งานเฉลิมพระเกียรติ ๗๐ พรรษา

Breaking News

สสว. เผยความสำเร็จ “SME ปัง ตังได้คืน” หนุนผู้ประกอบการกว่า 22,000 ราย สร้างเศรษฐกิจ 6,000 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าปี 2569 ดันอีก 3,000 ราย สู่กลุ่มธุรกิจอนาคต

สสว. โชว์ผลงาน “SME ปัง ตังได้คืน” ผ่านระบบ BDS หนุนผู้ประกอบการกว่า 22,000 ราย สร้างมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 6,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าปี 2569 ดัน SME เพิ่ม 3,000 ราย

     สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จัดแถลงข่าวประกาศความสำเร็จของโครงการสนับสนุนผู้ประกอบการผ่านระบบ Business Development Service (BDS) หรือ “SME ปัง ตังได้คืน” ซึ่งทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญช่วยยกระดับผู้ประกอบการไทยทั้งด้านการลดต้นทุนธุรกิจ การเพิ่มประสิทธิภาพ และการสร้างขีดความสามารถการแข่งขันในยุคเศรษฐกิจผันผวน โดยสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมกว่า 6,000 ล้านบาท พร้อมกำหนดทิศทางปีงบประมาณ 2569 ตั้งเป้าขยายการเข้าร่วมเพิ่มอีก 3,000 ราย โดยเน้นกลุ่มธุรกิจอนาคตที่มีศักยภาพสูง ได้แก่ Health & Wellness, Creative & Lifestyle และ Green Business

     นายวิทวัส ล่ำซำ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สสว. เปิดเผยว่า ระบบ BDS ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ SME ไทยเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพ ลดต้นทุนการพัฒนาธุรกิจ และเพิ่มโอกาสสร้างรายได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยโครงการดำเนินต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2565–2568 มีผู้ประกอบการขึ้นทะเบียนแล้วกว่า 30,000 ราย และยืนยันตัวตนบนระบบกว่า 9,100 ราย สะท้อนความต้องการด้านการพัฒนาธุรกิจของ SME ไทยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    อีกทั้ง สสว. ยังทุ่มงบประมาณมากกว่า 260 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการในการปรับปรุงธุรกิจ เช่น การพัฒนามาตรฐานสินค้า การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การยกระดับเทคโนโลยี การขยายช่องทางการตลาด และการเพิ่มโอกาสจัดจำหน่าย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการยกระดับความสามารถการแข่งขันของ SME

     ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ระบบ BDS ได้รับการพัฒนาให้เป็นแพลตฟอร์มกลางเชื่อมโยงผู้ประกอบการและหน่วยงานผู้ให้บริการทางธุรกิจอย่างเป็นระบบ ปัจจุบันมีบริการให้เลือกกว่า 1,000 รายการ จากผู้ให้บริการมากกว่า 285 หน่วยงาน ทั้งจากภาครัฐ สถาบันเชี่ยวชาญ และสถาบันการศึกษา มีผู้ประกอบการยื่นข้อเสนอเพื่อพัฒนาธุรกิจกว่า 4,538 รายการ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมมากกว่า 6,000 ล้านบาท ตอกย้ำบทบาทสำคัญของ BDS ในการขับเคลื่อน SME ไทยสู่ความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืน

      สำหรับปีงบประมาณ 2569 สสว. ได้รับการจัดสรรงบประมาณรวม 300 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าผลักดันให้ SME เข้าร่วมโครงการไม่น้อยกว่า 3,000 ราย โดยมุ่งเน้นการพัฒนากลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพเติบโตสูงในอนาคต อาทิ Health & Wellness, Creative & Lifestyle และ Green Business รวมถึงเปิดโอกาสให้หน่วยบริการทางธุรกิจภาคเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญสามารถขึ้นทะเบียนในระบบได้มากขึ้น

   นอกจากนี้ สสว. ยังเตรียมเปิดโครงการ “สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ” เพื่อช่วยแก้ปัญหาการเข้าถึงแหล่งทุนของผู้ประกอบการรายย่อย พร้อมเสริมองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี การตลาดดิจิทัล มาตรฐานผลิตภัณฑ์ และการพัฒนาธุรกิจตามแนวทาง Green & Sustainable เพื่อให้ SME ไทยสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแรงและมีคุณภาพ

     นายวิทวัสกล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีหน้า สสว. มีแผนขยายความร่วมมือด้านการตลาดและจัดงานแสดงสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเปิดโอกาสให้ SME ไทยได้ออกสู่ตลาดสากล เพิ่มช่องทางสร้างรายได้ใหม่ และลบข้อจำกัดทางการแข่งขันในยุคเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว

     ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ผ่าน
Facebook : OSMEP สสว. / เว็บไซต์ : bds.sme.go.th / แอปฯ : SME CONNEXT /
Facebook : ecommercebyssru / Line : @bdssme