ADS


Breaking News

เสนา ร่วมมือ “บี.กริม” เปิดฉากลงทุนไฟฟ้า ทั้ง Solar Farm - Solar Rooftop ติดหลังคาลูกค้า

     บมจ.เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) ผู้ประกอบการอสังหาฯ ชั้นนำของเมืองไทย ผนึกบริษัท "บี.กริม เพาเวอร์" ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานยักษ์ใหญ่ จัดพิธีเซ็นต์สัญญา ร่วมลงทุนธุรกิจ "โซล่าร์ ฟาร์ม" ด้านผู้บริหาร "ผศ. ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ มั่นใจต่อยอดธุรกิจอสังหาฯ ที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง คาดเตรียมจ่ายไฟเข้าระบบได้ภายในสิ้นปี 2558 พร้อมเตรียมต่อยอดในธุรกิจ Solar Rooftop ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ของเสนา" เซ็นต์สัญญาเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2558 ณ ห้อง Pinnacle โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ
     นางเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการบริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาความร่วมมือธุรกิจกับบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานยักษ์ใหญ่ ขณะที่เสนาเป็นนักพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากว่า 30 ปี โดยมี Core Value มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับลูกค้า (Customer Centric) ประกอบกับแนวคิดการบริการหลังการขาย 360 องศา ที่จะดูแลลูกค้าหลังการขายตลอดจนการสร้างมูลค่าเพิ่มใหเบ้าน ทำให้บริษัทฯ มองเห็นความสำคัญในการเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทนในรูปแบบพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อต่อยอดธุรกิจหลัก ซึ่งการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับบ้าน เจ้าของบ้านสามารถเอาพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้เองในบ้าน หรือขายให้กับภาครัฐ เพื่อสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอได้ โดยบริษัทจะร่วมลงทุนในธุรกิจโซลาร์ฟาร์มผ่านการตั้งบริษัทร่วมทุนโดยใช้ ชื่อว่า บี.กริม เสนา จำกัด คาดว่าจะได้สรุปเงินลงทุน ขนาดกำลังการผลิตของโซลาร์ฟาร์ม ในไตรมาส 3 ปีนี้ เบื้องต้นจะใช้งบลงทุนหลัก 1,000 ล้านบาท ซึ่งมาจากกระแสเงินสดของบริษัท และกู้ยืมจากสถาบันการเงิน แต่จะไม่มีการเพิ่มทุน อย่างไรก็ตาม โครงการโซลาร์ฟาร์มดังกล่าว อยู่ระหว่างรอดูนโยบายของภาครัฐ ที่จะออกมาเปิดประมูล ซึ่งเป็นโครงการโซลาร์ฟาร์มค้างท่อ ซึ่งหากได้ทำ มั่นใจว่าจะสามารถจ่ายไฟได้ในต้นปี 59
     หลังจากเห็นการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 2554 ทำให้บริษัทฯ เริ่มตระหนักถึงความอันตรายจากภัยธรรมชาติที่ควบคุมไม่ได้ จึงเริ่มมีการศึกษาเรื่องพลังงานทดแทน ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดเพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และเป็นโอกาสที่ดีที่บริษัทฯ ได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานอย่างบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จนตกลงที่จะร่วมมือกันทำธุรกิจ Solar Farm เป็นการเริ่มต้นการทำธุรกิจพลังงานทดแทนขนาดใหญ่ เพื่อสร้าง Economic of Scale นำไปสู่การเพิ่มมูลค่าให้บ้านในโครงการของเสนาด้วย Solar Rooftop

     "การร่วมทุนกับ บี.กริม เพาเวอร์ ถือเป็นมิติใหม่ในการลงทุนของ SENA หลังจากบอร์ดได้มอบหมายให้ฝ่ายบริหารไปศึกษาแนวทางในการขยายการลงทุนสู่ ธุรกิจพลังงานทดแทน เพื่อต่อยอดธุรกิจและ บี.กริม เพาเวอร์ถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานชั้นนำของโลก ทำให้เราตัดสินใจร่วมลงทุนธุรกิจ Solar Farm โปรเจคแรกนี้ร่วมกับทาง บี.กริม เพาเวอร์ และมั่นใจว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย เนื่องจากต่างมีจุดแข็ง โดย SENA ถือเป็นผู้ประกอบการอสังหาฯ ชั้นนำของเมืองไทย มีที่ดินพร้อมสำหรับรองรับการก่อสร้าง หรือขยายการลงทุน ขณะที่ บี.กริม เพาเวอร์ ก็มีความชำนาญด้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ เมื่อผนวกกันแล้ว จะยิ่งทำให้มั่นใจว่าจะช่วยเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่าง ยั่งยืน และแข็งแกร่งในอนาคต โดยคาดว่าจะเห็นภาพได้ชัดภายในไตรมาส 3 และจะจ่ายไฟได้ในต้นปี 59" ผศ. ดร. เกษรา กล่าว
     "เป้าหมายหลักในการลงทุนธุรกิจ Solar Farm จริงๆ แล้วก็เพื่อต่อยอดไปยัง Solar Rooftop ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ของเสนา การทำ Solar Farm จะทำให้ประหยัดต้นทุน ได้ราคาแผงโซล่าร์ที่ถูกลง อีกทั้งยังเป็นการต่อยอดธุรกิจ Recurring Income ของบริษัทฯ สร้างผลตอบแทนและรายได้ที่สม่ำเสมอ เนื่องจากปัจจุบันรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมด้านพลังงานทดแทน รัฐจะรับซื้อไฟฟ้าที่ผลิตได้ทั้งหมด กำหนดให้ราคาแบบ Feed In Tariff ที่ 5.66 บาทต่อหน่วย (KW/H) เป็นระยะเวลา 25 ปี ทำให้เป็นการสร้างรายได้เพิ่มให้กับลูกบ้าน และสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับบริษัท โดยเบื้องต้นจะมีการติดตั้งบนหลังคาของโครงการ ซึ่งเตรียมวางแผนติดตั้ง 3 โครงการ หรือ 70 หลัง ขึ้นอยู่กับลูกบ้านซึ่งโครงการโซลาร์รูฟท็อปนี้ บริษัทได้ยื่นขอ PPA หรือสัญญาขายไฟให้กับภาครัฐ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มติดตั้งได้ในไตรมาส 3 และคาดว่าเตรียมจ่ายไฟได้ภายในปีนี้ สำหรับความคืบหน้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ บริษัทจะปรับแผนเปิดโครงการใหม่ปีนี้ โดยจะลดการเปิดโครงการคอนโดฯใหม่และไปเพิ่มโครงการแนวราบ รวมทั้งปรับเพิ่มมูลค่าเป็นมากกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งการปรับแผนเป็นผลจากการเฝ้าระวังและปรับตัว เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงมีความเสี่ยง จึงหันไปเน้นลูกค้าระดับกลางบน (B+) เพื่อลดความเสี่ยง แต่ยังคงเป้ายอดขาย 4,500 ล้านบาท" ผศ. ดร.เกษรา กล่าวในที่สุด
     นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ เปิดเผยว่า "การร่วมมือสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในครั้งนี้ สอดคล้องกับแผนธุรกิจของบริษัท ด้วยเหตุที่ บี.กริม เพาเวอร์ เป็นหนึ่งในผู้นำทางด้านธุรกิจผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน ซึ่งปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการผลิตและขายไฟฟ้า และไอน้ำ อยู่แล้วทั้งหมด 10 โรง กำลังการผลิตรวมประมาณ 1,200 เมกะวัตต์ และยังมีโรงไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างอีก 8 โรง กำลังการผลิตรวมทั้งสินประมาณ 2,200 เมกะวัตต์ ด้วยประสบการณ์อันยาวนานและความพร้อมในทุกด้าน บี.กริม เพาเวอร์ จึงขยายธุรกิจมาทางด้านพลังงานทดแทน เช่น แสงแดด และ ลม รวมถึงการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม ลาว และพม่า ในธุรกิจพลังงาน ทั้งที่ใช้ ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน และน้ำ โดยวางเป้าหมายไว้ว่าในอีก 5 ปี ข้างหน้า จะมีกำลังการผลิตถึง 5,000 เมกะวัตต์
     ในการพิจารณาการลงทุนของกลุ่ม บี.กริม จะเน้นการเป็นพันธมิตรยาวนานกับบริษัทที่ได้รับความเชื่อถือและมีชื่อเสียง ที่ดี กลุ่มเสนา ก็เป็นผู้ร่วมลงทุนที่เราภาคภูมิใจที่มีโอกาสได้ทำงานร่วมกันและเชื่อมั่น อย่างยิ่งว่า เราจะร่วมมือกันก่อสร้างและบริหารโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีคุณภาพและ ประสิทธิภาพสูงสุด"