มูลนิธินาคราช-วัดป่ารวกใต้ ผนึกวัดซูจินจากเกาหลีใต้ วางศิลาฤกษ์ “ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี-ไทย” เชื่อมพลังสองวัฒนธรรม
มูลนิธินาคราช-วัดป่ารวกใต้ จับมือวัดซูจินจากเกาหลีใต้ วางศิลาฤกษ์ “ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี-ไทย” เสริมพลัง Soft Power เชื่อมสองวัฒนธรรม
ปทุมธานี – 5 สิงหาคม 2568: มูลนิธินาคราช(Nakaraj Foundation) ร่วมกับวัดป่ารวกใต้ และวัดซูจินจากประเทศเกาหลีใต้ จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ “ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี–ไทย” (Korea-Thailand Cultural Center Groundbreaking Ceremony) อย่างเป็นทางการ ณ พื้นที่มูลนิธินาคราช ตำบลสามโคก จังหวัดปทุมธานี บนพื้นที่กว่า 2 ไร่ โดยมีบุคคลสำคัญจากหลากหลายวงการร่วมเป็นเกียรติในพิธี พร้อมกิจกรรมแสดงวัฒนธรรมเกาหลีแบบจัดเต็ม มุ่งสร้างสะพานเชื่อมโยงศิลปะ ศาสนา การศึกษา และการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ
พิธีเริ่มต้นขึ้นในเวลา 10.00 น. โดยมี ดร.เหมโชค สิงห์สมบุญ รองประธานมูลนิธินาคราช เป็นประธานในฝ่ายฆราวาส และ พระแดซอง จากวัดซูจิน ประเทศเกาหลีใต้ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ร่วมด้วยแขกผู้มีเกียรติ เช่น
- นางสาวกาลปพฤกษ์ สกุลจารุพงศ์ ประธานบริษัท ครีมไลก์ จำกัด
- นายกิตติพงษ์ สุประดิษฐ์ ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บล.ไอร่า
- นายพีรพล สุขเจริญธรรม ศิลปินออกแบบและ เพ้นท์สี
- อ.นิติกฤษย์ กิตติศรีวรนันท์ ผู้เชี่ยวชาญพลังตัวเลข
- ผู้แทนจากสมาพันธ์ SME ไทย จังหวัดเชียงราย
- ตัวแทนจากบริษัทต่างประเทศ เช่น NSJj Group, ตัวแทนสาธารณรัฐคาซัคสถาน และ เซดาร์ แอนด์ ลอรี่
ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี–ไทย ก้าวใหม่แห่งมิตรภาพเอเชีย
ดร.เหมโชค เผยว่า ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี–ไทย จะเป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม การศึกษา และองค์ความรู้ด้านศิลปะ แพทย์แผนโบราณ ผลิตภัณฑ์ความงาม สมุนไพรไทย ตลอดจนเป็นพื้นที่สร้างความเข้าใจระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ
“โครงการนี้ไม่ใช่เพียงการสร้างอาคาร แต่เป็นการสร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทยและเกาหลีใต้ผ่านวัฒนธรรม ศิลปะ และวิถีชีวิต ซึ่งจะนำไปสู่ความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการศึกษาในอนาคต” – ดร.เหมโชค สิงห์สมบุญ
เสียงสะท้อนจากฝั่งเกาหลีใต้
พระแดซอง แห่งวัดซูจินกล่าวว่า ศูนย์วัฒนธรรมนี้จะเป็นสถานที่อันทรงคุณค่าสำหรับชาวพุทธและประชาชนทั่วไป ที่ต้องการศึกษาและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง พร้อมเน้นถึงโอกาสในการร่วมมือด้าน เกษตรกรรม ซึ่งเกาหลีใต้ให้ความสนใจอย่างมาก เนื่องจากประเทศไทยมีสภาพอากาศที่เหมาะสมกับการปลูกพืชหลายชนิดที่สามารถนำไปต่อยอดเชิงเศรษฐกิจได้

นอกจากนี้ พระแดซองยังกล่าวถึงการสนับสนุนการท่องเที่ยวว่า มีชาวเกาหลีใต้ซึ่งเป็นลูกศิษย์วัดซูจินจำนวนมากเดินทางมาเยือนไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมวางแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพื่อให้คนเกาหลีเข้าใจประเทศไทยในมิติต่างๆ มากขึ้น
เสียงจากภาคธุรกิจไทย
นางสาวกาลปพฤกษ์ สกุลจารุพงศ์ กล่าวเสริมว่า กระแส K-Culture ไม่ใช่เพียงกระแสแฟชั่นชั่วคราว แต่เป็นพลัง Soft Power ที่แทรกซึมอยู่ในวิถีชีวิตคนไทยผ่านอาหาร ดนตรี ละคร และเครื่องสำอาง และความร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงวัฒนธรรมเกาหลีได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสที่คนเกาหลีจะได้เรียนรู้และซึมซับวัฒนธรรมไทยไปด้วย
ปิดท้ายด้วยการแสดงศิลปวัฒนธรรมเกาหลีสุดประทับใจ
ภายหลังพิธีวางศิลาฤกษ์ ได้มีการจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมเกาหลีจากคณะศิลปินมืออาชีพ อาทิ
- บินาริ (บทสวดอวยพร)
- ชอนชู บารา (รำขจัดสิ่งชั่วร้าย)
- กานยอ โอเค (ระบำพัดเกาหลีโบราณ)
- บันยา ซิมกยอง (บทสวดทางพุทธศาสนา)
- ซัลปุริ (ระบำขจัดโชคร้าย)
- ซามุลโนริ ซอนบัน (ระบำแห่งท้องฟ้าอันสง่างาม)
การแสดงเหล่านี้ไม่เพียงสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความลึกซึ้งทางวัฒนธรรมเกาหลีที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกและจิตวิญญาณได้อย่างทรงพลัง
ปักหมุด “ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี–ไทย” เป็นแลนด์มาร์กใหม่ในปทุมธานี
การก่อสร้างศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี–ไทย ในจังหวัดปทุมธานี นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของความร่วมมือไทย-เกาหลีใต้ ที่ส่งเสริม Soft Power อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในด้านศิลปะ วัฒนธรรม ศาสนา การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจฐานรากในอนาคต