เจ็บน้อย ฟื้นตัวไว กับเทคนิคการผ่าตัดปอดแผลเล็กสมัยใหม่
การผ่าตัดปอดแผลเล็ก : ก้าวใหม่ของการรักษาโรคปอด
โดย รศ.นพ.ศิระ เลาหทัย
ศัลยแพทย์ทรวงอกจากศูนย์ผ่าตัดส่องกล้อง
โรงพยาบาลวชิรพยาบาล

การผ่าตัดปอดถือเป็นหนึ่งในการผ่าตัดใหญ่ของร่างกาย เพราะเกี่ยวข้องกับการเปิดช่องอก ซึ่งในอดีตต้องใช้วิธี “เปิดแผลกว้าง” ยาวหลายเซนติเมตร เพื่อให้ศัลยแพทย์สามารถมองเห็นและทำการผ่าตัดได้เต็มที่ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ได้พัฒนาไปมาก จนสามารถผ่าตัดผ่าน แผลเล็ก โดยใช้กล้องและเครื่องมือพิเศษ ช่วยให้การรักษามีความปลอดภัยและฟื้นตัวได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เทคนิคการผ่าตัดแผลเล็กที่เราสามารถทำได้ในปัจจุบัน การผ่าตัดส่องกล้องแผลเดียวชั้นสูง (Uniportal VATS) ศัลยแพทย์ใช้แผลเพียงรูเดียวเล็ก ๆ ผ่านเข้าบริเวณช่องซี่โครง เพื่อทำให้เจ็บน้อยลง เกิดแผลเป็นเล็ก ข้อดีของการผ่าตัดปอดแผลเล็ก เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็วและลดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดแฟบ การติดเชื้อหรือการเสียเลือด
ปัจจุบันประเทศไทย สามารถผ่าตัดส่องกล้องปอดแบบจุดเดียว เพื่อรักษาโรคมะเร็งปอดระยะต้น, โรคถุงลมโป่งพองจนทำให้ปอดรั่ว (Bullae, Spontaneous pneumothorax), โรคเนื้องอกในช่องอก (เช่น thymoma) และการเอาน้ำหรือหนองในช่องอกออก เป็นต้น โดยข้อจำกัดของวิธีการผ่าตัดส่องกล้องแผลเดียวชั้นสูง (Uniportal VATS) นั้น คือ ถ้าหากก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่หรือแพร่กระจายมาก อาจจะต้องใช้วิธีการผ่าตัดเปิดและต้องอาศัยทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและอุปกรณ์ครบถ้วน
รศ.นพ.ศิระ เลาหทัย ศัลยแพทย์ทรวงอกจากศูนย์ผ่าตัดส่องกล้อง โรงพยาบาลวชิรพยาบาล กล่าวว่า ลักษณะของปอดนั้นเป็นอวัยวะในระบบทางเดินหายใจ ทำหน้าที่แลกเปลี่ยนออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์กับเลือด โครงสร้างของปอดประกอบด้วยหลอดลม เนื้อปอด ถุงลมฝอยและหลอดเลือดฝอย หากโครงสร้างเหล่านี้เกิดความผิดปกติรุนแรงและไม่สามารถรักษาให้หายได้ด้วยการใช้ยาหรือวิธีการรักษาแบบอื่น ๆ แพทย์จะอาจจะพิจารณาการรักษาด้วยการผ่าตัด แก้ไขสาเหตุที่เกิด เช่น มะเร็ง หรือ เนื้องอก โดยการผ่าตัดปอดคือการผ่าตัดนำเนื้อเยื่อปอดที่มีรอยโรคหรือความผิดปกติออกไปบางส่วนหรือทั้งหมด โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการรักษาสมรรถภาพการทำงานของปอดที่เหลืออยู่ให้ได้มากที่สุด และ ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีและลดภาวะแทรกซ้อน การผ่าตัดส่องกล้องแผลเล็ก (Uniportal VATS) มีภาวะแทรกซ้อนน้อย ปวดแผลน้อยกว่าการผ่าตัดแบบปกติ ทำให้การนอนในโรงพยาบาลใช้ระยะเวลาที่สั้นลง และยังสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่าอีกด้วย และเป็นวิธีที่พบบ่อยในการรักษาโรคมะเร็งปอดระยะเริ่มต้นซึ่งเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
