พรรคไทยชนะเดินหน้าทาบ Doctor Dan เป็นแคนดิเดตนายกฯ กระแสตอบรับแรงก่อนเลือกตั้งใหญ่
ดร.แดน ส่งสัญญาณบวกหลังพรรคไทยชนะทาบทาม เสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ชี้ถึงเวลากอบกู้วิกฤตชาติ

สถานการณ์ทางการเมืองไทยเริ่มร้อนแรงขึ้นอีกครั้ง เมื่อกระแสยุบสภาใกล้เข้ามา ทำให้หลายพรรคการเมืองเริ่มขยับตัว โดยเฉพาะ พรรคไทยชนะ ที่ได้เข้าพบและทาบทาม ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ หรือที่ประชาชนรู้จักในชื่อ “Doctor Dan Can Do” เพื่อเชิญเสนอชื่อเป็น แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรค ท่ามกลางความสนใจของสังคมและผลสำรวจนิด้าโพลล่าสุดที่ชี้ว่าประชาชนกว่า 30% ยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรคหรือบุคคลใดเป็นผู้นำประเทศ
✦ พรรคน้องใหม่เดินหน้าเชิญ Doctor Dan ลงสนามเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 นายจักรพงศ์ ชื่นดวง หัวหน้าพรรคไทยชนะ พร้อมด้วยนายโกศล หกสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค และนายประสงค์ แก้ววิจิตร กรรมการบริหาร ได้เข้าพบ ดร.แดน เพื่อปรึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาประเทศและยื่นเทียบเชิญอย่างเป็นทางการให้รับตำแหน่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
บรรยากาศการพูดคุยเต็มไปด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงปัญหาเร่งด่วนของชาติ ทั้ง ปากท้องประชาชน วิกฤตศรัทธา และความไม่มั่นคงทางการเมือง ที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของสังคมไทย
✦ ดร.แดนส่งสัญญาณ “พร้อมพิจารณา” สะเทือนการเมืองไทย
แม้ในอดีต ดร.แดนจะยืนยันบทบาทในฐานะนักวิชาการที่เป็นกลาง แต่จากสถานการณ์ปัจจุบันที่มีความเปราะบางสูง ทำให้เจ้าตัวเริ่มแสดงท่าทีที่เปลี่ยนไป พร้อมกล่าวว่า
“สถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้เปราะบางมาก หากความรู้และความสามารถของผมจะช่วยกอบกู้สถานการณ์ได้ ผมก็มิอาจเพิกเฉย ขอนำข้อเสนอนี้ไปไตร่ตรองด้วยหัวใจที่รักชาติ”
คำกล่าวนี้ถูกมองว่าเป็น “สัญญาณบวก” ที่ชัดเจนที่สุดว่า ดร.แดนอาจตัดสินใจร่วมงานกับพรรคไทยชนะ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จะเป็นอีกหนึ่ง จุดเปลี่ยนสำคัญของสนามการเมืองไทย โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ประชาชนจำนวนมากกำลังมองหาผู้นำรุ่นใหม่ที่มีความรู้ ความสามารถ และปราศจากความขัดแย้งทางการเมือง
✦ จุดเปลี่ยนว่าที่แคนดิเดตนายกฯ ที่ต้องจับตา
การทาบทามครั้งนี้ไม่เพียงจุดกระแสการเมืองให้กลับมาคึกคัก แต่ยังทำให้พรรคการเมืองเกิดใหม่อย่างพรรคไทยชนะมีโอกาสได้รับการจับตามองมากขึ้น ขณะที่ประชาชนกำลังรอดูว่าดร.แดนจะตัดสินใจอย่างไรในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
การเคลื่อนไหวครั้งนี้เสมือนการเปิดฉากใหม่ของเกมการเมืองที่อาจเปลี่ยนดุลอำนาจและความคาดหวังของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศ



