ADS


Breaking News

“ไมเนอร์” ทุ่มทุนนำเข้าแบรนด์ “BANANA REPUBLIC” ประกาศชิงชัยธุรกิจแฟชั่นเสื้อผ้า ผุดแฟล็กชิพสโตร์ในห้างหรูใจกลางเมือง ผู้นำตลาดแฟชั่นชุดทำงานสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี กลุ่มลักชัวรี่

  • ผุดแฟล็กชิพสโตร์สุดหรูแห่งแรกในเมืองไทยใจกลางแฟชั่นดิสทริคส์ ชั้น 1 “ดิ เอ็มควอเทียร์”
  • ผู้นำตลาดแฟชั่นชุดทำงานสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี กลุ่มลักชัวรี่
  • เจาะกลุ่มคนเมือง (urbanization) ที่รักการใช้ชีวิตแบบเออร์เบินนิสต้า

ประเทศไทยเป็นพื้นที่ ที่มีศักยภาพและความต้องการ บริโภคสินค้าแฟชั่นเสื้อผ้าสูง ซึ่งประกอบกับ การเคลื่อนไหวของแบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้า ทั้งในและต่างประเทศ ที่มีอยู่มากมายในปัจจุบัน เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ ของคนเมืองที่แสวงหาทางเลือก ใหม่ๆ อยู่เสมอ รวมทั้งในส่วนของตลาด กลุ่มเสื้อผ้าแฟชั่นชุดทำงาน สุภาพบุรุษและสุภาพสตรี กลุ่มลักชัวรี่นั้น ยังมีคู่แข่งในตลาดน้อยราย
       ล่าสุด “ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น” ประกาศชิงชัยธุรกิจแฟชั่นเสื้อผ้านำเข้าจากต่างประเทศ ทุ่มทุนเปิดตัวแบรนด์ “บานาน่า รีพับบลิค (BANANA REPUBLIC)” พร้อมเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนร่วมสัมภาษณ์ผู้บริหารแบรนด์  มร.เจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และคุณจักร เฉลิมชัย รองประธานกลุ่ม บริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่มาเผยมุมมองการบริหารธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าต่างประเทศ รวมทั้งความพร้อมเปิดเกมรุก เข้าชิงชัยในการแข่งของธุรกิจ แบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าในเมืองไทย งานนี้จัดขึ้น ณ ร้าน Sava Dining ชั้น 6 อาคาร เดอะ เฮลิกส์ ควอเทียร์ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2558

มร. เจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการจัดจำหน่าย สินค้าต่างประเทศในประเทศไทย ทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องสำอาง และเครื่องใช้ในครัวเรือนกลุ่มลักชัวรี่ เปิดเผยว่า “ภาพรวมตลาดเสื้อผ้าแฟชั่นในประเทศไทยยังมีศักยภาพสูง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ที่มีความต้องการบริโภคสินค้าแฟชั่น นั้นยังสูงมาก แม้ในสภาวะ เศรษฐกิจปัจจุบัน ที่ลูกค้ามีความระมัดระวัง ในการใช้จ่ายกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย มากขึ้น แต่ในระยะยาวแล้ว ตลาดยังสามารถเติบโต ได้อีกมาก ทั้งตลาดระดับกลางและระดับบน จากอัตราการขยายตัวของชุมชนเมือง (urbanization) และปัจจัยบวกจากกลุ่มลูกค้าระดับกลาง ที่มีรายได้เพิ่มสูงขึ้น ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ขณะที่กลุ่มลูกค้าระดับกลางขึ้นไป ถึงระดับบนไม่ได้รับผลกระทบ ทางเศรษฐกิจมากนัก

