งานเฉลิมพระเกียรติ ๗๐ พรรษา

Breaking News

วช. เปิดเวทีเสวนา “สถานการณ์น้ำท่วม บรรเทาได้ด้วยวิจัยและนวัตกรรม” ชูองค์ความรู้ ลดวิกฤตอุทกภัยในไทย

วช. เปิดเวทีเสวนา “สถานการณ์น้ำท่วม บรรเทาได้ด้วยวิจัยและนวัตกรรม” ชูองค์ความรู้ งานวิจัย และนวัตกรรม ลดวิกฤตอุทกภัยในไทย

ภาพประกอบ: การบรรเทาน้ำท่วมด้วยวิจัยและนวัตกรรมจาก วช.

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 – สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดเสวนาเชิงลึกเรื่อง “สถานการณ์น้ำท่วม บรรเทาได้ด้วยวิจัยและนวัตกรรม” เพื่อชูบทบาทขององค์ความรู้ งานวิจัย และนวัตกรรมในการรับมือวิกฤตอุทกภัย โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการ วช. เป็นประธานเปิดงาน ร่วมด้วยผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย และวิทยากรชั้นนำจากหลากหลายหน่วยงาน กิจกรรมจัดขึ้น ณ ศูนย์ข้อมูลสารสนเทศกลางด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ อาคาร วช. 8

วิกฤตน้ำท่วมปี 2568: สาเหตุและผลกระทบที่ต้องเฝ้าระวัง

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง กล่าวปราศรัยเปิดงานว่า พายุช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2568 ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักตอนบนเพิ่มสูงผิดปกติ ประกอบกับอ่างเก็บน้ำที่กักเก็บไว้จำนวนมากเพื่อเตรียมรับมือฤดูแล้ง สถานการณ์บังคับให้ต้องเร่งระบายน้ำ โดยเฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา ส่งผลกระทบรุนแรงต่อภาคกลางตอนบน เช่น จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงหบุรี และชัยนาท ที่ประชาชนต้องเผชิญน้ำท่วมหนัก

“วช. ยืนเคียงข้างประชาชน ด้วยการสนับสนุนข้อมูลวิชาการ องค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ถอดบทเรียน และวางแผนเฝ้าระวังภัยพิบัติในอนาคต” – ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง

ไฮไลต์เสวนา: 2 ช่วงหลักสู่การแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน

เสวนาดำเนินรายการโดย รองศาสตราจารย์ ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ ผู้อำนวยการแผนงานเป้าหมายสำคัญตามยุทธศาสตร์ ววน. ประเด็นน้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง ของ วช. แบ่งเป็น 2 ช่วงหลัก ดึงดูดผู้เข้าร่วมกว่า 100 คน ทั้งนักวิจัย ผู้กำหนดนโยบาย และประชาชนทั่วไป

ช่วงที่ 1: ระบบคาดการณ์และประเมินสถานการณ์เพื่อป้องกันภัย

  • นายสมควร ต้นจาน จากกรมอุตุนิยมวิทยา: ฝนทั่วประเทศปีนี้มากกว่าค่าเฉลี่ย 9% แต่ยังน้อยกว่าปี 2554 ฝนผิดปกติต้นพฤศจิกายนเกิดจากอากาศแปรปรวน คาดฤดูหนาวเข้าจริง 14 พฤศจิกายน แต่ภาคใต้ (นราธิวาส ปัตตานี ยะลา) ยังฝนหนัก
  • ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ไชยาพงษ์ เทพประสิทธิ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์: น้ำเหนือและใต้เขื่อนมากจากพายุบัวลอย ฝนสั้นๆ ต้นเดือนพฤศจิกายนทำให้เขื่อนตอนบนเต็ม น้ำทะเลหนุนชะลอการระบาย ส่งผลลุ่มเจ้าพระยาตอนบน
  • ดร.ธเนศร์ สมบูรณ์ กรมชลประทาน: จัดการน้ำปลายฤดูฝนเก็บไว้ 80% ของความจุ ปรับตามสถานการณ์ ปัญหาหลักจากแม่น้ำปิงทำให้เขื่อนภูมิพลเต็ม โจทย์ใหญ่: พร่องน้ำพฤษภาคม 2569 ท่ามกลางอากาศแปรปรวน
  • ดร.ศรเทพ วรรณรัตน์ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ: คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติช่วยบริหาร แต่ต้องการวิจัยเพิ่ม เช่น ข้อมูลลำน้ำปัจจุบันและคาดการณ์ฝนดาวเทียมจากต้นน้ำเพื่อนบ้าน สนับสนุน อว. ส่วนหน้าและศูนย์บริหารจังหวัด

ช่วงที่ 2: นวัตกรรมและรับมือสถานการณ์เร่งด่วน

  • รองศาสตราจารย์ ดร.บัญชา ขวัญยืน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์: ถอดบทเรียนสร้างการรับรู้ความเสี่ยง เครือข่ายเฝ้าระวัง ยกระดับจัดการทุ่งรับน้ำ ท่ามกลางความแปรปรวนสภาพอากาศ
  • นายธีรวัติ ศรีประโชติ สมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ: ใช้โดรนสำรวจช่วยเหลือ ร่วม วช. และมูลนิธิเพื่อนพึ่งภัยยาก เพิ่มเจ้าหน้าที่ใบขับขี่โดรน ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันชน ลดขาดแคลนบุคลากร
  • รองศาสตราจารย์ ดร.คเณศ วงษ์ระวี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย: นวัตกรรมสารทองแดงต้านเชื้อราจากความชื้นน้ำท่วม ปรับจากเกษตร ช่วยสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะโรงเรียน

วช. มุ่งมั่น: นวัตกรรมคือกุญแจสู่การรับมือภัยพิบัติยั่งยืน

วช. ตอกย้ำบทบาทสนับสนุนวิจัยและนวัตกรรม เพื่อลดผลกระทบน้ำท่วม เพิ่มประสิทธิภาพบริหารน้ำระยะยาว รับมือปัญหาในเมือง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และภัยธรรมชาติ หวังให้ไทยก้าวสู่ “น้ำมั่นคง ไม่ท่วม ไม่แล้ง” อย่างแท้จริง

ติดตามข่าวสารและนวัตกรรมบรรเทาน้ำท่วมเพิ่มเติมได้ที่: เว็บไซต์ วช.