กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน พร้อมส่งเยาวชนไทย ประชันฝีมือแรงงานเอเชีย ครั้งที่ 3 ณ กรุงไทเป ปลายเดือน พ.ย 68
กรมพัฒน์ อุ่นเครื่อง เตรียมส่งเยาวชนไทย ชิงชัยเวทีฝีมือแรงงานเอเชีย ครั้งที่ 3 ณ กรุงไทเป ปลายเดือนพฤศจิกายน 2568

นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า การแข่งขันฝีมือแรงงานถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนากำลังคนของประเทศ โดยเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงศักยภาพด้านทักษะอาชีพ พร้อมทั้งพัฒนาสมรรถนะในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นทักษะด้านเทคนิค การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา การบริหารจัดการเวลา การสื่อสาร และการทำงานภายใต้แรงกดดัน ซึ่งล้วนเป็นคุณลักษณะสำคัญของแรงงานในโลกยุคใหม่ และเป็นปัจจัยที่นายจ้างให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้จัดแข่งขันฝีมือแรงงานในระดับต่าง ๆ เพื่อช่วยพัฒนาขีดความสามารถของกำลังแรงงาน และเฟ้นหาตัวแทนเยาวชนด้านแรงงาน ส่งเข้าร่วมแข่งขันในเวทีระดับนานาชาติ เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และแสดงให้ทั่วโลกยอมรับในมาตรฐานฝีมือแรงงานไทยด้วย
นายสมาสภ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับปี พ.ศ. 2568 ไต้หวันจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฝีมือแรงงานเอเชีย ครั้งที่ 3 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการไทเปหนานกัง เขตหนานกัง ไทเป ไต้หวัน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมแก่ผู้แข่งขัน ล่าม เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นตัวแทนประเทศไทยก่อนเดินทางเข้าร่วมการแข่งขัน กรมได้จัดสัมมนาเตรียมความพร้อมก่อนเดินทางเข้าร่วมการแข่งขันฝีมือแรงงานเอเชีย ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 22 - 23 พฤศจิกายน 2568 ณ โรงแรมเดอะ พาลาสโซ กรุงเทพมหานคร ซึ่งประเทศไทยได้จัดส่งผู้แข่งขันรวมทั้งสิ้น 19 คน ใน 16 สาขา ประกอบด้วย 1. สาขาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (ประเภททีม) 2. สาขาเทคโนโลยีงานเชื่อม 3. สาขาเทคโนโลยีเว็บ 4. สาขาเทคโนโลยีระบบทำความเย็น 5. สาขาการแต่งผม 6. สาขาหุ่นยนต์เคลื่อนที่ (ประเภททีม) 7. สาขาเมคคาทรอนิกส์ (ประเภททีม) 8. สาขาการบริการอาหารและเครื่องดื่ม 9. สาขาการประกอบอาหาร 10. สาขาเทคโนโลยีระบบไฟฟ้าภายในอาคาร 11. สาขาการสร้างโมเดลในเกมสามมิติ 12. สาขาการก่ออิฐ 13. สาขาการจัดดอกไม้ 14. สาขาการซ่อมตัวถังรถยนต์ 15. สาขาการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วย และ 16. สาขาต่อประกอบมุมไม้
การสัมมนาครั้งนี้ จะช่วยเตรียมความพร้อมให้เยาวชนทั้งด้านร่างกาย และ จิตใจ ฝึกฝนให้รู้จักการทำงานร่วมกัน ช่วยสร้างความเชื่อมั่น จนสามารถเอาชนะคู่แข่งในสนามจริง และสร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติได้แต่ ที่สำคัญที่สุดคือ การนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้ ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน และการประกอบอาชีพได้ต่อไป นายสมาสภ์ กล่าวทิ้งท้าย