ทั้งนี้ ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น ในฐานะผู้นำเข้า ธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่นอินเตอร์แบรนด์ มองเห็นโอกาสการเปิดเกมรุก เข้าชิงชัยในการแข่งขันของธุรกิจ แบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้านำเข้าในเมืองไทย ประกาศเปิดตัวแบรนด์ บานาน่า รีพับบลิค อย่างเป็นทางการ แบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าสไตล์อเมริกันโมเดิร์นระดับตำนานจากเมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1978
แบรนด์ บานาน่า รีพับบลิค ก่อตั้งในปี ค.ศ.1978 (พ.ศ. 2521) โดยสองสามีภรรยา Mel และ Patricia Ziegler ด้วยคอนเซ็ปต์เสื้อผ้าสไตล์ซาฟารี หลังจากนั้น 5 ปี บริษัท GAP Inc. ได้เข้ามาซื้อกิจการในปี ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526) และได้ปรับลุคของแบรนด์ให้อยู่ในกลุ่ม Up Market Brand โดยมีจุดขายคือ Accessible Luxury ความหรูหราที่เข้าถึงได้ รวมทั้ง Brand Promise ของแบรนด์ คือ “True Outfitters of Modern American Style”
ในเครือของ GAP Inc.นั้น จะมีแบรนด์ OLD NAVY ที่จับกลุ่มตลาดทั่วไป (Mass) แบรนด์ GAP ที่จับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง รวมทั้งแบรนด์ BANANA REPUBLIC ที่จับกลุ่มลูกค้าระดับบน โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ ซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา และมีสาขากว่า 600 สาขาทั่วโลก
สำหรับในประเทศไทย บานาน่า รีพับบลิค พร้อมให้ทุกท่านได้สัมผัสกับสไตล์อเมริกันโมเดิร์นที่แท้จริงกับ บานาน่า รีพับบลิค แฟล็กชิพสโตร์แห่งแรกในเมืองไทย ณ ชั้น 1 อาคาร เดอะ เฮลิกส์ ควอเทียร์ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์
ประเทศไทยถือเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพและมีความต้องการบริโภคสินค้าแฟชั่นสูง ประกอบกับการเคลื่อนไหวทั้งจาก International brand และ Thai brand มีมากมายอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งตลาดเสื้อผ้าแนวทำงานบิสสิเนสลุคนั้น ยังมีช่องว่างให้เข้ามาในตลาดได้ไม่ยากนัก และสินค้าของแบรนด์ บานาน่า รีพับบลิค นั้น เป็นสินค้าที่อยู่ในกลุ่มลักชัวรี่ ในราคาที่เข้าถึงได้
การเลือกเปิดแฟล็กชิพสโตร์แห่งแรกในประเทศไทย ณ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ นั้น เนื่องด้วยศูนย์การค้า อยู่ในทำเลของ CBD (Central Business District) ที่กลุ่มผู้บริโภคมีกำลังซื้อค่อนข้างสูงทั้งชาวไทยและต่างชาติ ผนวกกับคอนเซ็ปต์ความเป็นแฟชั่นดิสทริคส์ของศูนย์การค้า และพื้นที่ของร้านมีขนาดเหมาะสมที่จะเปิดเป็นแฟล็กชิพสโตร์  ทางบริษัทฯ ใช้งบลงทุน 50 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้า 30 ล้านบาท สัดส่วนสินค้าแบ่งเป็นสุภาพสตรี 55% และสุภาพบุรุษ 45%  และค่าตกแต่งร้าน 20 ล้านบาท ต่อหนึ่งร้าน เนรมิตแฟล็กชิพสโตร์แห่งแรกให้เป็นบูติกสุดหรู บนเนื้อที่กว่า 450 ตร.ม. พร้อมสะกดทุกสายตาด้วยโครงสร้างร้านคอนเซ็ปต์ใหม่ ที่ดูโปร่ง สบายตา รวมทั้งวิธีการจัดวางสินค้าที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้นักช้อปได้เพลิดเพลินในการเลือกช้อปปิ้งได้อย่างมีอรรถรสเหนือคำบรรยาย