โดยทั่วไปแล้วประเภทของการผ่าตัดปอดจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งและขนาดของเนื้อเยื่อที่ต้องการตัดออก เช่น 1. ตัดออกเฉพาะส่วนเล็ก ๆ ของปอด เช่น การตัดลิ่มปอด (Wedge Resection) หรือตัดปอดเป็นส่วนย่อยตามโครงสร้าง (Segmentectomy) มักใช้กับรอยโรคขนาดเล็กหรือเพื่อการวินิจฉัย 2. ตัดกลีบปอดทั้งกลีบ (Lobectomy) เป็นวิธีที่พบบ่อยในการรักษามะเร็งปอดระยะเริ่มต้น โดยตัดปอดออกไปทั้งกลีบ 3. ตัดปอดทั้งข้าง (Pneumonectomy) มักทำเมื่อรอยโรคมีขนาดใหญ่มาก และ 4. ตัดกลีบปอด (Sleeve lobectomy) ร่วมกับหลอดลมที่เกี่ยวข้องออก แล้วต่อหลอดลมส่วนที่เหลือให้ได้มากที่สุด เป็นเทคนิคที่ซับซ้อน ใช้เมื่อมะเร็งลุกลามเข้าหลอดลมใหญ่
การตัดสินใจผ่าตัดปอด แพทย์จะทำการประเมินจากหลายปัจจัย ทั้งชนิดของโรค ระยะความรุนแรง สุขภาพของผู้ป่วยโดยรวมและความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการผ่าตัด เพื่อให้แน่ใจว่าการผ่าตัดจะนำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดต่อผู้ป่วย เช่น 1.การรักษามะเร็งปอดระยะแรก(ระยะ 1 และ 2) ให้ประสิทธิภาพเทียบเท่ากับการผ่าตัดแบบเปิดในการกำจัดเซลล์มะเร็ง โดยการผ่าตัดจะเน้นไปที่การตัดกลีบปอดที่มีก้อนมะเร็งออก พร้อมกับการเลาะต่อมน้ำเหลืองที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าได้กำจัดเซลล์มะเร็งออกได้ทั้งหมด 2.ก้อนเนื้อในปอด โดยการผ่าตัดด้วย VATS เป็นทางเลือกในการตัดชิ้นเนื้อ เพื่อนำไปตรวจในห้องปฏิบัติการ เลือกตัดก้อนเนื้อออกทั้งหมดในกรณีที่สงสัยว่าเป็นเนื้อร้ายหรือเป็นก้อนเนื้อที่ก่อให้เกิดอาการ ซึ่งส่งผลต่อการใช้ชีวิต โดยการทำ VATS ช่วยให้แพทย์เห็นก้อนเนื้อได้อย่างชัดเจนและตัดออกได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ต้องเปิดแผลใหญ่ 3.ภาวะหนองในเยื่อหุ้มปอด เช่น ฝีหนอง ที่เกิดจากการให้ยาปฏิชีวนะหรือการใส่สายระบายหนองแล้วได้ผลที่ไม่ดีพอ การผ่าตัดจะช่วยในการระบายหนองและเศษเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อออกอย่างทั่วถึง ทั้งยังสามารถทำความสะอาดช่องเยื่อหุ้มปอด ทำให้ปอดกลับมาขยายตัวได้อย่างเต็มที่ และ 4.เนื้องอกในช่องอกชนิดอื่น ๆ เช่น เนื้องอกต่อมไทมัส (Thymoma) ซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าของหัวใจ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่เกี่ยวข้องกับเนื้องอกต่อมไทมัส
ทั้งนี้การผ่าตัดส่องกล้องแผลเล็ก VATS จะมีข้อดีในหลายปัจจัยก็ตาม แต่ก็ยังมีข้อจำกัดไม่เหมาะกับผู้ป่วยบางรายอยู่หลายประเด็น เช่น ในกรณีที่โรคลุกลามมาก เช่น มะเร็งปอดระยะลุกลามกินยังอวัยวะใกล้เคียง ภาวะมะเร็งเยื่อบุช่องอกหรือภาวะติดเชื้อเรื้อรังในช่องอกที่มีพังผืดหนามาก ซึ่งในกรณีเหล่านี้อาจจำเป็นต้องใช้การผ่าตัดเปิดแบบดั้งเดิม นอกจากนี้หากก้อนเนื้อมีขนาดใหญ่เกินไปการผ่าตัดส่องกล้องอาจทำได้ยากขึ้น ติดตามข่าวสารของ รศ.นพ. ศิระ เลาหทัย (ศัลยแพทย์ทรวงอก)ได้ที่เฟซบุ๊ก : ผ่าตัดปอดโดยรศ.นพ.ศิระ เลาหทัย หรือ Youtube : ผ่าตัดปอด หรือ Lineid:@lungsurgeryth หรือเว็บไซต์ https://www.siradoctorlung.com ได้ทุกช่องทาง