TSAG จัดประชุมนานาชาติด้านเวชศาสตร์ความงามทางนรีเวช ครั้งที่ 2 เปิดเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้-นวัตกรรมระดับโลก

งานประชุมวิชาการนานาชาติครั้งที่ 2 และปฏิบัติการด้านเวชศาสตร์ความงามทางนรีเวช

     สมาคมเวชศาสตร์ความงามทางนรีเวชแห่งประเทศไทย (Thai Society of Aesthetic Gynaecology: TSAG) ร่วมกับภาควิชาสูติ-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล จัด “การประชุมวิชาการนานาชาติและปฏิบัติการด้านเวชศาสตร์ความงามทางนรีเวช ครั้งที่ 2” ) 2nd TSAG International Congress & Hands-on Workshop Innovations) ระหว่างวันที่ 14–15 สิงหาคม 2568 ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ

ยกระดับมาตรฐาน Aesthetic Gynecology ไทยสู่เวทีโลก

     TSAG มีพันธกิจหลักในการส่งเสริมการวิจัย การพัฒนาเทคโนโลยี และการเผยแพร่องค์ความรู้ด้าน เวชศาสตร์ความงามทางนรีเวช (Aesthetic Gynecology) ให้ทันสมัยและเทียบเท่ามาตรฐานสากล พร้อมสร้างความตระหนักด้านสุขภาพและความงามอย่างครบวงจรแก่ประชาชน โดยมีวิสัยทัศน์ให้ผู้หญิงไทยและทั่วโลกมีสุขภาพดีทั้งกาย ใจ และจิตวิญญาณ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยืนยาว

ไฮไลต์น่าสนใจในงานประชุม

     การประชุมครั้งนี้รวมตัวผู้เชี่ยวชาญจากไทย สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย และอินเดีย เพื่อนำเสนอองค์ความรู้และนวัตกรรมล้ำสมัย อาทิ

• การใช้สเต็มเซลล์ เพื่อฟื้นฟูสุขภาพและความงามทางนรีเวช

• การตรวจวิเคราะห์พันธุกรรม เพื่อค้นหายีนที่เกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพภายในของผู้หญิง

• Personalized Treatment การรักษาเฉพาะบุคคลในระดับเซลล์ เพื่อความแม่นยำและผลลัพธ์สูงสุด

     นอกจากนี้ยังมี Hands-On Workshop สำหรับแพทย์ เพื่อฝึกปฏิบัติเทคนิคและใช้เครื่องมือเทคโนโลยีล่าสุด โดยมีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด

ความเห็นจากผู้บริหารสมาคม TSAG

     นพ.สถาพร จินารัตน์ นายกสมาคม TSAG กล่าวถึงเป้าหมายของการจัดงานว่า

“เราอยากมอบความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้แพทย์ทุกสาขา ทั้งไทยและต่างประเทศ พร้อมสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับสมาคมแพทย์ทั่วโลก เพื่อพัฒนา Aesthetic Gynecology ให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน”

     นอกจากนี้ รองอุปนายกสมาคมยังเสริมว่า ความต้องการด้านเวชศาสตร์ความงามทางนรีเวชในประเทศไทยและทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้หญิงให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและความงามในทุกช่วงวัย

ก้าวสำคัญของวงการแพทย์ไทย

    งานนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของประเทศไทยในการยกระดับมาตรฐานการดูแลสุขภาพและความงามของผู้หญิง ด้วยความร่วมมือจากเครือข่ายแพทย์ระดับนานาชาติ สะท้อนให้เห็นว่า “แพทย์ไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก” และพร้อมก้าวสู่ผู้นำด้านเวชศาสตร์ความงามทางนรีเวชในภูมิภาคเอเชีย