สำหรับกลุ่มเป้าหมายของบานาน่า รีพับบลิค ได้แก่ ชายและหญิง อายุ 25-45 ปี เป็นกลุ่มที่มีไลฟ์สไตล์ นิยามใหม่แห่งวิถีชีวิตของคนเมืองกับคอนเซ็ปต์อเมริกันโมเดิร์นสไตล์ ซึ่งในงานเปิดตัวแฟล็กชิพสโตร์ ของ บานาน่า รีพับบลิค วันพุธที่ 27 พฤษภาคม นี้ ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น นำเสนองานธีมปาร์ตี้สุดชิค “Nice to meet you, Bangkok” เปิดโอกาสให้เหล่าเออร์เบินนิสต้า สาวกบานาน่า รีพับบลิค ในเมืองไทย ได้มาอัพเดทเทรนด์คอลเล็คชั่นใหม่ ผลงานสร้างสรรค์ของ มาริสสา เว็บบ์ (Marissa Webb) ดีไซเนอร์คนล่าสุดของแบรนด์ในชื่อ “ON THE ROAD” สำหรับคอลเล็คชั่นซัมเมอร์ 2015 อย่างใกล้ชิดอีกด้วย” เจมส์ ริชาร์ด กล่าว
เจมส์ ริชาร์ด ยังกล่าวถึงกลยุทธ์ด้านราคา (Price Strategy) เพิ่มเติมว่า “ราคาสินค้าของแบรนด์ บานาน่า รีพับบลิค อยู่ในกลุ่มราคาที่ใกล้เคียงกับ ราคามาตรฐานที่อเมริกา ด้วยดีไซน์ วัสดุ และคุณภาพการตัดเย็บ ที่เราเชื่อว่าผู้บริโภคจะพอใจ กับสิ่งที่ได้เมื่อเทียบกับราคาที่จ่าย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกลยุทธ์ทางการตลาด จะต้องเน้นสร้างการรับรู้ของแบรนด์ (Brand Awareness) ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์, นิตยสาร, สื่อดิจิตอลและสื่อ Out of Home เพื่อให้คนรู้จัก จดจำและเกิดการทดลองใช้สินค้า เพราะเมื่อผู้บริโภคชื่นชอบสินค้า จะเกิดความพึงพอใจและชื่นชอบ แบรนด์ บานาน่า รีพับบลิค ในที่สุด
คุณจักร เฉลิมชัย รองประธานกลุ่ม บริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
          บานาน่า รีพับบลิค เป็นแบรนด์แฟชั่นที่เหมาะสำหรับ การแต่งตัวในทุกๆ โอกาสของวัน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าทำงาน  เสื้อผ้าในวันพักผ่อนและเสื้อผ้าสำหรับโอกาสพิเศษต่างๆ
สำหรับแผนการขยายสาขาคาดว่าจะขยายสาขาเพิ่มขึ้น ทั้งในกลุ่มห้างสรรพสินค้า ทั้งในส่วนของ Free Standing Store และในส่วนของ Shop in Shop ใน Department Store ที่มีอัตราส่วนการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน โดยตั้งเป้าหมายขยายสาขาภายใน 5 ปี บริเวณเส้นทางเดินรถไฟฟ้า ไม่ต่ำกว่า 12-15 สาขา โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 300 ล้านบาท ภายใน 5 ปี
ปัจจุบัน ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น หรือไมเนอร์ รีเทล กรุ๊ป จัดหน่ายสินค้าแบรนด์เนม ทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องสำอางและเครื่องใช้ในครัวเรือนกลุ่มลักชัวรี่ ได้แก่ แบรนด์ Charles & Keith, Esprit, Bossini, GAP, Pedro, TUMI, Red Earth, Zwilling J.A. Henckels
ในปี พ.ศ.  2558 บริษัทฯ วางกลยุทธ์ทางธุรกิจ ทั้งการขยายสาขาของแบรนด์ในปัจจุบัน ไปในพื้นที่ใหม่ๆ และการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ เพื่อจับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ที่หลากหลายขึ้น รวมถึงการศึกษาความเป็นไปได้ ในการลงทุนเพิ่มเติม ในแบรนด์เสื้อผ้าในกลุ่มอื่นๆ นอกจากเสื้อผ้าแฟชั่น รวมถึงสินค้าไลฟ์สไตล์อื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายระยะยาวที่ต้องการให้กลุ่มธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้า เติบโตในระดับ Double Digit Growth ทั้งรายได้และกำไร