งานเฉลิมพระเกียรติ ๗๐ พรรษา

Breaking News

“ชวน” ย้ำซื้อเสียงคือมหันตภัยทำลายชาติ จี้ กกต. เร่งสางคดีฮั้ว ส.ว. หวั่นกระทบความน่าเชื่อถือองค์กรอิสระ

‘ชวน’ กรีดซื้อเสียง ‘มหันตภัยทำลายชาติ’ ติง “กกต.” ต้องเร่งสางคดีฮั้ว สว.

     ที่สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2568 นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีมอบรางวัล “Anti-Corruption Awards 2025” ซึ่งจัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) เพื่อเชิดชูองค์กรและบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการต่อต้านการทุจริต พร้อมร่วมปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “คอร์รัปชั่น มหันตภัยทำลายชาติ”

     นายชวน กล่าวว่า สถานการณ์ทุจริตในประเทศไทยยังคงทวีความรุนแรง โดยเฉพาะ “การซื้อเสียง” ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของความเสียหายที่ส่งผลเป็นลูกโซ่ เมื่อผู้ที่ใช้เงินแลกคะแนนได้เข้าสู่อำนาจ ทั้งพรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีก็มักแต่งตั้งข้าราชการที่มีพฤติกรรมไม่โปร่งใส ส่งผลให้ระบบราชการไทยตกอยู่ในวงจรคอร์รัปชั่นอย่างต่อเนื่อง

     อดีตนายกรัฐมนตรี ยังได้ตำหนิคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าขาดความจริงจังในการตรวจสอบพฤติกรรมซื้อเสียง แม้ตนจะเคยทำหนังสือแจ้งข้อมูลและเร่งรัดให้ดำเนินการ แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ได้รับคำตอบหรือเห็นการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสะท้อนถึงช่องว่างในการบังคับใช้กฎหมายเลือกตั้ง

ติง กกต. ปมคดี “ฮั้ว ส.ว.” กระทบความชอบธรรมองค์กรอิสระ

     นายชวนแสดงความกังวลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่อยู่ในอำนาจการตรวจสอบของ กกต. โดยระบุว่า หากปล่อยให้ผู้กระทำผิดเข้ามามีบทบาทในกระบวนการสรรหาและแต่งตั้งบุคคลในองค์กรอิสระ จะทำให้ต้นทางของกระบวนการยุติธรรมขาดความชอบธรรม และอาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของคำวินิจฉัยต่างๆ ในอนาคต

สะท้อนปัญหาล็อบบี้คดีการเมือง – วงจรคอร์รัปชั่นฝังลึก

       อดีตนายกฯ ยังกล่าวถึงกรณีการวิ่งเต้นล้มคดียุบพรรคการเมือง โดยมีตำรวจชั้นผู้ใหญ่พยายามนำเงิน 30 ล้านบาทไปติดสินบนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางราย แต่ถูกปฏิเสธ แม้สุดท้ายคดียุบพรรคดำเนินไปตามขั้นตอน ทว่าเหตุการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าการทุจริตได้หยั่งรากลึกเข้าไปถึงกระบวนการยุติธรรม ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยบุคลากรที่มีคุณธรรมและความสุจริตสูงในการตรวจสอบ

ห่วงวิกฤตศรัทธาวัดไทย – เงินทำบุญลด วัดจำนวนมากขาดสภาพคล่อง

     นายชวนยังกล่าวถึงวิกฤตศรัทธาที่เกิดขึ้นในวงการพระพุทธศาสนา จากข่าวการทุจริตในหมู่พระสงฆ์ ทำให้ประชาชนทำบุญน้อยลง จนบางวัดมีเงินทำบุญเหลือเพียงร้อยละ 40 ส่งผลให้ไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายขั้นพื้นฐาน เช่น ค่าน้ำและค่าไฟ จึงขอให้สังคมแยกแยะระหว่าง “พฤติกรรมของบุคคล” กับ “ศาสนา” เพื่อไม่ให้ศาสนสถานที่บริสุทธิ์ต้องได้รับผลกระทบจากข่าวด้านลบ

ย้ำไทยไม่อ่อนแอ แต่การบังคับใช้ยังอ่อนแรง

     นายชวนทิ้งท้ายว่า ประเทศไทยมีกฎหมายที่เข้มแข็งเพียงพอ แต่ปัญหาใหญ่คือการบังคับใช้ที่ไม่จริงจัง หากทุกภาคส่วนร่วมกันทำให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์และบังคับใช้อย่างตรงไปตรงมา ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นก็จะลดลงได้อย่างมีนัยสำคัญ