งานเฉลิมพระเกียรติ ๗๐ พรรษา

Breaking News

"กมธ.สว." แฉ! รัฐมนตรีดังเอี่ยวคดีบุกรุกป่าสงวนโคราช พื้นที่โรงงานแป้งมันรุกป่าหลายร้อยไร่

กมธ.สว."สอบโรงงานแป้งมันรุกป่าพบ 'รมต.คนดัง' เอี่ยวคดีใหญ่โคราช พื้นที่หลายร้อยไร่! ไม่ใช่แค่ที่อุบล โผล่โคราชด้วย สว.ชี้ รัฐมนตรี 'คนเดิม' สารภาพบุกรุกป่าสงวนฯ ทำบ่อบำบัด 18 บ่อหลาย 100 ไร่ พบยังไม่ได้ฟื้นฟู พื้นที่ป่าถูกยึดครอง

     วันที่ 19 สิงหาคม 2568 – คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา นำโดย นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธาน กมธ. เปิดเผยข้อมูลช็อกวงการ กรณีโรงงานแป้งมันสำปะหลังรายใหญ่ในภาคอีสานบุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติใน อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา และ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยมีชื่อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคนหนึ่ง ในรัฐบาลชุดปัจจุบันตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ สร้างความสนใจอย่างมากในสังคม

พบการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าดงอีจานใหญ่

     จากการตรวจสอบของ กมธ. พบว่าโรงงานแป้งมันสำปะหลังใน อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา มีการยึดครองที่ดินของรัฐในพื้นที่ทับซ้อนระหว่าง เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงอีจานใหญ่ และ เขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ครอบคลุมพื้นที่หลายร้อยไร่ โดยมีการก่อสร้าง บ่อบำบัด 18 บ่อ เพื่อใช้ในกระบวนการผลิต ซึ่งถือเป็นการบุกรุกป่าสงวนฯ อย่างชัดเจน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวยังไม่ได้รับการจัดสรรเป็น ส.ป.ก. 4-01 ตามกฎหมาย

    นายชีวะภาพระบุว่า การตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศล่าสุดพบว่า พื้นที่ดังกล่าวยังคงถูกใช้ประโยชน์โดยโรงงาน และ ยังไม่มีการฟื้นฟูป่า ตามคำสั่งศาลที่ให้ชดเชยค่าเสียหายกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการไกล่เกลี่ยในชั้นศาลเมื่อครั้งก่อน

คดีซ้ำรอยที่อุบลราชธานี

     นอกจากนี้ ยังพบคดีในลักษณะเดียวกันที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี บริเวณพื้นที่ ทะเลเลี้ยงสัตว์หาดสวนยา ซึ่งอยู่ภายใต้การสอบสวนของ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยคดีนี้มีความล่าช้าและใกล้จะหมดอายุความ สร้างความกังวลต่อการบังคับใช้กฎหมาย น่าสนใจว่า ผู้ต้องหาในทั้งสองคดีนี้เป็น บุคคลเดียวกัน และปัจจุบันดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการ ในรัฐบาลชุดนี้

การประชุม กมธ. และการเรียกหน่วยงานชี้แจง

     ในการประชุมเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 กมธ. ได้เชิญผู้แทนจาก กรมป่าไม้ กรมที่ดิน และ ดีเอสไอ เข้าชี้แจงข้อเท็จจริง พบว่า การบังคับใช้กฎหมายในคดีนี้ยังไม่ครบถ้วนตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการดำเนินคดีบุกรุกป่าสงวนฯ และการฟื้นฟูพื้นที่ที่ถูกยึดครอง

     นายชีวะภาพยืนยันว่า กมธ. จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และเรื่องนี้ ไม่ใช่เครื่องมือทางการเมือง แต่ต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยสัปดาห์หน้า กมธ. จะเชิญ ส.ป.ก. และ กรมป่าไม้ มาชี้แจงความคืบหน้าเพิ่มเติม รวมถึงตรวจสอบว่าได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดหรือไม่

ความสำคัญของคดีและผลกระทบต่อสังคม

     คดีนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ แต่ยังชี้ให้เห็นถึงความล่าช้าในการบังคับใช้กฎหมายและการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะเมื่อมี บุคคลระดับสูง เข้าไปพัวพัน ซึ่งนายชีวะภาพย้ำว่า “ต้องทำให้สังคมรับรู้ข้อเท็จจริง” เพื่อความโปร่งใสและความยุติธรรม

สรุป

     กรณีโรงงานแป้งมันสำปะหลังบุกรุกป่าสงวนใน จ.นครราชสีมา และ จ.อุบลราชธานี ที่มีชื่อรัฐมนตรีคนดังเกี่ยวข้อง กำลังเป็นที่จับตาของสังคม โดย กมธ. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา จะเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและผลักดันให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและรักษาความยุติธรรมในสังคม