งานเฉลิมพระเกียรติ ๗๐ พรรษา

Breaking News

อว. ยกระดับความปลอดภัยนิวเคลียร์ด้วยกฎหมายสากล เดินหน้าเตรียมพร้อมโรงไฟฟ้า SMR หนุนเศรษฐกิจไทยสู่ Net Zero

ปรมาณูเพื่อสันติกระทรวง อว. ยกระดับความปลอดภัยด้วยกฎหมายและระบบกำกับดูแล พร้อมเดินหน้าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มาตรฐานปลอดภัยขนาดเล็ก (SMR) เพื่อเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตประชาชน

     กรุงเทพฯ – 16 ธันวาคม 2568 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เดินหน้ายกระดับระบบกำกับดูแลด้านพลังงานนิวเคลียร์และรังสีของประเทศ ด้วยการพัฒนากฎหมาย มาตรการความปลอดภัย และกลไกการกำกับตามมาตรฐานสากล พร้อมเตรียมความพร้อมรองรับเทคโนโลยีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็กแบบโมดูลาร์ (Small Modular Reactor: SMR) เพื่อเสริมความมั่นคงทางพลังงาน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน

     ศาสตราจารย์ ดร. ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ ครั้งที่ 1/2568 ซึ่งมีผู้แทนจากกระทรวงต่าง ๆ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขาเข้าร่วมประชุม ณ ทำเนียบรัฐบาล โดยมี นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ทำหน้าที่กรรมการและเลขานุการฯ

    ที่ประชุมมีมติชัดเจนว่า “ความปลอดภัยของประชาชนต้องมาก่อน” การพัฒนาและใช้เทคโนโลยีนิวเคลียร์ของประเทศไทยต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและระบบกำกับดูแลที่รัดกุม โปร่งใส และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคม และรองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของประเทศในระยะยาว

     ศ.ดร. ศุภชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า หนึ่งในประเด็นสำคัญของการประชุมคือการเตรียมความพร้อมด้านการกำกับดูแลโรงไฟฟ้า SMR ซึ่งเป็นเทคโนโลยีพลังงานสะอาดที่มีความปลอดภัยสูง มีระบบป้องกันอัตโนมัติ ช่วยเสริมเสถียรภาพระบบไฟฟ้า ลดการพึ่งพาการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ และสนับสนุนเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ของประเทศไทย

     ในส่วนของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) กระทรวง อว. อยู่ระหว่างการกำหนดกรอบการอนุญาตสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ การควบคุมดูแลสถานที่จัดการกากกัมมันตรังสี และเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้ว ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ความปลอดภัยสากล เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนก่อนการนำเทคโนโลยีนิวเคลียร์มาใช้จริง

     นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณา (ร่าง) พระราชบัญญัติความรับผิดทางแพ่งต่อความเสียหายทางนิวเคลียร์ พ.ศ. … ซึ่งถือเป็นกฎหมายสำคัญในการคุ้มครองประชาชนและผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ตลอดจนช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อการดำเนินงานด้านนิวเคลียร์ของประเทศ และเอื้อต่อการลงทุนจากต่างประเทศในอนาคต

     ด้าน นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ เปิดเผยว่า ที่ประชุมยังได้หารือแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาด้านพลังงานนิวเคลียร์ของประเทศ ผ่านการบูรณาการความร่วมมือระหว่างสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ และสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) โดยมุ่งเน้น 3 ประเด็นเร่งด่วน ได้แก่

  1. ความพร้อมด้านโรงไฟฟ้า SMR

  2. การพัฒนาอุตสาหกรรมธาตุหายาก

  3. เทคโนโลยีนิวเคลียร์ฟิวชัน

     ควบคู่กับการวางแผนระยะยาว ภายใต้นโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีนิวเคลียร์ในอนาคต

     พร้อมกันนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพิ่มเติม เพื่อเสริมประสิทธิภาพการกำกับดูแล ได้แก่ คณะอนุกรรมการสรรหาและวิเคราะห์ข้อสอบเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทางรังสี และ คณะอนุกรรมการด้านการแพทย์ เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในทุกมิติ

     ทั้งนี้ คณะกรรมการได้เน้นย้ำบทบาทของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ในฐานะหน่วยงานหลักด้านการกำกับดูแลความปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสีของประเทศ โดยให้เร่งพัฒนาระบบอนุญาต การประเมินความเสี่ยง การติดตามควบคุมมาตรฐานบุคลากรและสถานประกอบการ ตลอดจนสนับสนุนการวิจัย การพัฒนากำลังคนผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถใช้ประโยชน์จากพลังงานนิวเคลียร์ได้อย่าง ปลอดภัย โปร่งใส และยั่งยืน