วินาทีชีวิต: ของผมและคุณแม่คิตตี้ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวครั้งประวัติศาสตร์ของไทย ที่รัฐสภา
เมื่อเหตุเกิดในอาคารรัฐสภา: เรื่องจริงจากผู้สื่อข่าว

"ทุกอย่างเกิดขึ้นในพริบตา... ตึกเริ่มส่ายไหว เสียงกรีดร้อง และทุกคนต่างวิ่งหนีกันอย่างโกลาหล ผมกับคุณแม่คิตตี้จับมือกันแน่น ไม่รู้ว่าเราจะไปทางไหน แต่ในวินาทีนั้น ผมรู้แล้วว่าเธอคือคนที่ผมจะต้องพาไปด้วย..." - เอก
วันที่ 28 มีนาคม 2568 จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ไทยตลอดกาล เมื่อแผ่นดินไหวขนาดมหึมา 8.2 ริกเตอร์ที่มีศูนย์กลางในประเทศเมียนมา ส่งคลื่นสั่นสะเทือนเขย่ากรุงเทพฯและอีกหลายจังหวัด ท่ามกลางความโกลาหลนั้น ผมและคุณแม่คิตตี้ต้องเผชิญกับวินาทีที่ต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร ณ อาคารรัฐสภาใหม่ เกียกกาย
ความฝันที่กลายเป็นฝันร้าย
"คุณแม่คิตตี้ตื่นเต้นมากที่จะได้มาเยือนอาคารรัฐสภาหลังใหม่เป็นครั้งแรก" "เธอถ่ายรูปไปทั่ว วางแผนโพสต์ลงโซเชียลด้วยความภูมิใจ แต่ใครจะรู้ว่าวันแห่งความสุขจะกลายเป็นวันแห่งความหวาดผวาในพริบตา"
เวลาประมาณ 13.30 น. ขณะที่ผมและคุณแม่คิตตี้นั่งคุยกันหลังจากงานสัมมนาที่ชั้น B1 และเตรียมตัวจะออกเดินทางไปถวายสังฆทานที่วัดและทานอาหารที่ Sizzler ตามแผน โลกก็พลิกผัน
"ผมเห็นคุณแม่คิตตี้สีหน้าสงสัย ตาเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจ" "ผมหันไปมองทิศทางที่เธอจ้องและเห็นกำแพงของอาคารรัฐสภากำลังสั่น แกว่งไกวไม่หยุด"
"คุณรู้สึกเวียนหัวไหมคะ?" คุณแม่คิตตี้ถามด้วยเสียงสั่น ตอนนั้นเธอยังไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น
"นี่มันแผ่นดินไหว!" ประสบการณ์ในเซี่ยงไฮ้ทำให้ผมรู้ได้ทันทีว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น "เราต้องออกจากตึกนี้ เร็ว!"
นาทีที่สับสนท่ามกลางความโกลาหล
"มันช่างเป็นภาพที่น่าตกใจ" "ทุกคนต่างวิ่งหนีอย่างไร้ทิศทาง เด็กๆ ร้องไห้จ้า ผู้หญิงคนหนึ่งอุ้มเด็กวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต ผมรีบชี้ไปที่ทางออก ขณะที่คุณแม่คิตตี้พยายามบอกทางหนีให้คนอื่นๆ"
"ตอนนั้นผมแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เสาสั่นคลอน เศษฝุ่นฝ้าเพดานเริ่มร่วงลงมา และพื้นใต้เท้าเราสั่นไหวราวกับยืนอยู่บนเรือกลางมหาสมุทรที่มีพายุ"
ท่ามกลางความวุ่นวาย คุณแม่คิตตี้ขอแยกไปเข้าห้องน้ำ ด้วยความกังวลว่าเมื่อออกไปแล้วจะไม่มีห้องน้ำให้ใช้ ผมรออยู่ด้านหน้าจนเธอออกมา เรากึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมานอกอาคารอยู่ในบริเวณลานโล่ง
หลบภัยสู่ที่ปลอดภัย ท่ามกลางข่าวร้าย
เมื่อได้ยินเสียงประกาศดังทั่วรัฐสภา เรารีบไปที่ลานจอดรถใต้ดินชั้น B2 ขณะที่เสียงไซเรนและประกาศฉุกเฉินดังก้องต่อเนื่องไปทั่วอาคาร
"กว่าจะหารถเจอ ก็โชคดีที่คุณแม่คิตตี้เป็นคนช่างถ่ายรูป เธอถ่ายจุดจอดรถเอาไว้เสมอ ไม่อย่างนั้นเราคงต้องวิ่งวนหาอยู่นาน"
ระหว่างทาง เรารีบโทรหาครอบครัว ด้วยความกังวลว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะส่งผลกระทบไปถึงบ้านของพวกเรา
"ผมรู้สึกโล่งอกมากเมื่อได้ยินเสียงแม่ผมตอบรับ แต่ความโล่งใจนั้นอยู่ได้ไม่นาน เมื่อข่าวเริ่มกระจายว่ามีตึกถล่มแถวจตุจักร และมีผู้เสียชีวิตหลายราย"
ไลฟ์สดกลางวิกฤต: เมื่อคนแปลกหน้ากลายเป็นผู้ช่วยเหลือ
ด้วยสัญชาตญาณนักข่าวของคุณแม่คิตตี้ เธอเสนอให้ไลฟ์สดผ่าน YouTube เพื่อบันทึกเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์นี้
"ตอนแรกผมคิดว่ามันเป็นความคิดที่ดีไหม" "แต่ไลฟ์สดนั้นกลายเป็นสายชีวิตของเรา ผู้ชมจากทั่วประเทศเข้ามาแนะนำเส้นทางหลบเลี่ยงจุดอันตราย บอกข่าวล่าสุด และให้กำลังใจเรา"
การเดินทางกลับบ้านที่ควรใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง กลายเป็นการติดอยู่บนท้องถนนนานกว่า 3 ชั่วโมง ท่ามกลางความวุ่นวาย ทั้ง BTS และ MRT หยุดให้บริการ ห้างต่างๆ ปิดตัวลง และผู้คนมากมายต้องเดินเท้ากลับบ้าน
"ถนนทุกสายเป็นอัมพาต" "ที่น่าตกใจคือเราเห็นประชาชนนับพันยืนเรียงรายริมถนน พวกเขาออกมาจากอาคารสูงเพราะกลัวอาฟเตอร์ช็อค บางคนมีเพียงเสื้อผ้าบนตัว ไม่มีแม้กระทั่งกระเป๋าหรือโทรศัพท์มือถือ"
บททดสอบความจริงใจ ในวันที่โลกสั่นสะเทือน
"ทุกคนพูดถึงเหตุการณ์นี้ยิ่งกว่านิยายหรือภาพยนตร์ ผมได้เห็นความจริงใจในวันนั้น" "คุณแม่คิตตี้ไม่แสดงความกลัว แม้ผมจะรู้ว่าเธอหวาดกลัวแค่ไหน เธอยังพยายามช่วยคนอื่น แม้ในยามที่ชีวิตของเราเองก็อยู่ในอันตราย"
ไลฟ์สดดำเนินไปนานถึง 2 ชั่วโมง 40 นาที จนในที่สุดต้องยุติเพราะคุณแม่คิตตี้เมื่อยล้าจากการขับรถและต้องเข้าห้องน้ำ
"ตลอด 2 ชั่วโมง 40 นาทีนั้น ผมได้เรียนรู้อะไรมากมายเกี่ยวกับคุณแม่คิตตี้" "ความเข้มแข็ง ความมีน้ำใจ และจิตใจที่เป็นห่วงคนอื่นก่อนตัวเอง"
จากวิกฤตสู่พันธสัญญา
คุณแม่คิตตี้ กล่าวว่า "คุณแม่คิตตี้ขอบคุณพี่เอกที่อยู่เคียงข้างกันเสมอ ไม่เคยทิ้งกันในช่วงเวลาวิกฤติ"
"ผมอยากตอบกลับคุณแม่คิตตี้ว่า: ไม่มีพายุลูกไหน แผ่นดินไหวครั้งใด หรือหายนะใดๆ ที่จะแยกเราได้ คุณคือแรงบันดาลใจ คือความกล้าหาญ และคือทุกสิ่ง วันนั้นผมอาจดูเหมือนเป็นฝ่ายปกป้องคุณ แต่ความจริงแล้ว ความเข้มแข็งของคุณต่างหากที่ทำให้เรายืนหยัดได้"
"เมื่อโลกสั่นสะเทือน เราได้พบรากฐานที่มั่นคง ยืนหยัดกับทุกๆ พายุชีวิตที่จะมาถึง"
บทส่งท้าย: บทเรียนจากโศกนาฏกรรม
ไลฟ์สดที่เริ่มต้นเพียงเพื่อบันทึกเหตุการณ์ กลับได้รับความสนใจมากถึง 89,000 วิว กลายเป็นหนึ่งในบันทึกประวัติศาสตร์ของเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย
"ทุกวันนี้ เมื่อใดที่ผมมองไปที่อาคารรัฐสภา ผมไม่ได้เห็นแค่ตึกสวยงาม แต่เห็นความเปราะบางของชีวิต"
"ผมและคุณแม่คิตตี้ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ และหวังว่าเรื่องราวของเราจะเป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัยทุกท่าน ให้เชื่อมั่นว่า แม้โลกจะสั่นคลอน แต่มิตรภาพและน้ำใจไทยจะยังคงยืนหยัดเสมอ"
ติดตามชมคลิปเหตุการณ์แผ่นดินไหวย้อนหลังได้ที่ช่อง Youtube Postupnews:
https://www.youtube.com/live/U8Y3sNOgV9U
#แผ่นดินไหวไทย2568 #8.2ริกเตอร์ #รัฐสภาไทย #คุณแม่คิตตี้ #PostUpNews #kitdeenews