน้นการสร้างมาตรฐานคุณภาพการปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ให้ได้รับมาตรฐานสากล (IFOAM) เพื่อให้ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศเกิดความเชื่อมั่นในคุณภาพ พร้อมจัดแคมเปญ "รักใคร ให้ Riceberry" ในงานเปิดตัวโครงการข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์
โครงการข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมเกษตรกรให้เกิดการรวมกลุ่ม มีการบริหารจัดการภายในอย่างเข้มแข็งและสามารถดูแลตนเองได้เมื่อสิ้นสุดโครงการแล้ว ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการนำร่องเพื่อแก้ปัญหาข้าวทั้งระบบอย่างยั่งยืน เมื่อประสบความสำเร็จ กระทรวงพาณิชย์ วางแผนที่จะพัฒนาตลาดข้าวไรซ์เบอร์รี่ต่อไป ทำให้เกษตรกรและผู้ผลิตสามารถเข้าถึงตลาดได้กว้างขวางและง่ายขึ้น และส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากข้าวไรซ์เบอร์รี่เพื่อเพิ่มมูลค่า เพราะข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์เป็นสินค้าเกษตรตัวใหม่ที่น่าสนใจในตลาด
กระทรวงพาณิชย์ ได้กำหนดหลักเกณฑ์สำหรับเกษตรกร ที่มาเข้าร่วมโครงการ "ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์" ว่าต้องเป็นกลุ่มเกษตรกรที่ได้จดทะเบียนไว้กับหน่วยงานราชการ เป็นกลุ่มที่มีประสบการณ์ในการผลิตข้าวอินทรีย์ มีความมุ่งมั่นในแนวทางของเกษตรอินทรีย์ตามมาตรฐานสากล และพร้อมที่จะเพาะปลูกแบบประณีต ทั้งนี้ นอกจากกระทรวงฯ จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้ผ่านมาตรฐานเกษตรอินทรีย์สากล (IFOAM) แล้ว ยังช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรแต่ละกลุ่มเกิดการรวมกลุ่มที่ใหญ่ขึ้นที่เรียกว่า "Riceberry Valley" (ไรซ์เบอร์รี่ วัลเล่ย์) เพื่อจัดทำแผนธุรกิจร่วมกัน และมีระบบการจัดการคุณภาพตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ โดยในโอกาสต่อไปจะเน้นเรื่องการจัดหาตลาดข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ควบคู่กับการยกระดับเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์จากข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์
นางอภิรดีกล่าวเพิ่มเติมว่า ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ที่ได้ตามมาตรฐานสากลจะเป็นที่ยอมรับทั้งตลาดภายในและต่างประเทศ ตลอดจนเป็นทางเลือกใหม่ให้กับประชาชนกลุ่มคนรักสุขภาพให้หันมาบริโภคข้าวไรซ์เบอร์รี่เพิ่มมากขึ้น และพร้อมส่งต่อหรือแนะนำให้คนรอบข้างหันมาบริโภคข้าวไรซ์เบอร์รี่ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ จะช่วยผลักดันให้ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ เป็นข้าวระดับพรีเมี่ยม และเป็นสินค้าของกลุ่มคนรักสุขภาพ ท้ายสุดนี้ คือ การนำรายได้กลับคืนสู่ชุมชนของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ อันจะเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ท้องถิ่นอย่างยั่งยืน”
ทั้งนี้ งานเปิดตัวโครงการข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ กระทรวงฯ จัดให้มีกิจกรรมแคมเปญ “รักใคร ให้ Riceberry” เป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับข้าวไรซ์เบอร์รี่ ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวที่ได้จากการผสมระหว่างข้าวหอมนิลกับข้าวขาวดอกมะลิ 105 โดยข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นข้าวที่มีสีม่วง และมีคุณสมบัติทางเนื้อสัมผัสหลังการหุงต้มที่ดี กล่าวคือ หอม นุ่ม น่ารับประทาน สามารถรับประทานร่วมกับกับข้าวได้หลายประเภท มีรสชาติอร่อยตามวิถีไทยและวิถีเทศ ซึ่งข้าวไรซ์เบอร์รี่จะเป็นข้าวทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ดีสำหรับชีวิตที่สดใส ห่างไกลโรคภัย เพราะข้าวพันธุ์นี้มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือด และบำรุงร่างกายชะลอความแก่ เป็นต้น
ภายในงานฯ มีการจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับข้าวไรซ์เบอร์รี่ การแสดงผลิตภัณฑ์แปรรูปโดยกลุ่มเกษตรกรและกลุ่มผู้ผลิตในเครือข่ายมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย นอกจากนี้ เชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟกระทะเหล็กประเทศไทย (Iron Chef Thailand) ได้เข้าร่วมสาธิตการทำเมนูสุดพิเศษเพื่อสุขภาพจากข้าวไรซ์เบอร์รี่ และช่วงการเสวนา "เคล็ดลับการดูแลสุขภาพ" โดย นายแพทย์สมิทธ์ อารยะสกุล (หมอโอ๊ค)
