กรมปศุสัตว์แถลงข่าว “วันอนุรักษ์และพัฒนากระบือปลักไทย 2569” สืบสานเศรษฐกิจพอเพียง รักษาสายพันธุ์กระบือไทย

กรมปศุสัตว์แถลงใหญ่งานวันอนุรักษ์และพัฒนากระบือปลักไทย ประจำปี พ.ศ. 2569 เพื่ออนุรักษ์ สืบสาน รักษา ต่อยอด กระบือปลักไทย ภายใต้หลัก “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการอนุรักษ์สายพันธุ์กระบือปลักไทย”

     กรมปศุสัตว์จัดแถลงข่าวการจัดงาน วันอนุรักษ์และพัฒนากระบือปลักไทย ประจำปี พ.ศ. 2569 ภายใต้หลัก “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการอนุรักษ์สายพันธุ์กระบือปลักไทย” เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และพัฒนากระบือปลักไทย ซึ่งถือเป็นสัตว์เศรษฐกิจและมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ

     เมื่อวันพุธที่ 24 ธันวาคม 2568 เวลา 16.30 น. นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานดังกล่าว พร้อมด้วยผู้บริหารกรมปศุสัตว์ สื่อมวลชน และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงานซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13–14 มกราคม 2569 ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาโคนม อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา การแถลงข่าวครั้งนี้มีการจัดแสดงพันธุ์กระบือปลักไทย รวมถึงผลิตภัณฑ์จากกระบือ ณ ลานเอนกประสงค์ หน้าตึกอำนวยการ กรมปศุสัตว์ ถนนพญาไท กรุงเทพมหานคร

     นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำเนินโครงการอนุรักษ์และพัฒนากระบือไทย เพื่อพัฒนาสายพันธุ์กระบือปลักไทยให้มีลักษณะดี มีคุณภาพ เพิ่มจำนวนกระบือ อันจะนำไปสู่การเพิ่มรายได้แก่เกษตรกร ส่งเสริมและอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย โดยใช้วิถีชีวิตแบบดั้งเดิมที่นำกระบือไปใช้ประโยชน์ในการเกษตร ต่อยอดเกษตรทฤษฎีใหม่ ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

     กรมปศุสัตว์ได้สนองพระราชดำริร่วมดำเนินโครงการดังกล่าว ผ่านการให้บริการผสมเทียมกระบือที่มีความพร้อม โดยใช้น้ำเชื้อพ่อพันธุ์กระบือปลักไทยพันธุ์ดีของกรมปศุสัตว์ รวมถึงการสนับสนุนพ่อพันธุ์กระบือปลักไทยสำหรับคุมฝูงและปรับปรุงสายพันธุ์ในฝูงกระบือของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ปัจจุบันมีกระบือตั้งท้องจากการผสมเทียมและการใช้พ่อพันธุ์คุมฝูงรวมกว่า 400 ตัว และมีลูกกระบือเกิดใหม่มากกว่า 500 ตัว

     สำหรับการจัดงานวันอนุรักษ์และพัฒนากระบือปลักไทย ประจำปี พ.ศ. 2569 มีวัตถุประสงค์เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีต่อการพัฒนาด้านการปศุสัตว์ของประเทศ รวมถึงเป็นเวทีเผยแพร่องค์ความรู้ด้านการคัดเลือกกระบือพันธุ์ดี การเลี้ยง การจัดการฟาร์ม การปรับปรุงพันธุ์ การป้องกันโรคระบาด เทคโนโลยีอาหารสัตว์ และเทคโนโลยีการผลิตกระบือปลักไทยคุณภาพ

     ภายในงานแบ่งพื้นที่จัดกิจกรรมออกเป็น 2 โซนหลัก ได้แก่

     โซนที่ 1 นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และการนำเสนอผลการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์และพัฒนากระบือปลักไทย

     โซนที่ 2 นิทรรศการ “วิถีชีวิตคนเลี้ยงควาย ควายเลี้ยงคน” ถ่ายทอดความสัมพันธ์ระหว่างคนกับควาย ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อวิถีชีวิตไทยมาอย่างยาวนาน พร้อมการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกระบือ เช่น เนื้อควาย กาแฟนมควาย กาแฟขี้ควาย ปุ๋ย ผ้ามูลมงคล และการท่องเที่ยวเชิงเกษตร รวมถึงกิจกรรมควายแสนรู้ให้ผู้ร่วมงานได้มีส่วนร่วม

🔹 การประกวดกระบือปลักไทย 16 รุ่น

กระบือปลักไทยดำ

1. เพศผู้ รุ่นลูกกระบือ (Calf Division) อายุ 10–18 เดือน

2. เพศเมีย รุ่นลูกกระบือ (Calf Division) อายุ 10–18 เดือน

3. เพศผู้ รุ่นกระบือรุ่น (Intermediate Division) อายุ 18–24 เดือน

4. เพศเมีย รุ่นกระบือรุ่น (Intermediate Division) อายุ 18–24 เดือน

5. เพศผู้ รุ่นกระบือหนุ่มสาว (Junior Division) อายุ 24–36 เดือน

6. เพศเมีย รุ่นกระบือหนุ่มสาว (Junior Division) อายุ 24–36 เดือน

7. เพศผู้ รุ่นกระบือโตเต็มวัย (Senior Division) อายุ 36–48 เดือน

8. เพศเมีย รุ่นกระบือโตเต็มวัย (Senior Division) อายุ 36–48 เดือน

กระบือปลักไทยเผือก

9. เพศผู้ รุ่นลูกกระบือ (Calf Division) อายุ 10–18 เดือน

10. เพศเมีย รุ่นลูกกระบือ (Calf Division) อายุ 10–18 เดือน

11. เพศผู้ รุ่นกระบือรุ่น (Intermediate Division) อายุ 18–24 เดือน

12. เพศเมีย รุ่นกระบือรุ่น (Intermediate Division) อายุ 18–24 เดือน

13. เพศผู้ รุ่นกระบือหนุ่มสาว (Junior Division) อายุ 24–36 เดือน

14. เพศเมีย รุ่นกระบือหนุ่มสาว (Junior Division) อายุ 24–36 เดือน

15. เพศผู้ รุ่นกระบือโตเต็มวัย (Senior Division) อายุ 36–48 เดือน

16. เพศเมีย รุ่นกระบือโตเต็มวัย (Senior Division) อายุ 36–48 เดือน

🔹 ถ้วยพระราชทาน (3 รางวัล)

1. Grand Champion กระบือปลักไทย เพศผู้

2. Grand Champion กระบือปลักไทย เพศเมีย

3. กระบือปลักไทยยอดเยี่ยมด้านการใช้ประโยชน์ทางการเกษตร

    โดยกระบือที่เข้าประกวดต้องผ่านการตรวจยืนยันสายพันธุ์จากห้องปฏิบัติการ และขึ้นทะเบียนตามมาตรฐาน “กระบือปลักไทย DLD BU 01/2023” พร้อมมีเครื่องหมายประจำตัวสัตว์แบบถาวร

    อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวเพิ่มเติมว่า กระบือเพศผู้ที่ได้รับรางวัลจะมีการเก็บรักษาพันธุกรรมไม่น้อยกว่า 500 โดส ซึ่งน้ำเชื้อที่ได้ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของกรมปศุสัตว์ เพื่อนำไปใช้ในการอนุรักษ์ สืบสาน รักษา และต่อยอดกระบือปลักไทย ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงต่อไป