งานเฉลิมพระเกียรติ ๗๐ พรรษา

Breaking News

สุชาติ ชง ครม.ไฟเขียว! ไทยสู่ NDC 3.0 เร่งแผน Net Zero 2050 สู้โลกเดือด พลิกโอกาสเศรษฐกิจยั่งยืน

สุชาติ ชง ครม. ไฟเขียว! ไทยยกระดับ NDC 3.0 เร่งขับเคลื่อน Net Zero 2050 สู้โลกเดือด พลิกโอกาสเศรษฐกิจยั่งยืน

     นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 มีมติเห็นชอบต่อร่างเป้าหมายการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด ฉบับที่ 2 (NDC 3.0) ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการเร่งเป้าหมาย Net Zero ให้เร็วขึ้น 15 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับ 1.5 ºC Pathway ตามนโยบายของรัฐบาลข้อ 13 การผลักดันสังคมคาร์บอนต่ำ ที่นายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล แถลงต่อรัฐสภา  โดยมุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ (Economy-wide) ณ ปี ค.ศ. 2035 (พ.ศ. 2578) และเร่งเพิ่มเป้าหมายการดูดกลับก๊าซเรือนกระจกในภาคป่าไม้และการใช้ประโยชน์ที่ดิน (LULUCF) ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีระดับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิ 152 MtCO2eq หรือลดลงร้อยละ 47 จากระดับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี ค.ศ. 2019 รวมถึงได้จัดทำแผนการลงทุนเพื่อดึงเม็ดเงินจากต่างประเทศ 230,000 ล้านบาท ในการสนับสนุนไทยลดก๊าซเรือนกระจก 32.8 MtCO2eq ตามเงื่อนไขของความตกลงปารีส
     รมว.ทส. เน้นย้ำว่า การยกระดับเป้าหมาย NDC 3.0 เป็นการเร่งรัดการดำเนินงานตามข้อสั่งการของท่านนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล เพื่อให้บรรลุตามนโยบายที่รัฐบาลได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาโดยเร็ว ทั้งยัง จะเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่จะช่วยให้ประเทศไทยมีแต้มต่อในเวทีโลก เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าระหว่างประเทศ มีศักยภาพดึงดูดการลงทุนสีเขียวและสร้างงานใหม่ ๆ ในภาคเศรษฐกิจที่กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่การพัฒนาแบบปล่อยคาร์บอนต่ำ โดยกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (สส.) ได้จัดส่ง NDC 3.0 ในช่วงบ่ายของวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 ต่อ UNFCCC และจะนำเสนอต่อที่ประชุม COP 30 ณ เมืองเบเล็ง สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล เพื่อประกาศความมุ่งมั่นของไทยในเวทีโลกอย่างเป็นทางการ รวมถึงเร่งการจัดทำแผนปฏิบัติการ (Action Plan) ร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแปลงเป้าหมายสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมกับการเชื่อมโยงระบบติดตามผลแบบดิจิทัล (Digital Tracking) เพื่อให้การดำเนินงานมีความโปร่งใส รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพต่อไป