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบในการส่งเสริมตลาดเกษตรอินทรีย์ ได้ร่วมกับ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในการดำเนินกิจกรรมยกระดับมาตรฐานคุณภาพและการตลาดผลิตภัณฑ์ข้าวไรซ์เบอร์รี่เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรในเชิงเศรษฐกิจ โดยเน้นการสร้างมาตรฐานคุณภาพการปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ให้ได้รับมาตรฐานสากล (IFOAM) เพื่อให้ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศเกิดความเชื่อมั่นในคุณภาพ พร้อมจัดแคมเปญ "รักใคร ให้ Riceberry" ในงานเปิดตัวโครงการข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์
โครงการข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมเกษตรกรให้เกิดการรวมกลุ่ม มีการบริหารจัดการภายในอย่างเข้มแข็งและสามารถดูแลตนเองได้เมื่อสิ้นสุดโครงการแล้ว ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการนำร่องเพื่อแก้ปัญหาข้าวทั้งระบบอย่างยั่งยืน เมื่อประสบความสำเร็จ กระทรวงพาณิชย์ วางแผนที่จะพัฒนาตลาดข้าวไรซ์เบอร์รี่ต่อไป ทำให้เกษตรกรและผู้ผลิตสามารถเข้าถึงตลาดได้กว้างขวางและง่ายขึ้น และส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากข้าวไรซ์เบอร์รี่เพื่อเพิ่มมูลค่า เพราะข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์เป็นสินค้าเกษตรตัวใหม่ที่น่าสนใจในตลาด
กระทรวงพาณิชย์ ได้กำหนดหลักเกณฑ์สำหรับเกษตรกร ที่มาเข้าร่วมโครงการ "ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์" ว่าต้องเป็นกลุ่มเกษตรกรที่ได้จดทะเบียนไว้กับหน่วยงานราชการ เป็นกลุ่มที่มีประสบการณ์ในการผลิตข้าวอินทรีย์ มีความมุ่งมั่นในแนวทางของเกษตรอินทรีย์ตามมาตรฐานสากล และพร้อมที่จะเพาะปลูกแบบประณีต ทั้งนี้ นอกจากกระทรวงฯ จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้ผ่านมาตรฐานเกษตรอินทรีย์สากล (IFOAM) แล้ว ยังช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรแต่ละกลุ่มเกิดการรวมกลุ่มที่ใหญ่ขึ้นที่เรียกว่า "Riceberry Valley" (ไรซ์เบอร์รี่ วัลเล่ย์) เพื่อจัดทำแผนธุรกิจร่วมกัน และมีระบบการจัดการคุณภาพตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ โดยในโอกาสต่อไปจะเน้นเรื่องการจัดหาตลาดข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ควบคู่กับการยกระดับเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์จากข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์
นางอภิรดีกล่าวเพิ่มเติมว่า ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ที่ได้ตามมาตรฐานสากลจะเป็นที่ยอมรับทั้งตลาดภายในและต่างประเทศ ตลอดจนเป็นทางเลือกใหม่ให้กับประชาชนกลุ่มคนรักสุขภาพให้หันมาบริโภคข้าวไรซ์เบอร์รี่เพิ่มมากขึ้น และพร้อมส่งต่อหรือแนะนำให้คนรอบข้างหันมาบริโภคข้าวไรซ์เบอร์รี่ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ จะช่วยผลักดันให้ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ เป็นข้าวระดับพรีเมี่ยม และเป็นสินค้าของกลุ่มคนรักสุขภาพ ท้ายสุดนี้ คือ การนำรายได้กลับคืนสู่ชุมชนของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ อันจะเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ท้องถิ่นอย่างยั่งยืน”
ทั้งนี้ งานเปิดตัวโครงการข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ กระทรวงฯ จัดให้มีกิจกรรมแคมเปญ “รักใคร ให้ Riceberry” เป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับข้าวไรซ์เบอร์รี่ ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวที่ได้จากการผสมระหว่างข้าวหอมนิลกับข้าวขาวดอกมะลิ 105 โดยข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นข้าวที่มีสีม่วง และมีคุณสมบัติทางเนื้อสัมผัสหลังการหุงต้มที่ดี กล่าวคือ หอม นุ่ม น่ารับประทาน สามารถรับประทานร่วมกับกับข้าวได้หลายประเภท มีรสชาติอร่อยตามวิถีไทยและวิถีเทศ ซึ่งข้าวไรซ์เบอร์รี่จะเป็นข้าวทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ดีสำหรับชีวิตที่สดใส ห่างไกลโรคภัย เพราะข้าวพันธุ์นี้มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือด และบำรุงร่างกายชะลอความแก่ เป็นต้น
ภายในงานฯ มีการจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับข้าวไรซ์เบอร์รี่ การแสดงผลิตภัณฑ์แปรรูปโดยกลุ่มเกษตรกรและกลุ่มผู้ผลิตในเครือข่ายมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย นอกจากนี้ เชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟกระทะเหล็กประเทศไทย (Iron Chef Thailand) ได้เข้าร่วมสาธิตการทำเมนูสุดพิเศษเพื่อสุขภาพจากข้าวไรซ์เบอร์รี่ และช่วงการเสวนา "เคล็ดลับการดูแลสุขภาพ" โดย นายแพทย์สมิทธ์ อารยะสกุล (หมอโอ๊ค)